นักท่องเที่ยวจีนคว่ำบาตรมาเลย์ สั่งสอนกรณีเที่ยวบินสูญหาย

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - สืบเนื่องจากกรณีเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ที่มีผู้โดยสารชาวจีนร่วมเดินมากกว่า 150 คน สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. และทางการมาเลเซียก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ นำไปสู่ความไม่พึงพอใจของญาติมิตรที่เฝ้ารอทราบชะตากรรมของบุคคลอันเป็นที่รัก

ล่าสุด กรณีเที่ยวบินสูญหายได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคการท่องเที่ยวของมาเลเซีย โดยเฉพาะปริมาณนักท่องเที่ยวแดนมังกรที่ลดลงเกือบครึ่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว

รายงานข่าว (27 มี.ค.) อ้างนายตุน จี้ตง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดของซีทริปด็อทคอม (Ctrip.com) ผู้ให้บริการจองเที่ยวบินท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของจีน ระบุว่า “หลังจากเกิดกรณีเที่ยวบินมาเลย์สูญหายไปนานกว่าสองสัปดาห์ จำนวนลูกค้าไม่ว่าจะเป็นกรุ๊ปทัวร์หรือแบบส่วนตัว โดยเฉพาะจากทางเหนือของประเทศ ลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีก่อน”

เช่นเดียวกับเอเจนซีการท่องเที่ยว 3 อันดับแรกของจีน ได้แก่ ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวล เซอร์วิส, ไชน่า ยูทธ์ ทราเวล เซอร์วิส และบีทีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวลแอนด์ทัวร์ ก็เปิดเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนไปมาเลเซียลดลงเช่นกัน

“เกิดผลกระทบในหลายประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เจ้าหน้าที่เอเจนซีรายหนึ่งกล่าว “นักท่องเที่ยวไม่สนใจแพ็คเกจทัวร์ในมาเลเซียและไทยมากขึ้น ซึ่งเหตุผลไม่ใช่เพียงเรื่องเครื่องบินสูญหาย แต่ยังเกี่ยวพันกับสถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองของไทยด้วย”

อย่างไรก็ดี บรรดารีสอร์ทในโกตากินะบะลู หรือเคเค (Kota Kinabalu/KK) เมืองริมทะเลของรัฐบาซาร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย ยังคงรอดพ้นจากผลกระทบดังกล่าวอยู่ในขณะนี้

“ลูกค้าเกือบทั้งหมดได้จองห้องพักไว้ล่วงหน้าราว 1-2 เดือน” อารอน ชัง ผู้จัดการรีสอร์ทเคเค-สูท เรสซิเดนซ์ กล่าว “แต่เราอาจจะเผชิญกับผลกระทบจริงๆ ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้”

อนึ่งจากข้อมูลของหน่วยงานการท่องเที่ยวมาเลเซียระบุว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังมาเลเซียในปี 2556 สูงถึง 1.79 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบรายปี โดยจีนเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวใหญ่เป็นอันดับ 3 ของมาเลเซีย

นางหลัว จวน นักวิเคราะห์อาวุโสจากฟอร์เวิร์ด อินฟอร์เมชั่น บริษัทวิจัยการตลาดแห่งหนึ่ง ประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนจะลดลงราว 20-40 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 4-8 แสนคน

“สมมติว่านักท่องเที่ยวแต่ละคนใช้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 10,000 หยวน เม็ดเงินที่มาเลย์ต้องเสียไปอาจสูงถึง 4-8 พันล้านหยวน หรือราว 2-4 หมื่นล้านบาท และคงต้องรอเป็นปีกว่าจะฟื้นฟูกลับมาดังเดิมได้” นางหลัวเผย

ขณะเดียวกันประชาชนจีนบางส่วน โดยเฉพาะบรรดาคนดังในวงการบันเทิง ได้เรียกร้องคว่ำบาตรมาเลเซียทางการท่องเที่ยว เพื่อประท้วงความไม่ชัดเจนในการชี้แจงข้อมูลกรณีเที่ยวบิน MH370 สูญหายอย่างลึกลับ.

เฉิน คุน ดาราภาพยนตร์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความชักชวนชาวจีนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปมาเลเซียผ่านเวยปั๋ว (weibo) เว็บไมโครบล็อค (คล้ายทวิตเตอร์) แดนมังกร โดยระบุว่า “ฉันจะเริ่มคว่ำบาตรทุกโฆษณาและการท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับมาเลเซียจากส่วนลึกในจิตใจ สิ่งนี้จะยังคงอยู่ต่อไป ... จนกว่ารัฐบาลมาเลเซียจะถอดหน้ากากและบอกความจริงทั้งหมด”

ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวของเฉินซึ่งมีผู้ติดตามบนเวยปั๋วมากกว่า 70 ล้านคน ถูกแชร์ออกไปมากกว่า 70,000 ครั้ง และสร้างความคิดเห็นเกือบ 30,000 ข้อความ โดยส่วนใหญ่ต่างส่งเสียงสนับสนุน

ขณะที่นายหวัง เต๋อจัง นักธุรกิจในมหานครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า ภรรยาและลูกสาว รวมถึงญาติคนอื่นๆ อีก 14 คน ได้เปลี่ยนแปลงแผนท่องเที่ยวมาเลเซียในเดือน ก.ค. ออกไป

“เราจองทุกอย่างล่วงหน้าไว้แล้ว แต่ก็ตัดสินใจยกเลิกทริป เนื่องจากทุกคนเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย” เขากล่าว

ทางด้านไชน่า ยูทธ์ ทราเวล เซอร์วิส ได้หยุดการประสานงานแพ็คเกจทัวร์กับมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ในเมืองโกตากินะบะลู และประกาศคืนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้าที่ต้องการยกเลิกการเดินทางทั้งหมด

“หลังจากเกิดกรณีเที่ยวบินสูญหาย ปริมาณเที่ยวบินไปยังมาเลเซียลดลงแทบเป็นศูนย์” เก๋อ เหล่ย หัวหน้าฝ่ายการตลาดของไชน่า ยูทธ์ฯ กล่าว โดยสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส สั่งระงับเที่ยวบิน 318/319 ซึ่งจะแทนที่เที่ยวบิน MH370/371 ที่บินระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์และกรุงปักกิ่งในช่วงต้นเดือน พ.ค. ซึ่งผู้สันทัดกรณีชี้ว่าเป็นเพราะไม่มีผู้โดยสารนั่นเอง