น.ส.ลักษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส สำนักงานผู้แทนประจำประเทศไทย ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเซีย หรือ เอดีบี กล่าวว่า เอดีบีได้ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลง เหลือขยายตัวร้อยละ 5.2 จากเดิมคาดว่าขยายตัวร้อยละ 5.5 และ เศรษฐกิจในปี 2556 ขยายตัวร้อยละ 5 จากเดิมจะขยายตัวร้อยละ 5.5 สาเหตุเนื่องจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียขยายตัวลดลง โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.1 จากเดิมคาดการณ์โตร้อยละ 6.9 เป็นผลมาจากเศรษฐกิจจีน และอินเดีย เติบโตช้าลง
ขณะที่ผลผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกของไทยอย่างฮาร์ดดิสก์ ไดร์ฟ และแผงวงจรลดลงในเดือนกรกฎาคม 2555 สะท้อนถึงความต้องการในตลาดโลกที่ลดลง ทำให้แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ไม่สดใส คาดว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 5 และคาดว่าในปีหน้าการส่งออกจะดีขึ้น โดยสินค้าที่ส่งออกที่ลดลงคือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าว ยางพารา และสิ่งทอ โดยเฉพาะการส่งออกข้าวจะยังคงไม่ดี เนื่องจากราคาข้าวไทยที่สูงกว่าคู่แข่ง และเอดีบีเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เป็นนโยบายที่ไม่ครบวงจร เพราะว่าไม่ได้พัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่
ด้านการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักในช่วง 2 ปีนี้ โดยได้รับแรงส่งจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศในปีหน้า นโยบายรถคันแรก นโยบายจำนำข้าว และอัตราดอกเบี้ยต่ำที่เอื้ออำนวย เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มเติม เพราะโครงการลงทุนในโครงสร้างเพื่อป้องกันน้ำท่วม
ด้านแรงกดดันเงินเฟ้อ คาดว่าจะน้อยลงตามการชะลอตัวของการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเอดีบีปรับลดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงเหลือร้อยละ 3 ในปีนี้ และ ร้อยละ 3.2 ในปี 2556 ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และพร้อมจะลดอัตราดอกเบี้ยถ้าจำเป็น
ส่วนนโยบายการคลังแม้ว่ารัฐบาลจะมีแผนกู้เงินจำนวนมาก แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาหนี้สาธารณะ โดยคาดว่าหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะไม่เกินร้อยละ 50 ใน 3 ปีข้างหน้า
สำหรับความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย ยังคงอยู่ที่เศรษฐกิจโลกเป็นหลัก นอกจากนี้ เอดีบียังสนับสนุนให้ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ให้ความสำคัญกับภาคการบริการ เพื่อทดแทนการส่งออกที่จะขยายตัวลดลง โดยเร่งแก้ไขกฎระเบียบที่ยุ่งยากซับซ้อน และพัฒนาฝีมือแรงงานภาคบริการที่มีความทันสมัย
ขณะที่ผลผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกของไทยอย่างฮาร์ดดิสก์ ไดร์ฟ และแผงวงจรลดลงในเดือนกรกฎาคม 2555 สะท้อนถึงความต้องการในตลาดโลกที่ลดลง ทำให้แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ไม่สดใส คาดว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 5 และคาดว่าในปีหน้าการส่งออกจะดีขึ้น โดยสินค้าที่ส่งออกที่ลดลงคือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าว ยางพารา และสิ่งทอ โดยเฉพาะการส่งออกข้าวจะยังคงไม่ดี เนื่องจากราคาข้าวไทยที่สูงกว่าคู่แข่ง และเอดีบีเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เป็นนโยบายที่ไม่ครบวงจร เพราะว่าไม่ได้พัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่
ด้านการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักในช่วง 2 ปีนี้ โดยได้รับแรงส่งจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศในปีหน้า นโยบายรถคันแรก นโยบายจำนำข้าว และอัตราดอกเบี้ยต่ำที่เอื้ออำนวย เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มเติม เพราะโครงการลงทุนในโครงสร้างเพื่อป้องกันน้ำท่วม
ด้านแรงกดดันเงินเฟ้อ คาดว่าจะน้อยลงตามการชะลอตัวของการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเอดีบีปรับลดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงเหลือร้อยละ 3 ในปีนี้ และ ร้อยละ 3.2 ในปี 2556 ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และพร้อมจะลดอัตราดอกเบี้ยถ้าจำเป็น
ส่วนนโยบายการคลังแม้ว่ารัฐบาลจะมีแผนกู้เงินจำนวนมาก แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาหนี้สาธารณะ โดยคาดว่าหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะไม่เกินร้อยละ 50 ใน 3 ปีข้างหน้า
สำหรับความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย ยังคงอยู่ที่เศรษฐกิจโลกเป็นหลัก นอกจากนี้ เอดีบียังสนับสนุนให้ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ให้ความสำคัญกับภาคการบริการ เพื่อทดแทนการส่งออกที่จะขยายตัวลดลง โดยเร่งแก้ไขกฎระเบียบที่ยุ่งยากซับซ้อน และพัฒนาฝีมือแรงงานภาคบริการที่มีความทันสมัย