เอเยนซี - ธนาคารกลางจีนได้กำหนดค่ากลางเงินหยวนที่ระดับ 6.2920 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ในวันนี้ (13 พ.ย.) ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้กำหนดค่ากลางเงินหยวนที่ระดับ 6.2920 เทียบดอลลาร์ เพื่มขึ้น 92 จุด (Basis Point) จากระดับ 6.3012 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ที่เคยกำหนดค่ากลางเงินหยวนไว้ที่ 6.2865 เมื่อวันที่ 9 พ.ค. โดยค่าเงินหยวนนี้จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 1 จากค่ากลางที่ PBOC กำหนดในแต่ละวัน
ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน นายโจว เสี่ยวชวน ยังได้แถลง (13 พ.ย.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเงินของจีน ระหว่างการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 18 ว่า ความไม่แน่นอนจากวิกฤติการเงินระหว่างประเทศ ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ซึ่งรัฐบาลได้ศึกษาและดำเนินมาตรการที่จำเป็น อันจะรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ พร้อมกับสร้างความหลากหลายในภาคการเงิน อันรวมถึงการเปิดเสรีภาคการเงิน ปฏิรูปอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกลไกตลาดมากขึ้น และขยายการใช้เงินสกุลหยวนในการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ
บรรดานักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐที่ลดต่ำลง สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ลงทุนเริ่มคลายความวิตกต่อเศรษฐกิจจีนในปลายปีนี้ หลังจากที่รัฐบาลรายงานตัวเลขส่งออกขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบ 5 เดือน และธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ยอ้างอิง กับการประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3(QE3) ของสหรัฐฯ รวมถึงการดำรงตำแหน่งผู้นำอีกสมัยของนายบารัค โอบามา
ด้านโจนาธาน เคฟห์ นักยุทธศาสตร์สกุลเงินของธนาคาร เวสต์แพค แบงค์กิง คอร์ป (WBC) ในสิงคโปร์ กล่าวว่า หลายๆ คนคงจะรู้สึกโล่งใจมากขึ้นกับยอดการส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นคืนของจีน และการส่งเสริมการขยายตัวของ “โครงการ Renminbi Qualified Foreign Institutional Investor (RQFII)” ซึ่งเป็นโครงการที่จีนอนุญาตให้สถาบันการลงทุนต่างประเทศซึ่งได้รับการรับรองฯ สามารถเข้าไปซื้อขายหุ้นกลุ่ม A-shares ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น โดยใช้เงินหยวนได้ ยิ่งส่งเสริมให้ค่าสกุลเงินหยวนมีนัยสำคัญมากขึ้นในตลาดการค้า-การลงทุน
