xs
xsm
sm
md
lg

จีนรอวันหน้าฟ้าใหม่ จากนโยบายลูกคนเดียวเป็น 2 คน

เผยแพร่:   โดย: พรรณพิไล นาคธน

หนูน้อยเดินข้ามสะพานแขวนภายในโรงเรียนอนุบาลในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย วันที่ 3 ม.ค. 2555 – รอยเตอร์
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - รัฐบาลจีนอาจพิจารณาผ่อนคลายนโยบายลูกคนเดียว หลังจากนักรณรงค์ชี้ผลเสียหลายประการของนโยบาย ที่เข้มงวดนี้ พร้อมกับแสดงหลักฐาน ซึ่งสนับสนุนว่า การผ่อนคลายจะไม่ส่งผลให้อัตราการเกิดบนแดนมังกร ซี่งมีจำนวน ประชากรมากที่สุดในโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน

นางหู เยี่ยนฉิน วัย 32 ปี ซึ่งอาศัยในหมู่บ้านริมทะเลทรายโกบี เป็นตัวอย่างสำคัญ ที่อาจกระตุ้นให้รัฐบาลจีนตัดสินใจใหม่

หญิงผู้นี้อาศัยอยู่ในภูมิภาคจิ่วเฉวียน ในมณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งได้รับอนุญาตให้ประชาชนมีลูก 2 คนได้มาตั้งแต่ปี 2528 นับเป็นสถานที่ในชนบทน้อยรายมาก ที่ได้รับโอกาสเช่นนี้ แต่เมื่อเธอแต่งงานกับคนงานก่อสร้างเมื่อ 7 ปีก่อน เธอก็คิดแล้วว่า จะมีลูกเพียงคนเดียว

“พวกที่เขามีลูก 2 คนน่ะเป็นพวกที่เขามีฐานะดีกว่าเราค่ะ” เธอเล่า

ปัจจุบัน เธอมีลูกชายอายุ 6 ขวบ ซึ่งจะถูกทิ้งไว้ที่โรงเรียนอนุบาลระหว่างไปทำงาน

“คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านที่นี่ มีลูกคนเดียวกันทั้งนั้น”

บรรดาผู้สนับสนุนให้รัฐบาลตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายลูกคนเดียว ซึ่งเริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2523 ควบคู่กับการปฏิรูปเศรษฐกิจ ได้นำกรณีของนางหูและของอีกหลายล้าน ที่เหมือนกัน มาเป็นหลักฐานสนับสนุนการเรียกร้อง

ภูมิภาคจิ่วเฉวียนมีอัตราการกำเนิดทารกเฉลี่ย 8-9 คนต่อประชาชน 1,000 คน ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยทั้งประเทศ ซึ่งมีการเกิดของทารกราว 12 คนต่อประชาชน 1,000 คน

จากผลการศึกษาโครงการนโยบายลูก 2 คนใน 4 ภูมิภาค ซึ่งทำร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยซิงหวากับศูนย์บรูกกิงส์-ซิงหวาเพื่อนโยบายสาธารณะ และพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี 2551 พบว่า เหตุผลเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงในการเลี้ยงดูและให้การศึกษาบุตรมีน้ำหนักมากพอที่จะยับยั้งอัตราการเกิดได้ ขณะที่เสรีภาพในการมีบุตรคนที่ 2 ได้นั้น ยังช่วยลดปัญหาการมีประชากรเพศหญิงและเพศชายที่ไม่สมดุลกันจากนโยบายลูกคนเดียวได้อีกด้วย

กระแสเรียกร้องให้มีนโยบายวางแผนครอบครัวอย่างมีหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาตร์และอย่างเหมาะสม ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากเริ่มปรากฏผลว่า แท้จริงแล้วมันเป็นนโยบาย ที่มีความเหมาะสมในช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น แต่ขณะนี้กำลังกลายเป็นอุปสรรคในการเติบโตของเศรษฐกิจ และนำมาซึ่งปัญหาสังคมหลายประการ

จากการคาดประมาณประชากรระบุว่า กำลังแรงงานของจีน ซึ่งมีประมาณ 930 ล้านคนจะเริ่มลดจำนวนลงตั้งแต่ปี 2568 ในอัตราราว 10 ล้านคนต่อปี ขณะที่ประชากรสูงอายุจะเพิ่มถึง 360 ล้านคนภายในปี 2573 จาก 200 ล้านคนในปี 2556

นอกจากนั้น ยังปรากฏข้อมูลเป็นครั้งแรกแล้วว่า ประชากรในวัยทำงาน ซึ่งมีอายุระหว่าง 15-59 ปีของจีนได้ลดจำนวนลง

“ถ้าขืนยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะไม่มีคนเสียภาษี ไม่มีคนทำงานและดูแลผู้สูงอายุ” นาย กู๋ เป่าฉาง อาจารย์ด้านภูมิศาสตร์ประชากรของมหาวิทยาลัยเหรินหมินระบุ

ด้านนักเศรษฐศาสตร์หลายคนระบุว่า นโยบายลูกคนเดียวทำให้เกิดอัตราการออมเงิน ที่สูงในจีน และทำให้การปรับสมดุลของเศรษฐกิจแดนมังกร ที่ต้องการให้การบริโภคภายในประเทศเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตมากขึ้น ต้องล่าช้าออกไป เพราะมีแนวโน้มมากขึ้นว่า คนวัยทำงาน ซึ่งเป็นลูกคนเดียวต้องเก็บเงินสำหรับดูแลพ่อแม่วัยชรา และสำหรับตนเองใช้ในยามแก่เฒ่า
เด็กชายทำท่าให้สัญญาณกับเพื่อน ขณะกอดหนังสือไว้กับตัวในห้องเรียนโรงเรียนอนุบาลในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย วันที่ 3 ม.ค. 2555 – รอยเตอร์
ความหวัง ที่ว่า ทางการจะผ่อนปรนให้คู่สมรสมีบุตรได้ 2 คนก่อตัวขึ้นมา นับตั้งแต่ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา แถลงการทำงานของรัฐบาลต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เมื่อเดือนพ.ย 2555 โดยไม่ปรากฏวลีว่า “ การคงอัตราการกำเนิดในระดับต่ำ” ในการแถลง ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายสังเกต และเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีของการแถลงครั้งสำคัญของผู้นำจีน ที่มีการละเลยวลีนี้ ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณแก่รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายสี จิ้นผิง ที่จะขึ้นดำรงประธานาธิบดีในเดือนมี.ค. นี้และมีความโน้มเอียงไปสู่การปฏิรูปประเทศในหลายด้าน

ทั้งนี้ นโยบายลูกคนเดียวบังคับใช้ครอบคลุมประชากรถึงร้อยละ 63 ของประเทศ โดยรัฐบาลระบุว่าสามารถลดการกำเนิดของประชากรได้ถึง 400 ล้านคน อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องเหี้ยมโหดในหลายกรณี เช่นการบังคับให้ทำแท้ง โดยเฉพาะการบังคับทำแท้งหญิงตั้งครรภ์ 7 เดือนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถูกประณามจากชาวเน็ตในประเทศ และจากนานาชาติ หรือบทลงโทษผู้ฝ่าผืนบางรายถึงขั้นตกงาน

แม้มีเสียงคัดค้านจากเจ้าหน้าที่บางคนบาง แต่นักรณรงค์เชื่อว่า จะต้องมีการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงนโยบายจากรัฐบาลจีนชุดใหม่

“การปรับปรุงนโยบายเป็นสิ่งที่ย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องของเวลาเท่านั้น” เจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการด้านการวางแผนครอบครัว ซึ่งปลดเกษียณแล้วของจีนกล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น