เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - ชาวเมืองหลวงของจีนชักฉุน ต้องจูงลูกหลานฝ่าม่านหมอกพิษไปเรียนหนังสือ หลังทางการสั่งเปิดเรียนต่อแม้อากาศเสียจนเป็นอันตรายก็ตาม
รายงานข่าว (27 ก.พ.) กล่าวว่า ชาวจีนในกรุงปักกิ่งต่างไม่พอใจกับการประกาศเตือนภัยหมอกมลพิษ หรือสม็อค (smog) ของทางการ หลังทุกพื้นที่ทั่วเมืองปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาทึบมานานเกือบสัปดาห์ แม้ว่าท้องฟ้าของคืนวานนี้จะเริ่มปลอดโปร่งขึ้นบ้าง เพราะมีฝนตกและกระแสลมแล้วก็ตาม
สำนักติดตามสภาพอากาศของนครปักกิ่งได้เพิกถอนประกาศเตือนภัยหมอกพิษ ‘สีส้ม’ อันเป็นความรุนแรงอันดับสอง ซึ่งได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ (21 ก.พ.) ที่ผ่านมา หลังค่าดัชนี PM2.5 หรือฝุ่นพิษขนาดเล็กที่ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจของสิ่งมีชีวิต ลดลงเหลือ 460 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จากเดิมที่พุ่งเกิน 500 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ทางด้านสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งเผยว่า ค่า PM2.5 ลดลงจาก 551 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ไปอยู่ที่ 446 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรในช่วงบ่ายวานนี้ แต่ยังคงอยู่ในระดับอันตราย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. กรมอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นได้ออกประกาศเตือนภัยหมอกพิษ รวม 12 ครั้ง โดยเป็นสีเหลือง (ความรุนแรงอันดับสาม) 9 ครั้ง ซึ่งเป็นระดับที่ประชาชนควรอยู่แต่ในที่พักอาศัย และสีส้ม (ความรุนแรงอันดับสอง) 3 ครั้ง ซึ่งเป็นระดับที่ให้หยุดงานก่อสร้าง การเผาไหม้ หรือจุดพลุประทัด ทว่าประชาชนต่างกดดันให้มีการประกาศเตือนภัย ‘สีแดง’ หรือระดับสูงสุด ซึ่งหมายถึงการสั่งปิดสถานศึกษาชั่วคราว
เป่ยจิง นิวส์ และสถานีวิทยุกลางแห่งชาติ รายงานว่า โรงเรียนหลายแห่งไปจนมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้งดการเรียนการสอนบางชั้นเรียนในวันอังคารและพุธที่ผ่านมา แม้ว่าคณะกรรมการการศึกษาจะสั่งให้กลับมาเปิดเรียนในวานนี้ก็ตาม
“เมืองหนันจิง (นานกิง) สั่งปิดโรงเรียน 4 วัน เมื่อปลายปีก่อน ตอนที่เจอกับหมอกพิษรุนแรง” ชาวเน็ตจีนรายหนึ่งกล่าว
“ปักกิ่งเจอหมอกพิษมาเกือบ 7 วันแบบนี้ ยังจะให้ลูกหลานของเราไปโรงเรียนอีกหรอ”
อย่างไรก็ดี โฆษกประจำสำนักติดตามสภาพอากาศของกรุงปักกิ่งชี้แจงว่า “สภาพอากาศยังไม่เลวร้ายถึงขั้นต้องประกาศเตือนภัยระดับสูงสุด”
หวง เหว่ย นักรณรงค์จากกรีนพีซ (Greenpeace) มองว่า ทางการล้มเหลวที่จะตอบสนองต่อปัญหาและความคาดหวังของประชาชน โดยระบุว่า “การเข้าควบคุมสถานการณ์นั้นทำได้ไม่ดีพอ และทางการควรรับฟังความคิดเห็นของสาธารณะชนให้มากกว่านี้”
ขณะที่ซินหวา สื่อทางการจีน รายงานก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บอก (25 ก.พ.) กับเจ้าหน้าที่กรุงปักกิ่งให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะการลดระดับฝุ่นพิษขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ซึ่งอาจทำได้สำเร็จด้วยการตัดลดการใช้ถ่านหิน ยานพาหนะ และปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมบางประเภทลง
“หมอกพิษ” ทำยอดขายหน้ากากอนามัยพุ่งจนสินค้าขาดตลาดแล้ว
สืบเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายสุดขีดของกรุงปักกิ่ง ส่งผลให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ป้องกันมลพิษ โดยเฉพาะ “หน้ากากอนามัย” พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดร้านจำหน่ายบนโลกออนไลน์หลายแห่งกุมขมับ หาสินค้ามาขายไม่ทันความต้องการของลูกค้า
หน้ากากอนามัย 26 แบบ จากทั้งหมด 29 แบบของสามเอ็ม (3M) บริษัทผู้ผลิตสินค้าและอุปกรณ์อเนกประสงค์ของสหรัฐฯ ที่มาตั้งร้านค้าบนเว็บไซต์ทีมอลล์ (Tmall.com) หนึ่งในเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของจีน ถูกขายออกไปจนหมดคลังสินค้าในวันพุธ (26 ก.พ.) ที่ผ่านมา
ขณะที่หน้ากากอนามัยยี่ห้อ Totobobo ซึ่งเป็นหน้ากากประเภทโปร่งใสและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ที่ผลิตในประเทศสิงคโปร์ ได้ประกาศว่าจะยังไม่สินค้าชุดใหม่จนกว่าวันที่ 1 เม.ย.
“ตอนที่ฉันหาซื้อหน้ากากอนามัยและตัวกรองอากาศมาใช้ กลับพบว่าถูกขายจนหมดแล้วและราคาก็สูงขึ้นจนน่าตกใจด้วย” ชาวเน็ตจีนรายหนึ่งกล่าวผ่านเวยปั๋ว (Weibo) เว็บไมโครบล็อค (คล้ายทวิตเตอร์) ของจีน