ศาลประชาชนสูงสุดจีนสุดทนอิทธิพลการเมือง เรียกร้องยุติก้าวก่ายแทรกแซง

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ศาลประชาชนสูงสุดของจีนเรียกร้องให้ยุติการทุจริตคอร์รัปชั่นและแทรกแซงการทำงานของศาลบนแดนมังกร ซึ่งรับใช้พรรคคอมมิวนิสต์และแทบไม่เคยอยู่ฝ่ายเดียวกับจำเลย

ก่อนหน้าการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางจำนวน 205 คนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 3 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญของเจ้าหน้าที่ระดับนำในพรรค และคาดว่า จะมีการประกาศแผนการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจและสังคมต่าง ๆ ออกมานั้น ศาลประชาชนสูงสุดได้มีข้อเสนอแนะ โดยนำลงในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของศาล เรียกร้องความเป็นอิสระของอำนาจตุลาการ ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการของรัฐธรรมนูญ พร้อมกับต่อต้านระบบการคุ้มครองในท้องถิ่นทุกรูปแบบ ที่เข้ามาก้าวก่ายการพิจารณาคดีของศาล

“จงกำจัดอำนาจอิทธิพล เงินตรา ความจงรักภักดี เส้นสาย และการกระทำที่เป็นการรบกวนและไม่เคารพกฎหมายอื่น ๆ เสีย” ศาลสูงสุดประกาศ

ระบบการคุ้มครองในท้องถิ่นนี้หมายถึงเจ้าหน้าที่ปกครองในท้องถิ่นที่ใช้อิทธิพลทางการเมืองกดดันการตัดสินของศาล ซึ่งเป็นปัญหาที่ขยายลุกลามในจีน

นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้การพิจารณาคดีทั้งหลายกระทำอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มการปกป้องคุ้มครองทนายความ ตลอดจนมีการเปิดเผยทางไมโครบล็อก และเทคโนโลยี่ทันสมัยอื่น ๆ

ทั้งนี้ การพิจารณาไต่สวนคดีของศาลที่ผ่านมา มักสรุปรวบรัดอย่างรวดเร็ว เช่นการพิจารณาคดีของนางกู่ ไคไหล ภรรยาของนายปั๋ว ซีไหลอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งถูกขับออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ โดยนางกู่ถูกกล่าวหาว่าฆ่านักธุรกิจชาวอังกฤษ และการพิจารณาคดีดำเนินเพียง 1 วัน จากนั้น จึงถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริง และศาลตัดสินประหารชีวิต แต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน

นอกจากนั้น รัฐบาลท้องถิ่นยังมีการจ่ายเงินเดือนให้ผู้พิพากษา ขณะที่กระบวนการทำงานของศาลส่วนใหญ่มีความคลุมเครือ

ข้อเสนอแนะของศาลประชาชนสูงสุดมีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนเห็นพ้องให้มีการจัดตั้งกลไกต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งจะครอบคลุมถึงนายทหารระดับสูงในกองทัพด้วย โดยสอดคล้องกับที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้ประกาศปราบปรามคอร์รัปชั่น ซึ่งเขาระบุว่า เป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของพรรคคอมมิวนิสต์

ในประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมา อดีตผู้นำเติ้ง เสี่ยวเผิง เคยประกาศแผนปฏิรูปเศรษฐกิจในการประชุมใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 11 ครั้งที่ 3 เมื่อปี 2521 เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศ จากปากเหวความหายนะ หลังจากการปฏิวัติวัฒนธรรมของประธานเหมา เจ๋อตงได้สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่จีน

ขณะที่ในปัจจุบัน การทุจริตคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจในทางมิชอบ เพื่อความร่ำรวยของเจ้าหน้าที่รัฐกำลังสร้างความโกรธแค้นแก่ประชาชนในประเทศอย่างขยายวงกว้าง