บิ๊กกูเกิ้ลลั่น เสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ช่วยจีนปฏิรูปประเทศ

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เอริก ชมิดต์ ประธานบริหารของกูเกิ้ลเรียกร้องรัฐบาลจีนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้คิดและพูดอย่างเสรี หากต้องการให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าต่อไป

นายชมิดต์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์เมื่อวันจันทฺร์ (4 พ.ย.) ระหว่างเยือนเขตปกครองพิเศษฮ่องกงในโครงการหุ้นส่วนความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง เพื่อช่วยสร้างผู้ประกอบการคนหนุ่มสาว โดยเขาแสดงความเป็นห่วงกรณีจีนออกกฎหมาย “500 รีโพสต์ส” (“500 reposts”) เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อควบคุมการสื่อสารในอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวดขึ้นว่า กูเกิ้ลเชื่อในเสรีภาพของอินเทอร์เน็ตอย่างหนักแน่นมาก แต่การผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความซ้ำจะทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องคิดหนักก่อนจะเขียนอะไร ซึ่งจะทำให้ความต้องการสื่อสารเรื่องหนึ่งเรื่องใดจะได้ยินไม่ชัดเจน

ภายใต้กฎหมายดังกล่าว ซึ่งประกาศใช้เมื่อต้นเดือนก.ย. ที่ผ่านมา การหมิ่นประมาทว่าร้ายใด ๆ ที่ถูกนำไปเผยแพร่ซ้ำกว่า 500 ครั้ง หรือถูกอ่านมากกว่า 5,000 ครั้ง อาจมีผลให้ผู้เขียนข้อความต้องได้รับโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี อันเป็นการออกกฎหมาย เพื่อควบคุมข่าวลือในอินเทอร์เน็ตครั้งแรกของจีน นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนเห็นว่า เป็นความพยายามล่าสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการควบคุมอินเทอร์เน็ต หลังจากการเรียกร้องของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเมื่อเร็ว ๆ นี้ ให้มีการยึดพื้นที่ของสื่อสารมวลชนแขนงใหม่

นายชมิดต์ยังเห็นว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นจะช่วยให้จีนรอดพ้นจากการตกสู่ “กับดักของประเทศรายได้ปานกลาง” (middle-income trap ) เพราะการเปิดกว้างให้มีการอภิปรายถกเถียงกันในทุกเรื่องอย่างอิสระจะทำให้สามารถค้นหาหนทางในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม และรอดพ้นจากกับดักในการพัฒนาเศรษฐกิจลักษณะนี้ได้

ในการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจแดนมังกรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประเธานาธิบดีสีเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตอย่างแข็งแร่ง และจะไม่ตกลงสู่กับดักดังกล่าว

ทั้งนี้ กับดักของประเทศรายได้ปานกลางมักเกิดขึ้นกับประเทศ ที่มีรายได้ขยับขึ้นจากความยากจน มาสู่ระดับปานกลาง แต่ไม่สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นชาติร่ำรวยได้ เนื่องจากปัญหาสังคมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามมามากมาย โดยแอฟริกาใต้และบราซิลมักถูกหยิบยกเป็นตัวอย่างของกับดักการพัฒนาเศรษฐกิจชนิดนี้

ประธานกูเกิ้ลชี้ว่า กฎข้อบังคับที่เข้มงวดในการเข้าอินเทอร์เน็ตบนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทำให้บริการส่งอีเมลและเสิร์จข้อมูลของกูเกิ้ลไม่ราบรื่นนั้นยังจะทำร้ายการวิจัยด้านการศึกษาบนแผ่นดินใหญ่เองด้วย

นายชมิดต์ได้ให้ข้อคิดเห็นอีกว่า จีนกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ 3 ประการ ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งต้องรีบแก้ไขโดยเร็ว เพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ได้แก่ปัญหาด้านประชากรศาสตร์ โดยปัจจุบันจีนมีแรงงานคนรุ่นหนุ่มสาวไม่เพียงพอ ขณะที่ผู้สูงอายุมีจำนวนล้นเกิน ซึ่งเป็นความผิดพลาดร้ายแรงของนโยบายลูกคนเดียว ที่จีนควรยกเลิกไปตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว

ปัญหาอีก 2 ประการสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนคือปัญหากระบวนการไปสู่สากลในยุคโลกาภิวัตน์ และปัญหาการนำเครื่องจักรอัตโนมัติ (automation) มาใช้แทนแรงงานมนุษย์ ในขณะที่ชาติอื่น ๆ ในเอเชีย ซึ่งรวมทั้งอินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย กำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อแย่งบทบาทการเป็นโรงงานของโลกไปจากจีนในอีก 10-20 ปีข้างหน้า