xs
xsm
sm
md
lg

จีนชี้ระเบิดในซินเจียงเป็น “การพลีชีพของพวกหัวรุนแรงทางศาสนา” หวังท้าทายอำนาจผู้นำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธเดินลาดตระเวณอยู่ด้านนอกสถานีรถไฟเมืองอูรุมชี เขตปกครองตนเองซินเจียง ชนชาติอุยกูร์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. หลังจากเกิดเหตุความไม่สงบจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 79 คน (ภาพ รอยเตอร์ส)
เอเจนซี - ความคืบหน้าเหตุระเบิดในสถานีรถไฟเมืองอูรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง ชนชาติอุยกูร์ เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บร่วมร้อยคน ล่าสุด ทางการจีนเผยผลการสอบสวน พบเป็น “การระเบิดพลีชีพของกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา”

กลุ่มสื่อจีนอ้าง (2 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจซินเจียง ระบุว่า คนร้าย 2 ราย ที่ผูกระเบิดติดไว้กับตัว ใช้มีดวิ่งไล่แทงผู้คนอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะจุดฉนวนระเบิดและเสียชีวิตภายในสถานีรถไฟ เป็นเหตุให้ประชาชนที่กำลังสัญจรไปมาในละแวกใกล้เคียงเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 79 คน เมื่อคืนวันพุธที่ 30 เม.ย. โดยทราบว่าคนร้าย 1 ราย คือ นาย Sedirdin Sawut อายุ 39 ปี ชาวเมืองอัคสุทางตอนใต้ของซินเจียง

พีเพิล เดลี่ กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานว่า “คนร้ายทั้งสองรายเป็นสมาชิกของพวกลัทธิหัวรุนแรงทางศาสนา”

“นับว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายอย่างแท้จริง” ซินหวากล่าว แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่าคนร้ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายในต่างประเทศหรือไม่

ด้านรัฐบาลท้องถิ่นซินเจียงก็ไม่ได้เปิดเผยว่ามีการจับกุมคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ หรือไม่ ทว่ากลุ่มชาวอุยกูร์พลัดถิ่นในต่างแดนอ้างว่า ทางการจีนได้จับตัวพี่น้องขาวอุยกูร์ของพวกเขาไปมากกว่า 100 คนแล้ว
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถ่ายรูปร่วมกับเด็กนักเรียนประถมในเมืองซูฟู่ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่สองของการเดินทางเยือนซินเจียง (ภาพ รอยเตอร์ส)
ทั้งนี้ เหตุความไม่สงบดังกล่าวปะทุขึ้นพร้อมกับการเยือนซินเจียงวันสุดท้ายของสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย. โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและกิจการภายในซินเจียงมองว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายกำลังส่งสัญญาณถึงบรรดาผู้นำในกรุงปักกิ่งว่า “พวกเขาพร้อมยกระดับการเผชิญหน้ากับรัฐบาลจีน”

ไชน่า นิวส์ เซอร์วิส เสริมว่า ทางการซินเจียงได้เพิ่มมาตรการความมั่นคงในทุกพื้นที่ โดยส่งรถหุ้มเกราะประจำการบริเวณทางเข้าสถานีรถไฟในวานนี้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธหลายร้อยนายเดินลาดตระเวน ขณะที่ทางออกสถานีรถไฟอันเป็นจุดเกิดเหตุก็ถูกปิดล้อมไว้ทั้งหมด ขณะที่ในเมืองอี้หนิงก็มีการเตือนประชาชนให้แจ้งเบาะแสทันที หากพบผู้ต้องสงสัยเก็บซ่อนอาวุธปืนและวัตถุระเบิด

“เรากำลังรอรถไฟอยู่ด้านนอกสถานี ทันใดนั้นก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น กระเป๋าสัมภาระของผู้คนกระจุยกระจายไปทั่ว ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งขาได้รับบาดเจ็บหนัก เดินโขยกเขยกออกมาจากสถานี” ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งจากเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ที่กำลังจะเดินทางไปเขตอีหลีทางตอนเหนือของซินเจียงในคืนวันนองเลือดกล่าว

“มีคนใช้มีดไล่ฟันประชาชนในสถานี จากนั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมา” เจ้าของร้านค้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟกล่าว
รถหุ้มเกราะของเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดประจำการอยู่ด้านนอกโรงพยาบาลที่เหยื่อผู้บาดเจ็บจากเหตุคนร้ายไล่ฟันแทงและระเบิดในคืนวันพุธ (30 เม.ย.) พักรักษาตัวอยู่ (ภาพ เอพี)
สี จิ้นผิง ลั่น “ต่อกรกลุ่มก่อการร้าย” ขั้นเด็ดขาด!
“เราจะไม่ปล่อยให้มาตรการต่อสู้เพื่อเอาชนะความรุนแรงและขบวนการก่อการร้ายเกิดการหย่อนยานเฉื่อยชา โดยทั้งหมดต้องเด็ดขาดเพื่อหยุดยั้งการก่อเหตุความไม่สงบ” ซินหวาอ้างคำกล่าวของผู้นำสูงสุดแดนมังกร

โรฮาน กูนารานา เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยลัทธิก่อการร้ายและความรุนแรงทางการเมืองระหว่างประเทศในสิงคโปร์ กล่าวว่า “เหตุการณ์ล่าสุดได้ท้าทายอำนาจของรัฐบาลจีนอย่างมาก พวกเขาต้องการแสดงให้ประธานาธิบดีจีนเห็นว่าสามารถลงมือก่อเหตุเมื่อใดก็ได้”

หลี่ ลี่ฟาน ศาสตราจารย์จากศูนย์เอเชียกลางศึกษา สำนักวิชาสังคมศาสตร์แห่งเซี่ยงไฮ้ เผยว่า คนร้ายพยายามเรียกร้อง “ความสนใจจากสังคมนานาชาติ” มากขึ้น

อย่างก็ดี เหตุการณ์ในวันพุธที่ผ่านมาผสมโรงกับกรณีไล่ฟันผู้คนในสถานีรถไฟนครคุนหมิง เมื่อเดือน มี.ค. ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 33 ราย บรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงออกโรงเตือนทางการจีนให้ระแวดระวังยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันเชื้อไฟความวุ่นวายลุกลามจากพื้นที่ตอนใต้ของซินเจียงไปยังภูมิภาคอื่นๆ

“การก่อเหตุระหว่างที่สีเดินทางเยือน และการเลือกใช้ระเบิดซึ่งอาจคร่าชีวิตชาวอุยกูร์ด้วยกันเอง ชี้ให้เห็นว่าคนร้ายมุ่งสร้างสถานการณ์อย่างไม่ลืมหูลืมตาแล้ว” ผัน จื้อผิง อดีตเจ้าหน้าที่ของสำนักวิชาสังคมศาสตร์แห่งซินเจียงกล่าว

ราฟาเอลโล พานตุซซี่ นักวิจัยอาวุโสของสถาบัน Royal United Services Institute (RUSI) ในอังกฤษ เสริมว่า นับเป็นความล้มเหลวทางความมั่นคงของรัฐบาลท้องถิ่นซินเจียง เพราะไม่อาจป้องกันการก่อเหตุร้ายได้ แม้ในยามที่ผู้นำประเทศระดับสูงมาเยือน

“จีนกำลังพบปัญหาที่เลวร้ายมากขึ้น ซึ่งกำลังแทรกซึมลึกในพื้นที่อื่นอย่างช้าๆ”

กำลังโหลดความคิดเห็น