astvผู้จัดการออนไลน์--กลุ่มสื่อจีนรายงาน ในวันอากาศร้อนแผดเผาเมื่อวันพุธ(31 ก.ค.) ที่ผ่านมา ในนครก่วงโจว มณฑลก่วงตง มีคนงานหญิงทำความสะอาดถนนหมดสติบนถนนหวงชุนตง โดยไม่มีผู้ใดเข้าไปช่วยเหลือเลย จนกระทั่งเด็กหญิงตัวน้อยๆคนหนึ่งเดินผ่านมา ก็เข้าไปกางร่มให้หญิงที่นอนหมดสติบนถนน ปลุกจิตสำนึกผู้คนรอบข้างให้ตื่นจากความกลัว
“ไม่รู้ว่าเธอตายหรือยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเกิดเป็นพวกหลอกลวงหักหลังจะทำอย่างไร?” นาย เหลย ที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุกล่าว เหลยเล่าว่า เขาเดินมากับเพื่อน ผู้สัญจรไปมาแถวนั้น ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ ได้แต่มองดูเท่านั้น
กระทั่งเด็กน้อยกับแม่เดินผ่านมา เมื่อเห็นคนหมดสติ เด็กหญิงตัวน้อยหยุด และถือร่มกันฝนของตน เข้าไปบังแดดให้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นถนนกลางแดดร้อนแผดเผานั้น พลางพูดว่า “แม่ แม่ รีบเข้ามาช่วยคนเร็ว!” คุณแม่ยังสาวยืนลังเลอยู่พักหนึ่งก็จูงมือเด็กเดินจากไป โดยทิ้งร่มไว้
“เด็กตัวเล็กๆยังรู้จักช่วยเหลือผู้คน พวกเราผู้ใหญ่กลับยืนเฉย” เหลย กล่าว
การกระทำของเด็กน้อย ทำให้นายเหลยได้คิดและตัดสินใจเดินเข้าไปหาหญิงที่หมดสติ โดยให้ผู้สัญจรในบริเวณช่วยถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นนายเหลยและเพื่อนก็ช่วยกันอุ้มหญิงหมดสติไปยังที่ร่ม โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแล และได้ซื้อน้ำมากรอกปากหญิงที่หมดสติ ราวกว่า 10 นาที เธฮก็ฟื้น ผู้คนแถวนั้นได้พาหญิงหมดสติไปยังคลินิกเอกชนใกล้ๆแถมยังช่วยออกค่าใช้จายให้
การช่วยเหลือหญิงหมดสติ ทำให้นายเหลยมาทำงานสายไปหลายนาที แต่เถ้าแก่ของเขา นอกจากไม่ว่ากล่าวแล้ว ยังชื่นชมตบรางวัลให้ “หากตอนนั้น ไม่ช่วยเหลือหญิงหมดสติ ผมก็คงกลับมานั่งรู้สึกผิดในภายหลัง ต้องขอบใจเด็กน้อย ที่ส่งแรงบันดาลใจเข้าไปช่วยเหลือคน” นายเหลย กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อสองปีที่ แล้วในเดือนพ.ย.2554 เกิดเหตุการณ์ช็อกสังคม ที่น่าเศร้าสลดและอนาถในจิตใจที่สุดแสนเย็นชาของผู้คน กรณีเด็กหญิงเสี่ยว เย่ว์เย่ว วัย 2 ขวบ ถูกรถชนถึงสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกันกลางถนนหน้าตลาดฝัวซันของนครก่วงโจว และมีผู้คน 18 คน เดินผ่านร่างเด็กไปอย่างไม่ใยดีไม่ช่วยเหลือ เด็กหญิงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
แต่ก็มีผู้ชี้สาเหตุของความเย็นชา ที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก สืบเนื่องจาก “คดีเผิงอี๋ว์” เป็นคดีดังในประเทศจีน โดยเมื่อปี 2549 นายเผิงอี๋ว์ พลเมืองดีได้เข้าไปช่วยเหลือคนแก่ที่ล้มลงบนถนนขณะวิ่งขึ้นรถประจำทาง และพาไปโรงพยาบาล แต่เขากลับถูกหญิงชรากล่าวหาว่าทำให้เธอล้ม และได้ฟ้องร้องค่าชดเชยจากเผิงอี๋ว์ 130,000 หยวน ในที่สุด ศาลตัดสินให้เผิงอี๋ว์จ่ายค่าชดเชยแก่หญิงชราจำนวนหนึ่ง
ต่อมา ก็มีการถกเถียงกฎหมายพลเมืองดี (samaritan law) เพื่อคุ้มครองพลเมืองดีที่อาจถูกหักหลัง ในสัปดาห์นี้กฎหมายพลเมืองดีก็มีผลบังคับใช้ในนครเซินเจิ้นนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2556 เป็นต้นไป ท่ามกลาง ความหวังว่าเมืองต่างๆจะผลักดันกฎหมายพลเมืองออกมาบังคับใช้กัน.