เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสั่งห้ามแพทย์และพยาบาลในเมืองอี้ว์หลิน กินเนื้อสุนัขตาม “เทศกาลกินเนื้อสุนัข” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี หลังเกิดกระแสต้านอย่างหนัก ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นออกประกาศปฏิเสธเทศกาลดังกล่าวไม่ใช่ประเพณีท้องถิ่น
งานเทศกาลกินเนื้อหมา ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในเมืองอี้ว์หลิน ในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง มณฑลกว่างซีทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากบรรดาผู้รักสุนัขและกลุ่มพิทักษ์สัตว์ จนสาธารณสุขของเมืองประกาศห้ามบุคลากรทางการแพทย์กินเนื้อสุนัข ตามร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรมในเขตหยูตง และเขตฟู่เหมียน
เทศกาลกินเนื้อหมาซึ่งเป็นที่ครหาอย่างหนักนี้ เป็นเทศกาลที่ชาวพื้นเมืองในอี้ว์หลินจัดขึ้นเพื่อฉลองครีษมายัน (การที่ดวงอาทิตย์ โคจรไปถึงจุดหยุด (solstice) คือ จุดสุดทางเหนือในราววันที่ 21 มิถุนายน เป็นจุดในหน้าร้อน มีกลางวันนานกว่ากลางคืน ) โดยจะมีการฆ่าสุนัขมากกว่า 10,000 ตัว จากนั้นปรุงรสเนื้อสุนัข เพื่อกินกับลิ้นจี้ และสุราที่มีดีกรีแรง ในขณะที่นักท่องเที่ยวก็จะหลั่งไหลไปตามท้องถนนร่วมเฉลิมฉลองกินเนื้อสุนัขตามร้านต่างๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีกระแสการต่อต้านอย่างหนัก รัฐบาลท้องถิ่นอี้ว์หลินจึงออกมาเคลื่อนไหวเพื่อประนีประนอมสถานการณ์ดังกล่าว อาทิ สาธารณสุขของเมืองสั่งห้ามบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลท้องถิ่น 3 แห่ง กินเนื้อสุนัขในที่สาธารณะ
นอกจากนั้นรัฐบาลฯ ยังออกแถลงการณ์ในสัปดาห์ก่อน ระบุว่า เทศกาลกินเนื้อสุนัขมิใช่ประเพณีวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น หากแต่เป็นงานประจำปีที่บรรดาร้านอาหาร ภัตตาคาร และสาธารณชนจัดขึ้นเอง และมีการสั่งให้ร้านอาหารในท้องถิ่นงดใช้คำว่า “สุนัข” ในป้ายปิดประกาศ
“เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร ให้เราเปลี่ยนป้าย เพราะมีกระแสต้านจากบรรดาคนรักสุนัข” พนักงานในร้านอาหารชื่อดังที่เสริฟ์เนื้อสุนัข กล่าวกับเซาเทิร์น เมโทรโพลิส เดลี (Southern Metropolis Daily)
ปีที่ผ่าน (2556) งานเทศกาลกินเนื้อสุนัขนี้ ก็ถูกกลุ่มพิทักษ์สัตว์และบรรดาคนรักสุนัข กระหน่ำร้องเรียนให้มีการยุติงาน ในขณะที่กระแสต่อต้านก็ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ บุคคลผู้มีชื่อเสียงของสังคมต่างออกมาประณามการฆ่าสุนัขและต่อต้านเทศกาลดังกล่าว ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ "เว่ยปั๋ว" (คล้ายทวิตเตอร์) อาทิ บาร์บี้-สีว์ ซีหยวน (ต้า เอส) นักแสดงชาวไต้หวัน เบตตี้ ซุน ลี่ และ วิคกี้ เจ้า เวย นักแสดงชื่อดังจากแผ่นดินใหญ่
กระนั้นชาวไซเบอร์บางคนกลับออกมากระแนะกระแหนกระแสการตื่นตัวของเหล่าเซเลป เพราะมองกันว่าเป็นการปฏิบัติสองมาตรฐาน
“ไปบอกให้สามีของเธอเลิกขายหูฉลามก่อนมาสอนเราเรื่องการพิทักษ์สุนัขเถอะ” ชาวไซเบอร์คนหนึ่ง ออกความเห็นกระแนะกระแหน บาร์บี้ สีว์ ซึ่งสามีเธอคือ นายหวัง เสี่ยวเฟย มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง เจ้าของธุรกิจภัตตาคาร
งานเทศกาลกินเนื้อหมา ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในเมืองอี้ว์หลิน ในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง มณฑลกว่างซีทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากบรรดาผู้รักสุนัขและกลุ่มพิทักษ์สัตว์ จนสาธารณสุขของเมืองประกาศห้ามบุคลากรทางการแพทย์กินเนื้อสุนัข ตามร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรมในเขตหยูตง และเขตฟู่เหมียน
เทศกาลกินเนื้อหมาซึ่งเป็นที่ครหาอย่างหนักนี้ เป็นเทศกาลที่ชาวพื้นเมืองในอี้ว์หลินจัดขึ้นเพื่อฉลองครีษมายัน (การที่ดวงอาทิตย์ โคจรไปถึงจุดหยุด (solstice) คือ จุดสุดทางเหนือในราววันที่ 21 มิถุนายน เป็นจุดในหน้าร้อน มีกลางวันนานกว่ากลางคืน ) โดยจะมีการฆ่าสุนัขมากกว่า 10,000 ตัว จากนั้นปรุงรสเนื้อสุนัข เพื่อกินกับลิ้นจี้ และสุราที่มีดีกรีแรง ในขณะที่นักท่องเที่ยวก็จะหลั่งไหลไปตามท้องถนนร่วมเฉลิมฉลองกินเนื้อสุนัขตามร้านต่างๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีกระแสการต่อต้านอย่างหนัก รัฐบาลท้องถิ่นอี้ว์หลินจึงออกมาเคลื่อนไหวเพื่อประนีประนอมสถานการณ์ดังกล่าว อาทิ สาธารณสุขของเมืองสั่งห้ามบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลท้องถิ่น 3 แห่ง กินเนื้อสุนัขในที่สาธารณะ
นอกจากนั้นรัฐบาลฯ ยังออกแถลงการณ์ในสัปดาห์ก่อน ระบุว่า เทศกาลกินเนื้อสุนัขมิใช่ประเพณีวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น หากแต่เป็นงานประจำปีที่บรรดาร้านอาหาร ภัตตาคาร และสาธารณชนจัดขึ้นเอง และมีการสั่งให้ร้านอาหารในท้องถิ่นงดใช้คำว่า “สุนัข” ในป้ายปิดประกาศ
“เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร ให้เราเปลี่ยนป้าย เพราะมีกระแสต้านจากบรรดาคนรักสุนัข” พนักงานในร้านอาหารชื่อดังที่เสริฟ์เนื้อสุนัข กล่าวกับเซาเทิร์น เมโทรโพลิส เดลี (Southern Metropolis Daily)
ปีที่ผ่าน (2556) งานเทศกาลกินเนื้อสุนัขนี้ ก็ถูกกลุ่มพิทักษ์สัตว์และบรรดาคนรักสุนัข กระหน่ำร้องเรียนให้มีการยุติงาน ในขณะที่กระแสต่อต้านก็ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ บุคคลผู้มีชื่อเสียงของสังคมต่างออกมาประณามการฆ่าสุนัขและต่อต้านเทศกาลดังกล่าว ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ "เว่ยปั๋ว" (คล้ายทวิตเตอร์) อาทิ บาร์บี้-สีว์ ซีหยวน (ต้า เอส) นักแสดงชาวไต้หวัน เบตตี้ ซุน ลี่ และ วิคกี้ เจ้า เวย นักแสดงชื่อดังจากแผ่นดินใหญ่
กระนั้นชาวไซเบอร์บางคนกลับออกมากระแนะกระแหนกระแสการตื่นตัวของเหล่าเซเลป เพราะมองกันว่าเป็นการปฏิบัติสองมาตรฐาน
“ไปบอกให้สามีของเธอเลิกขายหูฉลามก่อนมาสอนเราเรื่องการพิทักษ์สุนัขเถอะ” ชาวไซเบอร์คนหนึ่ง ออกความเห็นกระแนะกระแหน บาร์บี้ สีว์ ซึ่งสามีเธอคือ นายหวัง เสี่ยวเฟย มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง เจ้าของธุรกิจภัตตาคาร