เอเยนซี – ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจจีน ขยายตัวในอัตราเพียงร้อยละ 7.7 ในปีนี้ จากที่เคยคาดไว้เมื่อเดือนเมษายน ว่าร้อยละ 8.5
สื่อต่างประเทศรายงาน (3 ต.ค.) ว่า ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจจีน โดยคาดว่า ในปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนจะขยายตัวในอัตราเพียงร้อยละ 7.7 จากที่เคยคาดไว้ในเดือนเมษายนที่ร้อยละ 8.5 และคาดว่าในปีหน้า จะเขยิบขึ้นไปที่ร้อยละ 8.1 อันเป็นตัวเลขซึ่งต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 8.7
รายงานแนวโน้มพัฒนาการของเอเชียประจำปี 2012 (Asian Development Outlook 2012) ซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ต.ค.นี้ เอดีบี ระบุว่าภาวะชะลอตัวเศรษฐกิจในจีนและอินเดีย เป็นผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ พลอยชะลออยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ ผลพวงวิกฤตหนี้ยุโรปและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังคงอ่อนแอ ก็เป็นปัจจัยความเสี่ยงสำคัญ เพราะสองภูมิภาคนี้ เป็นตลาดส่งออกสำคัญ
รายงานฯ เผยความคาดการณ์ว่า ในช่วงเฉพาะหน้านี้ จีนต้องเผชิญความเสี่ยงของภาวะอุปสงค์ซบเซาซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก อีกทั้งไม่อาจคาดหวังจากประเทศคู่ค้าสำคัญรายใหญ่ๆ ซึ่งต่างประสบความผันผวนของเศรษฐกิจในประเทศและไม่อาจฟื้นคืนในระยะสั้น
ฉังหย่ง หรี่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี กล่าวว่า จีนยังมีช่องทางโอกาสในการปรับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มได้อีก จึงคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะยังไม่ถึงกับทรุดร่วงรุนแรง แต่กระนั้น ก็ควรเร่งปฎิรูปเศรษฐกิจและการเงิน
"รัฐบาลจีนมีวิธีการที่หลากหลายในการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งด้านการคลัง ไปจนถึงมาตรการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยไม่ให้เศรษฐกิจจีนทรุดหนัก แต่ต้องเร่งความพยายามที่จะกระจายมาตรการเหล่านั้น รวมทั้งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาครวมได้อย่างทั่วถึง" ฉังหย่ง หรี่ กล่าว
ด้าน นักวิเคราะห์เศรษฐกิจจากธนาคารมิซูโฮ เซิน เจียงกวง และ ไมเคิล ลัค กล่าวในรายงานฯ ของบริษัท (3 ต.ค.) ว่า ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่สาม ตกลงมาทึ่ร้อยละ 7.4 จาก 7.6 ในไตรมาสที่สอง เพราะว่าเศรษฐกิจจีนยังขาดแรงขับเคลื่อนในเชิงนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ และแม้เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลจะได้ประกาศทุ่มงบประมาณ 20 ล้านล้านหยวน เพื่อกระตุ้นโครงการยักษ์แต่ก็ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพนักหากยังไม่ผ่อนคลายกฎคุมเข้มสถาบันการเงินต่างๆ รวมถึงการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้บรรดานักวิเคราะห์เศรษฐกิจ หวังว่ารัฐบาลจะสั่งปรับลดทุนสำรองฯ ธนาคารพาณิชย์อีกครั้ง หลังจากที่ได้มีการปรับลดฯ มาแล้ว 3 ครั้งระหว่างเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว จนถึงล่าสุดคือเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
