ไชน่าเดลี่ / เอเอ็นเอ็น - เศรษฐกิจแดนมังกร ที่ชะลอการเติบโตฉุดความมั่งคั่งของมหาเศรษฐี 100 อันดับไปหลายคน จากการจัดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดของจีนโดยนิตยสารฟ้อร์บส์ ประจำปี 2555 ส่งผลให้มหาเศรษฐี 45 คนตกจากอันดับเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ยอดทรัพย์สินของมหาเศรษฐีเหล่านี้ลดลงร้อยละ 7 เหลือเพียง 220,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับมหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่สุดของจีนในปีนี้ได้แก่นายจง ชิ่งโฮ่ว ผู้ก่อตั้งและประธานของหังโจวหวาฮาฮากรุ๊ป บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ด้วยจำนวนทรัพย์สินสุทธิสูงเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเขาเคยครองอันดับหนึ่งมาแล้วเมื่อปี 2553
ฟ้อร์บส์ระบุว่า นายจง ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 80ในหวาฮาฮา มีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านหยวน (9,570 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งมากกว่าเมื่อปีที่แล้วกว่า 2,000 ล้านหยวน
นาย หวัง เจี้ยนหลิน ประธานและผู้บริหารสูงสุดของ ต้าเหลียน วั่นต๋ากรุ๊ป ผงาดขึ้นมาร่ำรวยได้รวดเร็วที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา โดยมีทรัพย์สินเพิ่มจาก 25,600 ล้านหยวน เป็น 50,400 ล้านหยวน ติดอันดับ 1 ใน 3 บุคคล ที่มั่งคั่งที่สุดบนแดนมังกร ซึ่งได้แก่นายจง และนายโรบิน หลี่ แห่งบริษัทเสิร์จเอ็นจิ้นไป่ตู้
นายหวังประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในการเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงด้วยการประกาศซื้อกิจการโรงภาพยนตร์ในเครือของ AMC Entertainment ของสหรัฐฯ จำนวน 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว
การประกาศจัดอันดับของฟ้อร์บส์เกิดขึ้น หลังจากการประกาศการจัดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดของสำนักวิจัยหูรุ่นประจำปี 2555 เพียง 2 สัปดาห์ โดยนายจง วัย 67 ปีติดอันดับท็อปเทนของหูรุ่น ซึ่งประเมินว่า เขามีทรัพย์สินทั้งหมด 12,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และติดอันดับหนึ่งต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในการจัดอันดับของหูรุ่น ซึ่งมีที่ทำการอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับนายจงและนายหวังแล้ว เศรษฐีนักธุรกิจในภาคผู้บริโภคคนอื่น ๆ ทำได้ไม่ดีนัก
นาย จัง จิ้นตง ประธานบริษัทซูหนิงแอ๊ปพลายแอนซ์ (Suning Appliance Co Ltd) มีมูลค่าทรัพย์สินลดลง 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้เขาเปิดธุรกิจ ที่แซงหน้าบริษัทคู่แข่งกันมาช้านานอย่างกอมอิเล็กทริแค็ลแอ๊ปพลายแอนซ์ส(Gome Electrical Appliances) ซึ่งนายหวง กวงอี้ว์ เป็นเจ้าของอยู่ก็ตาม โดยนายหวงเองขณะนี้ยังติดคุกจากการก่ออาชญากรรมทางการเงิน
นายชิว กวงเหอ แห่งบริษัทเครือแฟชั่นเจ้อเจียงซีเมียร์กรุ๊ป ( Zhejiang Semir Group) มูลค่าทรัพย์สินลดลง 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หล่นมาอยู่ที่อันดับ 37
รัสเซลล์ ฟลันเนอรี่ บรรณาธิการอาวุโสของฟ้อร์บส์ และหัวหน้าประจำสำนักงานนครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ในภาคผู้บริโภคและการค้าปลีกกำลังย่ำแย่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ โดยทำกำไรได้น้อยลง และประสบปัญหาด้านการเงิน
เขาระบุว่า เศรษฐีในจีนลดจำนวนลงจาก 146 คนในปีที่แล้ว เหลือ 113 คนในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว
เศรษฐีนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์หลายคนก็เดือดร้อนไปด้วย โดยนายเหลียง เวินเกิน ซึ่งติดอันดับนำในปีที่แล้วมีมูลค่าทรัพยสินลดลง 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากการชะลอความต้องการวัสดุก่อสร้าง ซึ่งผลิตโดยบริษัทซานี่เฮฟวี่อินดัสทรี่ (Sany Heavy Industry Co Ltd) ที่เขานั่งเป็นประธาน
เศรษฐีนักธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ติดอันดับของฟ้อร์บส์ได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า เนื่องจากการทำสัญญาซื้อขายบ้านลดลง และหลายโครงการถูกระงับไป ขณะที่ราคาอสังหาริมทรัยพ์ไม่กระเติ้อง
ความมั่งคั่งที่เพิ่มหรืถดถอยลงของเศรษฐีจีนในภาคธุรกิจต่าง ๆ นี้ทำให้ได้ข้อสรุปว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนนำความไม่แน่นอนมาสู่บริษัทผู้ประกอบการเอกชนในท้องถิ่น นายโจว เจี้ยนกง หัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสารฟ้อร์บส์ภาคภาษาจีนระบุ
ทั้งนี้ การพิจารณาจัดอันดับของฟ้อร์บส์ดูจากข้อมูลด้านการเงินและการถือหุ้น ซึ่งรวบรวมได้จากทางครอบครัว บุคคล ตลาดหุ้น นักวิเคราะห์ และหน่วยงานผู้คุมกฎระเบียบของจีน โดยมีการคำนวนมูลค่าทรัพย์สินจากราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจนถึงวันที่ 21 กันยายน