ASTVผู้จัดการออนไลน์/เซาท์ ไชน่ามอร์นิ้ง โพสต์-- ว่าที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แถลงคำปราศรัย เรียกร้องแนวทางที่ปฏิบัติได้จริงในทางการเมือง เลิก “การถกเถียงที่ไร้สาระประโยชน์” เสียที
สี จิ้นผิง ได้กินตำแหน่งเลขาธิการและประธานคณะกรรมการกลางการทหารแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวันที่ 16 พ.ย.หรือสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการเมื่อสภาผู้แทนประชาชนหรือรัฐสภารับรองตำแหน่งในการประชุมฯเดือนมี.ค. ปีหน้า ในวานนี้(29 พ.ย.) สี จิ้นผิง ยังได้แสดงจิตวิญญาณความเป็นผู้นำใหญ่ โดยขึ้นกล่าวคำปราศรัยครั้งที่สอง
สถานีโทรทัศน์กลางแห่งรัฐจีน หรือซีซีทีวี ได้ถ่ายทอดคำปราศรัยของสี จิ้นผิง ที่กินเวลากว่า 10 นาที สารัตถะสำคัญที่ว่าที่ประธานาธิบดีได้กล่าว ได้แก่ การเรียกร้องประชาชนสมัครสมานสามัคคี ช่วยกันผลักดันสิ่งที่เรียกว่า “การฟื้นฟูประเทศชาชาติจีนใหม่”
“เรามาถึงจุดที่เข้าใกล้ขีดขั้นที่เรียกว่าการฟื้นฟูประชาชาติจีนมากที่สุดอย่างไม่เคยปรากฏในช่วงใดของประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่ ผมมั่นใจว่าเราจะบรรลุเป้าหมายแน่นนอน” สี จิ้นผิง วัย 59 กล่าว
สี ได้กล่าวคำปราศรัยครั้งแ รกในคืนถัดจากวันที่เขาได้นั่งตำแหน่งนายใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งจัดเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก การกล่าวคำปราศรัยของสี จิ้นผิง แตกต่างไปจากผู้นำสูงสุดที่นั่งเก้าอี้ประมุขพรรคฯของจีนคนก่อนหน้า คือไร้สำเนียงภาษาถิ่น แสลง และหลักทฤษฎี
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(23 พ.ย.) สี ยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งแก่ เว่ย เฟิ่งเหอ ผู้บัญชาการกองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์(Strategic missile force)ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน(พีแอลเอ) เป็นนายพลเต็มขั้น นับเป็นครั้งแรกที่สี จิ้นผิง ในฐานะประธานคณะกรรมการทหารแห่งพรรคฯ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทหารสู่ระดับสูงสุด
ในการปราศรัยวานนี้ สีได้เรียกร้องผู้นำสูงสุดยึดถือแนวปฏิบัติได้จริงในทางการเมือง และหลีกเลี่ยงการวิวาทะทางหลักทฤษฎี ซึ่งอาจสร้างความแตกแยกภายในพรรคฯ
“หยุดการถกเถียงที่ว่างเปล่าไร้ประโยชน์ หันมาทำงานหนักเพื่อฟื้นฟูประเทศชาติ” สี กล่าว
สีกล่าวคำปราศรัยหลังจากเยี่ยมชมนิทรรศการ หัวเรื่อง “เส้นทางสู่การฟื้นฟู” (China's Road to Renaissance) ณ พิพิธภัณฑ์ในกรุงปักกิ่ง พร้อมกับสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองท่านอื่นๆ
ทั้งนี้ คณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ 7 ตำแหน่ง ชุดใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรทรงอิทธิพลที่สุด ที่ได้รับการเลือกตั้งจากคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุด 18 ในวันที่ 15 พ.ย. ได้แก่ สี จิ้นผิง, หลี่ เค่อเฉียง, จัง เต๋อเจียง, อี๋ว์ เจิ้งเซิง, หลิ่ว อวิ๋นซัน, หวัง ฉีซัน, จัง เกาลี่
กลุ่มนักวิเคราะห์กล่าวถึงความเคลื่อนไหวที่ครึกโครมนี้ บ่งถึงการการรุกอย่างรวดเร็วในการผนึกอำนาจของสี จิ้นผิง ก่อนรับคทาผลัดนำการปกครองประเทศจากหู จิ่นเทา อย่างเต็มตัว
“เขาดูแข็งแกร่งและกระตือรือร้นเนื่องจากภูมิหลังทางการเมืองที่แข็งแกร่ง เป็นบุตรของผู้นำการปฏิวัติ การกระทำที่ว่องไวของเขาแสดงว่า เขาจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการสร้างอิทธิพลอำนาจ” จัง ลี่ฟัง นักวิเคราะห์กิจการการเมืองแห่งสถาบันบัณฑิตยสถานแห่งรัฐจีน กล่าว
นักวิเคราะห์อีกกลุ่มเห็นพ้องกันว่ากลุ่มผู้นำใหม่เผชิญปัญหาท้าทายที่น่ากลัวมากในสิบปีข้างหน้านี้
“การกระทำที่ครึกโครมเช่นนี้แสดงว่าผู้นำต้องการที่จะรวบรวมคะแนนนิยมในช่วงจังหวะเวลาที่ต้องเผชิญความท้าทายมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน” จัง กล่าว
นักเฝ้ามองเรื่องจีนหวังว่า สี ซึ่งอยู่ในกลุ่ม “ลูกท่านหลานเธอ” จะสามมารถผลักดันการปฏิรูปที่โดดเด่นในช่วงการนำสมัยที่สอง เมื่อเขาผนึกอิทธิพลอำนาจได้แข็งพอ ทั้งนี้ กลุ่มผู้นำจีนมีวาระตำแหน่ง 5 ปี และครองอำนาจกันสองสมัยซ้อน.