xs
xsm
sm
md
lg

โลกแห่งความรักที่แสนเศร้า “กฎหมายเยี่ยมญาติผู้ใหญ่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คุณทวด ไช่ เสี่ยวอิง ถูกลูกชายจองจำราวกับนักโทษ (ภาพจากเวบไซต์จีนโพ้นทะเลแคนาดา /加拿大华人网)
เอเยนซี- ปี 2011 คณะกรรมการบริหารประจำสภาผู้แทนประชาชนได้เห็นชอบผ่านกฎหมายเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมปี 2556

ผู้เชี่ยวชาญต่างออกโรงชี้ประเด็นการเรียกร้องให้คนวัยทำงานหันมาให้ความสำคัญต่อญาติผู้ใหญ่สูงวัย ตอกย้ำให้เห็นถึงระดับความรุนแรงของ “ครอบครัวที่อ้างว้าง” ภายใต้สังคมปากกัดตีนถีบของจีนในยุคปัจจุบัน

จากการเสนอแก้ไขจากชั้นกรรมาธิการผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้สูงอายุที่ถูกบุตรหลานทอดทิ้งหรือถูกคุกคาม ในปี 2011 คณะกรรมการบริหารประจำสภาผู้แทนประชาชนได้เห็นชอบผ่านกฎหมายเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ซึ่งมีใจความว่าสมาชิกในครอบครัวควรใส่ใจในความเป็นอยู่ ความรู้สึกและต้องไม่ทอดทิ้งเหล่าผู้สูงอายุ เน้นย้ำให้ถึงสมาชิกครอบครัวที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับญาติผู้สูงอายุไปเยี่ยมหรือส่งคำทักทายพวกเขาให้ “บ่อยครั้ง” ขึ้น อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้ให้ความชัดเจนถึงขอบเขตของคำว่า “บ่อยครั้ง” ทั้งนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมปี 2556

สตรีสูงอายุวัย 81 ปี ชาวเทียนจิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์จีนว่า เธอไม่อยากอยู่บนโลกอีกต่อไปในเมื่อเทศกาลเคารพบรรพบุรุษมาถึง ปีที่แล้วบุตรสาวทั้งสามของเธอต่างไม่มาเยี่ยมหา เรื่องราวสะเทือนใจเช่นนี้ยังมีอีกมาก เช่น ยายทวดชาวเจียงซู กวาน ยุ่น ถูกทอดทิ้งให้อยู่อาศัยในเล้าหมูเป็นเวลากว่า 2 ปี โดยลูกชาย 5 คน และลูกสาว 3 คนไม่เหลียวแล

...ครูเซิ่งชิงหลิน ข้าราชการเกษียณเมืองหลินเจียงถูกลูกชายริบเงินบำนาญเดือนละ 10,000 ทุกเดือน สุดท้ายเอาไปปล่อยไว้ที่เมืองชิงเต่า
ครู ซั่ง ชิงหลิน ถูกลูกชายริบบำนาญและนำไปปล่อยต่างเมือง
...คุณทวดไช่ เสี่ยวอิงอายุ 97 ปี ถูกลูกชายขังไว้ในบ้านที่เซินเจิ้น ให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวราวกับคนคุก หรือกรณีผู้เป็นพ่อชาวหูหนานได้รับผลตอบแทนจากการเดินทางมาช่วยเลี้ยงหลานที่เซินเจิ้น ด้วยการถูกลูกชายซึ่งเป็นทั้งข้าราชการ และมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ทุบตีด่าทอ เป็นต้น

ศาสตราจารย์หวู่ ฉางเจิน ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายครอบครัว มหาวิทยาลัยกฎหมายและการเมืองแห่งประเทศจีน อธิบายว่า เนื่องจากปัจจุบันมีประชากรจีนอายุเกิน 60 ปี มากกว่า 200 ล้านคนที่กำลังจะถูกทอดทิ้ง

จากรายงานของเว็บไซต์ข่าวซินหวา (xinhuanet.com) พบว่ามากกว่าครึ่งของผู้สูงอายุในเมืองไม่ได้อาศัยอยู่กับบุตรหลาน และในส่วนของพื้นที่ชนบทมีมากกว่า 38% ซึ่งการปรับเปลี่ยนในระดับทัศนคติคือ ปัจจัยสำคัญของการแก้ไขปัญหานี้ ฉะนั้น การส่งเสริมการเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ก็เพื่อมิให้คนวัยทำงานไม่หลงลืมเหล่าบิดามารดาผู้สูงวัย

ศาสตราจารย์จาง เสี่ยวยี่ จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยคมนาคม เซี่ยงไฮ้ ให้ความเห็นว่า การเข้าหาและเอาใจใส่บรรพบุรุษเป็นวัฒนธรรมระหว่างผู้สูงวัยและลูกหลาน ซึ่งในปัจจุบันผู้สูงอายุได้แค่ฝันถึงบุตรหลานของพวกเค้า ผู้สูงอายุต้องพึ่งบุตรหลานเยี่ยงเด็กทารกที่ต้องอาศัยแม่ แต่บุตรหลานของพวกเค้ากลับไม่คำนึงถึงความต้องการข้อนี้
พ่อผู้ถ่อสังขารย้ายเมืองมาช่วยเลี้ยงหลาน ถูกลูกชายมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและข้าราชการหัวกะทิ ทุบตี
เมื่อสามทศวรรษที่แล้วก่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจ ผู้ที่ละทิ้งผู้ปกครองจะถูกประณามจากเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงาน แต่สังคมปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเพิ่มมาตรการเอาใจใส่ความรู้สึกของผู้สูงอายุ แม้ว่าในจีนแผ่นดินใหญ่ มีระเบียบบังคับ (1981) ให้เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่องค์กรสาธารณะ และเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ จะต้องกลับไปเยี่ยมคารวะผู้ปกครอง โดยผู้ที่ไม่ได้สมรสสามารถลากิจได้ 20 วันต่อหนึ่งปี เพื่อไปเยี่ยมบิดามารดาต่างเมือง ส่วนพนักงานเอกชนหรือบริษัทต่างชาติจะไม่ได้รับสิทธินี้ ทว่า หลายคนกลับไม่ได้ใช้สิทธินี้เพราะไม่กล้าเสนอเรื่องลากิจหรืออาจไม่ได้รับการอนุมัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น