หลิว จยาชัง เกิดเมื่อปี ค.ศ.1940 เป็นชาวฮาร์บิน จีนแผ่นดินใหญ่ แต่ย้ายตามบิดามารดา ไปอยู่เกาหลีใต้ตั้งแต่เล็ก ปี 1962 เดินทางมาศึกษาต่อที่คณะการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยการเมืองการปกครองแหงไต้หวัน จากนั้น 2 ปี เขาลาออกจากมหาวิทยาลัยไปทำอาชีพร้องเพลงตามไนท์คลับ รวมทั้งรับจ้างแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กัน ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกระทันหันกับ เจียง ชิง นักแสดงอุปรากรจีนตัวนางในปี 1966 และหย่ากันในอีก 4 ปีถัดมา
แม้ชีวิตรักครั้งแรกจะอับปาง แต่ด้านการงานของหลิว จยาชัง กลับรุ่งโรจน์ ในยุค 70s - 80s เขาคือนักแต่งเพลงไต้หวันที่ไม่มีใครไม่รู้จัก มีผู้เคยกว่าวไว้ว่าในช่วงเวลา 30 ปีแห่งความรุ่งเรือง มีบุคคลอยู่ 3 คนที่มีคุณูปการอย่างยิ่งต่อวงการเพลงไต้หวันสากล นั่นคือยุค 70s ของ หลิว จยาชัง ยุค 80s ของหลัว ต้าโย่ว และยุค 90s ของหลี่ จงเซิ่ง ขณะเดียวกัน เนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านดนตรีและบันเทิงในยุค 70s ด้อยกว่ายุคอื่นๆ มีเพียงวิทยุ โทรทัศน์ โรงภาพยนตร์ ไม่เหมือนสมัยใหม่ที่มีทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แทปแล็ต อินเตอร์เน็ต ที่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ในแต่ละยุค ดังนั้นในบรรดาบุคลากรทั้ง 3 นักวิจารณ์จึงยกให้ หลิว จยาชัง มีอิทธิพลต่อวงการเพลงมากที่สุดในแง่ที่สามารถฝ่ากำแพงด้านการสื่อสารนำพาให้ดนตรีและเพลงไต้หวันโด่งดังไปทั่วเอเชียได้สำเร็จ
บทเพลง เย่ว์หม่านซีโหลว(月满西楼) ประกอบภาพยนตร์เมโลดราม่าจากปลายปากกาของฉง เหยา ที่หลิว จยาชัง เคยนำมาร้องเองในคอนเสิร์ตครั้งหนึ่ง
ตัวอย่างผลงานการแต่งเพลงในยุคแรกที่แผ้วถางที่ยืนในแวดวงบันเทิงให้กับเขา มีดังเช่น เพลง เหมยหลานเหมยหลานหวั่วไอ้หนี่(梅兰梅兰我爱你), เทียนเจินหัวพัวโย่วเหม่ยลี่(天真活泼又美丽), หวั่งซื่อจื่อเหนิงหุยเว่ย(往事只能回味) ต่อมาเขารับเหมาแต่งเพลงประกอบให้กับหนังแนวเมโลดราม่าจากไต้หวันยุคที่สร้างจากปลายปากกาของนักเขียนนิยายชื่อดัง ฉง เหยา โดยมีนักร้องดังหลายคนเป็นผู้ขับร้อง โดยเพลงประกอบหนังฉง เหยา อันเป็นที่รู้จัก เช่น เย่ว์หม่านซีโหลว(月满西楼), ชิวเกอ(秋歌), อีเหลียนโยวเมิ่ง(一帘幽梦) เป็นต้น ต่อมา ปี 1969 หลิว จยาชังสั่งสมประสบการณ์ด้านแผ่นฟิล์มจนตัดสินใจมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ด้วย
หลังยุค 80s ศิลปินนักแต่งเพลงผู้กำกับชื่อดังค่้อยๆ ห่างหายจากวงการบันเทิง เขากับอดีตนักร้องนักแสดง เจิน เจิน ผู้เป็นภรรยา เดินทางไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งปี 2001 จึงย้ายกลับมาที่เซี่ยงไฮ้ จากนั้นย้ายไปที่ฮ่องกงในปี 2005
โหยว หย่า ศิษย์ปั้นคนแรกของหลิว จยาชัง ที่สร้างชื่อจากเพลง หวั่งซื่อจื่อเหนิงหุยเว่ย(往事只能回味) เคยกล่าวถึงบรมครูเพลง หลิว จยาชังไว้ว่า "เขาเป็นคนค่อนข้างมุทะลุ สิ่งที่ต้องการเขาต้องทำให้ได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาโทรศัพท์มาหาฉันตอนตีสาม บอกว่ามีท่อนหนึ่งในเพลงที่ฉันร้องได้ไม่ดีพอให้ฉันกลับเข้าไปร้องแก้ไข ฉันจึงตอบเขาไปว่าได้แต่เป็นพรุ่งนี้นะ เขากลับบอกว่าให้ไปเดี๋ยวนั้นเพราะตอนนั้นตีสามแล้ว หลิว จยาชังบอกว่าฉันน่าจะนอนไปได้แล้วสัก 2-3 ชั่วโมงซึ่งน่าจะพอแล้ว เพราะเขาเป็นคนที่นอนน้อย ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน เป็นอย่างนั้นประจำ และไม่ใช่เฉพาะตอนที่เขายังหนุ่มแน่น ปัจจุบันหลิว จยาชังอายุ 60 กว่าก็ยังทำแบบเดิม"
ฉายาของหลิว จยาชัง คือ "ครูเพลงอัจฉริยะ" ซึ่งถือเป็นคำจำกัดความที่คนในแวดวงต่างยอมรับ ในช่วงรุ่งเรืองที่สุดเขาปล่อยผลงานเพลงออกมาสั่นสะเทือนวงการเพลงไต้หวันเป็นระยะอย่างไม่ขาดสาย โดยแทบทั้งหมดกลายเป็นเพลงฮอตฮิตใน พ.ศ. นั้น ซึ่งนอกจากฝีมือการแต่งเพลงขั้นสูงแล้ว น่าจะเป็นเพราะเขาคือผู้ที่ทำความเข้าใจกับความนิยมในตลาดเพลงไต้หวันสากลได้อย่างทะลุปรุโปร่งอย่างหาตัวจับยาก ผลงานเพลงหลายต่อหลายชิ้นของเขา ยังคงความไพเราะและขับกล่อมผู้พิศสมัยเพลงจีนแมนดารินมาจวบจนทุกวันนี้
ผลงานเด่นบางส่วนของ หลิว จยาชัง
บทเพลงดังยุคแรก เหมยหลานเหมยหลานหวั่วไอ้หนี่(梅兰梅兰我爱你) โดย โหย่ว หย่า นักร้องหญิงชื่อดังศิษย์ปั้นคนแรกของหลิว จยาชัง
บทเพลง หวั่งซื่อจื่อเหนิงหุยเว่ย(往事只能回味) บทเพลงที่ดังที่สุดของโหยว หย่า ที่กล่าวได้ว่า หลิว จยาชัง ใช้เพลงนี้ส่งเธอเข้าสู่ทำเนียบนักร้องแถวหน้าของวงการเพลงไต้หวัน
บทเพลง หว่านอานฉี่ว์(晚安曲) ร้องโดย นักร้องชาย เฟ่ย อี้ว์ชิง
บทเพลง อีเหลียนโยวเมิ่ง(一帘幽梦) ประกอบภาพยนตร์เมโลดราม่าชื่อเดียวกันจากปลายปากกาของฉง เหยา ร้องโดย เซียว ลี่จู
บทเพลง ชิวเกอ(秋歌) ประกอบภาพยนตร์เมโลดราม่าจากปลายปากกาของฉง เหยา ร้องโดย เจิน หนี
บทเพลง หวั่วซื่อจงกั๋วเหริน(我是中国人) ร้องโดยราชินีเพลงสวมหวมกผู้ล่วงลับ เฟิ่ง เฟยเฟย หนึ่งในศิษย์เอกที่หลิว จยาชัง รักมากที่สุด ผลงานเพลงหลายต่อหลายชิ้นของเขาล้วนแต่งให้ราชินีเพลงผู้นี้ขับร้อง
บทเพลง เหมยฮวา(梅花) หลิว จยาชัง แต่งขึ้นเพื่อประกอบภาพยนตร์รักซาติเรื่อง "เหมยฮวา" ในปี 1972 มีผู้นำมาขับร้องหลายครั้ง แต่ที่คนไทยรู้จักดีที่สุด ร้องโดยราชินีเพลงเติ้ง ลี่จวิน
ตู๋ซั่งซีโหลว( 独上西楼) อีกหนึ่งเพลงฮิตของราชินีเพลง เติ้ง ลี่จวิน ที่หลิว จยาชัง นำบทกวีจีนโบราณมาใส่ทำนองจนกลายเป็นบทเพลงไพเราะข้ามกาลเวลา
เนื้อเพลง ตู๋ซั่งซีโหลว( 独上西楼) - เดียวดายในหอตะวันตก
(เพลงนี้ หลิว จยาชัง นำเนื้อเพลงมาจากบทประพันธ์ที่ชื่อ "เซียงเจี้ยนฮวน(相见欢)" ของ หลี่ อี้ว์ หรือ หลี่ โฮ่วจู่ เจ้าครองแคว้นหนานถัง(ถังใต้) ยุคห้าราชวงศ์(五代) ผู้อ่อนด้อยในด้านการทหารและการปกครอง แต่มีความโดดเด่นทางด้านดนตรี ศิลปะ โคลงกลอนและการเขียนอักษรจีนอย่างยิ่ง)
*无言独上西楼
wu2 yan2 du2 shang4 xi1 lou2
อู๋เหยียนตู๋ซั่งซีโหลว
เงียบงันเดียวดายในหอตะวันตก
月如钩
yue4 ru2 gou1
เย่ว์หรูโกว
จันทราแหว่งเว้าดุจเคียวขอ
寂寞梧桐
ji4 mo4 wu2 tong2
จี้มั่วอู๋ถง
ต้นอู๋ถงอ้างว้าง
深院锁清秋
shen1 yuan4 suo3 qing1 qiu1
เซินย่วนสั่วชิงชิว
ลานบ้านลึกเร้นถูกสีสันแห่งฤดูสารทปกคลุม
剪不断 理还乱
jian3 bu2 duan4 li3 hai2 luan4
เจี่ยนปู๋ต้วน หลี่ไหล่วน
ตัดไม่ขาด ใจว้าวุ่น
是离愁
shi4 li2 chou2
ซื่อหลีชิว
คือความอาลัยเมื่อจากบ้านเกิดเมืองนอน
别有一番滋味在心头**
ling4 you3 yi4 fan1 zi1 wei4 zai4 xin1 tou2
เปี๋ยโหย่วอี้ฟานจือเว่ยไจ้ซินโถว
คงความรู้สึกหนึ่ง ดำรงอยู่ในใจ
พูดซ้ำทั้งหมด 1 รอบ
剪不断 理还乱
jian3 bu2 duan4 li3 hai2 luan4
เจี่ยนปู๋ต้วน หลี่ไหล่วน
ตัดไม่ขาด ใจว้าวุ่น
是离愁
shi4 li2 chou2
ซื่อหลีชิว
คือความอาลัยเมื่อจากบ้านเกิดเมืองนอน
别有一番滋味在心头
ling4 you3 yi4 fan1 zi1 wei4 zai4 xin1 tou2
เปี๋ยโหย่วอี้ฟานจือเว่ยไจ้ซินโถว
คงความรู้สึกหนึ่ง ดำรงอยู่ในใจ
ร้องซ้ำ *-** 1 รอบ
อธิบายศัพท์
梧桐(wu2 tong2) แปลว่า ต้นอู๋ถง(เพาโลว์เนีย)
锁清秋(suo3 qing1 qiu1) แปลว่า ถูกทัศนียภาพของฤดูใบไม้ร่วงปกคลุมหนาแน่น
离愁(li2 chou2) แปลว่า ความทุกข์จากการห่างภูมิลำเนา จากประเทศหรือบ้านเกิดเมืองนอน
别是一般(bie2 shi4 yi4 ban1) แปลว่า ยังมีสิ่งอื่นนอกเหนือ