xs
xsm
sm
md
lg

“สี จิ้นผิง” สั่งกวาดล้างผู้ก่อการร้าย หลังเจอต้อนรับด้วยบึ้มที่ซินเจียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กำลังตำรวจกึ่งทหารของจีนยืนรักษาการณ์อยู่ใกล้ๆ ทางออกของสถานีรถไฟในเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง (ซินเกียง) เมื่อวันพฤหัสบดี (1) สถานีรถไฟแห่งนี้เองที่มีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุใช้มีดไล่ฟันแทงและจุดระเบิดขึ้นในคืนวันพุธ (30 เม.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน บาดเจ็บ 79 คน
เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน สั่งปราบปรามกวาดล้าง “กลุ่มก่อการร้าย” ขั้นเด็ดขาด หลังเกิดเหตุไล่ฟันแทงและระเบิดสถานีรถไฟในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง (ซินเกียง) เมื่อวันพุธ (30 เม.ย.) ต้อนรับการเดินทางไปตรวจเยี่ยมของเขา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน โดย 2 คนเป็นมือระเบิด และมีผู้บาดเจ็บ 79 คน

เหตุรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีสีเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจที่สื่อของรัฐระบุว่าเป็น “การเดินทางตรวจเยี่ยม” ภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งสีเรียกร้องให้ใช้ยุทธศาสตร์ “โจมตีก่อน” เพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้าย

“การทำศึกปราบปรามความรุนแรงและลัทธิก่อการร้ายไม่อาจเฉื่อยชาได้แม้เพียงเสี้ยววินาที แต่ต้องใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อกำราบปรามปรามความคึกคักอุกอาจของขบวนการก่อการร้าย” สำนักข่าวซินหวาของทางการจีน ถ่ายทอดความคิดเห็นของสีเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (1พ.ค.)

ก่อนหน้านั้น ซินหวารายงานว่า กลุ่มคนร้ายก่อเหตุได้ใช้มีดไล่ฟันแทงประชาชน รวมทั้งใช้ระเบิดโจมตีในสถานีรถไฟอุรุมชี เมืองหลวงของแคว้นซินเจียงเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันพุธตามเวลาท้องถิ่นของจีน ซึ่งนับเป็นเหตุระเบิดครั้งแรกที่เมืองนี้ในรอบ 17 ปี

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า จุดที่เกิดการระเบิดอยู่ระหว่างทางออกจากสถานีรถไฟกับป้ายรถโดยสาร โดยซินหวาระบุว่าเป็น “การโจมตีของผู้ก่อการร้าย” และยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ

ทางด้านหนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานไว้ในซินล่าง เวยป๋อ หรือทวิตเตอร์ภาคภาษาจีนว่า ผู้เสียชีวิตสองคนคือผู้ก่อเหตุที่ปลดชนวนระเบิดที่พกพามา ส่วนอีกคนเป็นประชาชนที่มาใช้บริการสถานีรถไฟ

ในเวลาต่อมา รัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลซินเจียง ได้ระบุผ่านเว็บไซต์ข่าวทางการ (www.ts.cn) ว่าคนร้าย 2 คนซึ่งเสียชีวิต เป็นพวกที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลความคิดทางศาสนาแบบสุดโต่งมายาวนาน และได้เข้าร่วมในกิจกรรมของพวกสุดโต่งทางศาสนาด้วย

รัฐบาลท้องถิ่นซินเจียงยังระบุว่า 1 ใน 2 คนร้ายนี้ชื่อ เซดิเอร์ดิง ซาวูตี ชายวัย 39 ปีจากอำเภอซายาร์ ในเขตอัคซู ของซินเจียง แต่ไม่ได้ให้ชื่อคนร้ายอีกผู้หนึ่ง

เหตุรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่งใช้มีดไล่ฟันแทงประชาชนในสถานีรถไฟเมืองคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลหยุนหนาน (ยุนนาน) ทางภาคใต้ของจีนเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 29 คน บาดเจ็บ 143 คน

ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ก็เกิดเหตุครอบครัวชาวซินเจียง 3 คนขับรถพุ่งชนนักท่องเที่ยวในบริเวณจตุรัสเทียนอันเหมิน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ก่อนจุดไฟเผาตัวตายในรถ ซึ่งทางการจีนระบุว่า เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย

ทางด้าน ดิลแซต แร็กซิต โฆษกของกลุ่มลี้ภัย เวิลด์ อุยกูร์ คองเกรส ที่มีฐานอยู่ในเยอรมนี แถลงโดยอ้างอิงแหล่งข่าวชาวอุยกูร์ว่า ชาวอุยกูร์กว่า 100 คนถูกจับกุมหลังเหตุรุนแรงล่าสุด

“ชาวอุยกูร์ที่ต่อสู้ระหว่างความสิ้นหวังกับการมีชีวิตรอด คาดหวังว่า สี จิ้นผิง จะเดินทางมายังเตอร์กิสถานตะวันออกพร้อมข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ในการปรับปรุงสถานการณ์ความวุ่นวาย แต่กลับกลายเป็นว่า ปักกิ่งส่งเสริมให้มีการปราบปรามชาวอุยกูร์ด้วยความรุนแรง”

ซินเจียงนั้นเป็นเขตปกครองตนเองระดับมณฑล ที่ชาวมุสลิมอุยกูร์เป็นชนกลุ่มใหญ่ อย่างไรก็ดี การย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ของชาวฮั่น ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของจีน ตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ดินแดนนี้ทวีความตึงเครียดขึ้น

พื้นที่แถบนี้ได้เกิดเหตุรุนแรงเป็นระยะ โดยทางการกล่าวหาว่า เป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้าย แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักวิเคราะห์ตะวันตกเชื่อว่า สาเหตุมาจากการกดขี่ทางวัฒนธรรมและศาสนา ตลอดจนถึงการที่ชาวฮั่นเข้าไปฉกฉวยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ปล่อยให้ชาวอุยกูร์รู้สึกว่าตัวเองถูกกีดกัน

เหรียน ทัม ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโลโยลา ในนิวออร์ลีนส์ ที่เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์และปัญหาของชาวอุยกูร์ ชี้ว่า การใช้ระเบิดจากที่เคยใช้เพียงมีดหรือเครื่องไม้เครื่องมือทางการเกษตร และการพุ่งเป้าที่พลเรือนแทนที่จะเป็นตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่รัฐอย่างที่เคยเป็นมา ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและระดับความรุนแรงทางการเมืองในดินแดนของชาวอุยกูร์

จังหวะเวลาในการโจมตีครั้งนี้ยังเป็นช่วงเวลาอ่อนไหวอย่างยิ่ง และอาจสร้างความกระอักกระอ่วนแก่สี เนื่องจากสื่อของรัฐประโคมข่าวครึกโครมเรื่องการเดินทางเยือนพื้นที่นี้ครั้งแรกของเขานับแต่รับตำแหน่ง อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานว่า ขณะเกิดเหตุรุนแรงนั้น ผู้นำจีนเดินทางยังอยู่ในซินเจียงหรือไม่

ทั้งนี้ ระหว่างการเยือน สีเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลซินเจียงรักษาเสถียรภาพทางสังคม ส่งเสริมการเติบโต ยกระดับมาตรฐานการครองชีพ และเสริมสร้างความเป็นเอกภาพด้านชาติพันธุ์

ทางด้าน พาน จื้อผิง อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกของสถาบันสังคมศาสตร์แห่งซินเจียง ลงความเห็นว่า การโจมตีครั้งล่าสุดมีการวางแผนมาอย่างดี และเป็นการท้าทายรัฐบาลจีนโดยตรง

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้ซินล่าง เวยป๋อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุโจมตีล่าสุดต่างๆ กันไป บ้างว่า สมควรปราบปรามผู้ก่อการร้ายให้สิ้นซาก แต่บางคนมองว่า ตราบที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ยกระดับความเป็นอยู่และเอาชนะใจคนส่วนใหญ่ การปราบปรามลัทธิก่อการร้ายจะเป็นภารกิจที่ไม่มีวันสำเร็จ

กำลังโหลดความคิดเห็น