xs
xsm
sm
md
lg

แรงซื้อทองของแม่ชาวจีน ดับฝันนักชอร์ตเซลวอลล์สตรีตยับเยิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวจีนแห่ซื้อทองในช่วงขาลง หนุนราคาปรับขึ้นมาอีก - ไชน่าเดลี่
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - บรรดาผู้จัดการเฮดจ์ ฟันด์ในตลาดวอลล์สตรีตตายน้ำตื้น ช่วยกันกระหน่ำทำชอร์ตเซลให้ราคาทองคำโลกดำดิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว (เม.ย.) หวังแตะจุดต่ำสุด แล้วช้อนซื้อ ฟันกำไร แต่กลับไม่เป็นไปตามแผน

คุณแม่ชาวจีนอาศัยจังหวะที่ราคาทองคำร่วงลึกสุดในรอบ 30 ปี แห่ไปซื้อทองหยองที่ร้านสำหรับเป็นของขวัญงานวิวาห์ลูกสาวในช่วง 2-3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา แรงซื้อนี้เองได้หนุนให้ราคาทองคำหวนทะยานขึ้น ซึ่งกลายเป็นการทำลายแผนของเหล่าปรมาจารย์ด้านการเงิน ที่ทำชอร์ตเซล ขายมือเปล่าโลหะล้ำค่าในตลาดซื้อขาย เพื่อฉุดราคาทองคำให้แตะระดับต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นาย Haywood Cheung Tak-hay ประธานสมาคมซื้อขายทองคำและเงินของจีน (Chinese Gold & Silver Exchange Society) ระบุว่า ผู้ซื้อทองคำในร้านขายทองรูปพรรณทั่วโลก เช่น แม่ชาวจีนที่รีบซื้อทองในช่วงราคาขาลง ทำให้ราคาทองกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับราว 1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในขณะนี้ ซึ่งห่างจากที่นักชอร์ตเซลวอลล์สตรีตตั้งเป้า

“ผมเชื่อว่า นักชอร์ตเซลขาดทุนกันระนาวจากเรื่องนี้ และจะถูกบีบให้ต้องซื้อทองกลับคืนมา เพื่อลดการขาดทุน” เขากล่าว

นอกจากแม่ในประเทศแถบเอเชีย ที่ซื้อทองให้ลูกสาวในงานสมรสแล้ว ผู้แห่ไปซื้อทองในร้านขายทองรูปพรรณทั่วโลกยังได้แก่ผู้ที่อาศัยเงินบำนาญเลี้ยงชีพ นักลงทุนรายย่อย ผู้ทำเครื่องประดับอัญมณี หลังจากราคาทองตกลงถึงร้อยละ 9.1 แตะ 1,321 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2556 ซึ่งแตะระดับต่ำสุด นับตั้งแต่ปี 2526 เป็นต้นมา

แรงซื้ออย่างบ้าคลั่ง ซึ่งคาดกันว่า ส่งผลให้ทองคำเปลี่ยนมือผู้ถือครองมากถึง 300 ตันนี้ ช่วยหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นถึงราว 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

นอกจากนั้น ในช่วงวันหยุดแรงงาน 3 วัน นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่ยังหลั่งไหลไปร้านขายทองในฮ่องกง ร้านทองขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณไปถึง 60 ตัน ซึ่งมากกว่ายอดขายเมื่อปีที่แล้วถึงร้อยละ 50 จนกระทั่งสต๊อกในร้านทองหลายแห่งบนเกาะฮ่องกงหมดเกลี้ยง

ราคาทองในขณะนี้ยังอยู่ต่ำกว่าช่วงที่พุ่งสูงสุดที่ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์เมื่อเดือน ก.ย. 2554 ราวร้อยละ 25 ซึ่งนาย Cheung เห็นว่า จะทำให้การแห่ซื้อทองดำเนินต่อไป ขณะที่นักชอร์ตเซลไหวตัวเปลี่ยนกลยุทธ์ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ราคาทองอยู่ในระดับนิ่งมากขึ้น ก่อนจะพุ่งทะยานแตะ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น