เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีนปฏิเสธเลือกข้าง หวังปลดชนวนความขัดแย้ง หลังเกิดเหตุกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์บุกถล่มงานเทศกาลกินเนื้อสุนัข โดยระบุในบทความว่า สุนัขอาจเป็นได้ทั้งเพื่อนและอาหารมื้อค่ำของคุณ
หนังสือพิมพ์พีเพิ่ลส์เดลีออกมาเรียกร้องความอดทนอดกลั้นและความเข้าใจกันในบทบรรณาธิการ ซึ่งไม่ปรากฎชื่อผู้เขียน ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างหนักในสังคมจีนประเด็นงานเทศกาลกินเนื้อสุนัขเมืองอี้ว์หลิน เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงก่วงซี (กวางสี) ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
งานเทศกาลกินเนื้อเจ้าตูบนี้จัดขึ้นมานานหลายสิบปีแล้วในวันครีษมายัน (sum solstice) ซึ่งเป็นวันที่โลกมีกลางวันยาวกว่ากลางคืนในซีกโลกเหนือในวันที่ 21 มิ.ย. ของทุกปี อย่างไรก็ตาม เทศกาลถูกกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ และบุคคลมีชื่อเสียง เช่น เบ็ตตี้ ซุนลี่ และวิกกี้ เจ้าเวย กระหน่ำโจมตีในโซเชียลมีเดีย กลายเป็นการรณรงค์ต่อต้านการกระทำทารุณต่อสัตว์ไปทั่วโลก
นักเคลื่อนไหวหลายคนลงทุนเดินทางไปประท้วงถึงในงานเทศกาล และเกิดการปะทะกับประชาชนในท้องถิ่น
กระนั้นก็ตาม งานเทศกาลยังคงเดินหน้าจัดต่อไปตามกำหนดในวันเสาร์ ที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีการฆ่าสุนัขหลายพันตัว นำมาปรุงเป็นมื้ออาหารรสโอชะ ขณะที่นักเปิบพิสดารหลั่งไหลไปยังตลาด และภัตตาคาร ร้านอาหารใหญ่น้อย ที่มีเมนูเนื้อเจ้าตูบจานเด็ดคอยเสิร์ฟ
นักรณรงค์สิทธิสัตว์ระบุว่า พฤติกรรมการกินเนื้อสุนัขยังแพร่หลายในท้องถิ่นอื่น ๆ อีกด้วย
ตามปกติพีเพิ่ลส์เดลีมักใช้ถ้อยคำแข็งกร้าวเมื่อนำเสนอประเด็นทางการเมือง แต่มาคราวนี้กลับมีท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ โดยระบุว่า ถึงแม้มีการจัดงานเทศกาลกินเนื้อสุนัขที่เมืองอี้ว์หลินเป็นประจำทุกปี แต่ก็ควรมีการจัดงานเทศกาลเพื่อพิทักษ์ปกป้องน้องหมาในที่อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
“ ในความเป็นจริงแล้ว สุนัขเป็นสัตว์ ที่เป็นได้ทั้งเพื่อนและอาหาร ผู้คนที่แตกต่างกันมองเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน จึงทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น” บทบรรณาธิการระบุ
นอกจากนั้น ยังชี้ว่า อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นแค่เรื่องเกี่ยวกับอาหารในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นหัวข้อถกเถียงหนักหน่วงในสังคมเกี่ยวกับ “ ความมีอารยธรรม สิทธิมนุษยชน และสิทธิของสุนัข”
กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์ยังแนะนำให้ประชาชนไปดูภาพและเรื่องราวการคัดค้านการฆ่าสัตว์กินเป็นอาหาร ซึ่งแกะสลักเหนือก้อนหินบนภูเขาผู่ถัว โดยอาจารย์หง อี้ และลูกศิษย์ในสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อพิจารณาทบทวนให้ดี ๆ
บทบรรณาธิการยังพยายาม ที่จะไม่กระทบกระทั่งฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยกล่าวว่า การกินเนื้อสุนัขเป็นสิ่งถูกกฎหมายในประเทศ แต่ก็สวนทางกับความคิด ซึ่งเป็นกระแสหลักในสังคม
ท้ายที่สุดบทบรรณาธิการยังกล่าวว่า ผู้คนควรเปิดใจกว้างยอมรับประเพณี เช่นเทศกาลกินเนื้อสุนัข แต่ขณะเดียวกันงานประเพณีเหล่านี้ก็ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎเกณฑ์บางอย่างได้แก่การไม่กระทำทารุณ ไม่ขโมย และไม่ฆ่าสุนัขต่อหน้าสาธารณชน นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้มีขั้นตอนกระบวนการในการกักสุนัข เพื่อตรวจโรค ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตเนื้อสุนัขดำเนินไปอย่างได้มาตรฐานอีกด้วย
คลิปวีดีโอที่บันทึกภาพการโต้เถียงระหว่างประชาชนที่สนับสนุนการรับประทานเนื้อสุนัข กับฝ่ายที่คัดค้านการทารุณกรรมสัตว์ ณ เมืองอี้วหลิน เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงก่วงซี วันที่ 21 มิ.ย. 2557 (คลิปฯ - ไชน่าเดลี)