นายกฯ ประธานประชุมปลัดฯ หวังพามานอกสถานที่ปีละครั้ง โฆษกรัฐบาลเผยเจ้าตัวย้ำลดเหลื่อมล้ำ อยากเห็นเก็บรายได้ให้สอดคล้องยุทธศาสตร์จังหวัด สั่งสรุปประสิทธิภาพการส่งออก
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 7/2556 ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน เพื่อติดตามการปรับภารกิจของกระทรวงให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ โดยนายกฯ กล่าวเปิดการประชุมว่า สำหรับการประชุมหัวหน้าส่วนราชการฯ นอกสถานที่ในต่างจังหวัด จะจัดให้มีการประชุมนอกสถานที่ปีละ 1 ครั้ง เพื่อทบทวนนโยบายของส่วนราชการว่ามีสิ่งใดที่ต้องการบูรณาการ และให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ การประชุมวันนี้เป็นการติดตามการปรับภารกิจของกระทรวงให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการให้แต่ละกระทรวงปรับแนวทางการบริหารราชการให้สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องการดูแลประชาชนตามช่วงอายุ ตั้งแต่แรกเกิด วัยเรียน วัยทำงาน จนถึงวัยเกษียณ
ขณะที่นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมว่า ในที่ประชุมนายกฯได้ย้ำยุทธศาสตร์ประเทศให้หลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง ลดความเหลื่อมล้ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปรับสมดุลและพัฒนาระบบราชการ รวมถึงการปรับระบบราชการที่แต่ละกระทรวงมีบทบาทต่างกัน แต่ต้องทำงานประสานกัน และปรับใช้ได้จริง นอกจากนี้ยังอยากเห็นการบริหารการจัดเก็บรายได้ในแต่ละจังหวัดสอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด และต้องหาทางเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ เพราะหลายรัฐวิสาหกิจเป็นหนี้กระทรวงการคลัง การมองอย่าดูเฉพาะหนี้ต้องแยกส่วนที่ดำเนินงานออกจากสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นภาพที่แท้จริง ทั้งนี้ในที่ประชุม นายกฯ เสนอให้กระทรวงการคลังบริหารความเสี่ยงในการอุดรอยรั่วการจัดเก็บรายได้ของประเทศทั้งหมด ซึ่งนายกฯอยากเห็นการทำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับระบบราชการ เพื่อลดขั้นตอนการบริหารงาน
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ได้สั่งการให้แต่ละกระทรวงสรุปการส่งออกของไทยมีประสิทธิภาพอย่างไรเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน อุตสาหกรรมไหนยังไปได้ และอุตสาหกรรมไหนต้องช่วย และให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับสำนักงบประมาณ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อดูการเบิกจ่ายงบประมาณปี 56 ในช่วงที่เหลือสองเดือนสุดท้าย รวมถึงเร่งหาโครงการที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
