เอเจนซี - กลุ่มคนร้ายสวมชุดขาวบุกไล่ฟันประชาชนในสถานีรถไฟนครก่วงโจว บาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน โดยมีเหยื่อเป็นชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย ด้านชาวเน็ตฯ หวาดกลัวบ้านเมืองไม่ปลอดภัย เกิดเหตุสะเทือนขวัญบ่อยครั้งมากขึ้น
พีเพิล เดลี่ กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์ รายงาน (6 พ.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับกลุ่มคนร้ายจำนวน 4 ราย ภายในสถานีรถไฟนครก่วงโจว (กวางเจา) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันนี้ โดยวิสามัญฯ คนร้าย 1 ราย และจับกุมตัวไว้ได้ 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย สามารถหลบหนีออกไปได้
ส่วนยอดผู้บาดเจ็บอยู่ที่อย่างน้อย 6 ราย เป็นผู้หญิง 2 คน และผู้ชาย 3 คน และหนึ่งในนั้นเป็นชาวต่างชาติ วัย 50 ปีเศษ โดยทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ อ้างคำของผู้เห็นเหตุการณ์ 3 คน ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายรายหนึ่งเป็นชายร่างเตี้ย สูงราว 160 ซม. มีลักษณะเด่นที่สวมหมวกและเสื้อสีขาว โดยเขาได้ตะโกนบางอย่างก่อนเข้าฟาดฟันเหยื่อเพศชายด้วยมีดยาว บริเวณห่างจากประตูทางออกสถานีฯ ราว 100 เมตร และพุ่งเข้าทำร้ายคนอื่นๆ โดยเน้นลำคอและไหล่
ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนกล่าวว่า ยังเห็นคนร้ายอีก 3 ราย ซึ่งทั้งหมดต่างพกพามีดยาวและสวมใส่เสื้อผ้าลักษณะเดียวกัน
รูปภาพเหตุการณ์บางส่วนยังแพร่กระจายทั่วโลกออนไลน์จีน ซึ่งชาวเน็ตฯ จำนวนมากต่างแสดงความวิตกกังวลและโกรธแค้นการใช้ความรุนแรงดังกล่าว โดยบนเวยปั๋ว (เว็บไมโครบล็อคคล้ายทวิตเตอร์) เผยภาพผู้ชายคนหนึ่งที่เสื้อเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด กำลังถูกหามออกจากสถานีรถไฟฯ ท่ามกลางสายตาตื่นตระหนกของผู้คน
อีกรูปเป็นภาพฝูงชนนับร้อยคนจับกลุ่มรวมกันบริเวณจัตุรัสของสถานีฯ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์สันติราษฎร์คอยคุ้มกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำตัวผู้บาดเจ็บขึ้นรถพยาบาล
“ก่วงโจวกลายเป็นที่ที่ไม่มีความปลอดภัย!” ชาวเน็ตกล่าว “ต่อไปนี้หากเห็นใครสวมหมวกสีขาว คงต้องเลี่ยงไปทางอื่นแล้ว”
ทั้งนี้ เหตุสยองขวัญครั้งล่าสุดเกิดขึ้นไม่ถึงสัปดาห์หลังคนร้ายสองราย ซึ่งสื่อจีนบอกว่าเป็น “พวกหัวรุนแรงทางศาสนา” ไล่ฟันประชาชนและระเบิดพลีชีพภายในสถานีรถไฟเมืองอูรุมชี เขตปกครองตนเองซินเจียง ชนชาติอุยกูร์ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งทำให้คนร้ายทั้งสองและประชาชนเสียชีวิตรวม 3 ราย และบาดเจ็บกว่า 79 คน
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ในเดือน มี.ค. ก็เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันที่สถานีรถไฟนครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนัน (ยูนนาน) ทางตอนใต้ ซึ่งคนร้ายสังหารผู้บริสุทธิ์ไปกว่า 33 ราย และบาดเจ็บเกือบ 150 คน โดยชาวจีนขนานนามให้เป็นเหตุ “9/11” ของแดนมังกร