xs
xsm
sm
md
lg

สี จิ้นผิง รองปธน.จีน ต้อนรับ รมต.กลาโหมสหรัฐฯ ไม่คุัยปัญหาเตี้ยวอี่ว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีจีน (ขวา) ขณะพูดคุยให้การต้อนรับนายลีออน พาเนตตา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม สหรัฐฯ ที่ห้องโถงของมหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 19 ก.ย. (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี - สี จิ้นผิง ว่าที่ผู้นำจีนคนต่อไป ซึ่งหายหน้าจากสาธารณะไปกว่า 2 สัปดาห์ จนมีคนปล่อยข่าวลือให้ประชาชนเกิดความสับสนไปต่างๆ นานา ได้ต้อนรับการมาเยือนของนายลีออน พาเน็ตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ วันนี้ หลังรมต.กลาโหมจีน พบปะและขอสหรัฐฯ วางตัวเป็นกลางในกรณีพิพาทเกาะเตียวอี่ว์



สื่อต่างประเทศรายงาน (19 ก.ย.) นายสี จิ้นผิง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกระทรวงหลายนาย ได้ให้การต้อนรับนายใหญ่ของเพนตากอนที่ห้องโถงของมหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง

รองประธานาธิบดีจีน ซึ่งจับมือต้อนรับ ด้วยท่าทีผ่อนคลายและสุขภาพดี ยิ้มและพูดกับพาเน็ตตา ว่า "ยินดีมากที่ได้พบกัน การได้คุยพบหน้ากันทำให้ผมนึกถึงตอนไปสหรัฐฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และขอให้การมาเยือนจีนราบรื่นทุกประการ"

รายงานข่าวกล่าวว่า การออกงานครั้งนี้ของรองประธานาธิบดีสี เป็นที่สนใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่เขาปรากฎตัว หลังจากปฏิเสธและยกเลิกนัดหมายกับผู้นำของชาติต่างๆ ไปหลายครั้ง จนหลายคนห่วงสถานะการเมืองของเขาในช่วงที่จะมีการประชุมใหญ่พรรคฯ เพื่อกำหนดวางบุคคลที่จะนำจีนในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยนายสี ได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีจีน ต่อจากนายหู จิ่นเทา ผู้นำคนปัจจุบัน

ความไม่ชัดเจนในข้อมูลเกี่ยวกับการหายหน้าไปทำให้กลายเป็นที่สนใจของสื่อต่าง ๆ และก่อให้เกิดข่าวลือ ข่าวเล่า อีกทั้งโยงสร้างตีความการเมืองกันไปใหญ่โต

ทั้งนี้ การเยือนของนายพาเน็ตตา เป็นการทัวร์ตระเวณเอเชียแปซิกฟิก เพื่อกระชับความสัมพันธ์และคลายความขัดแย้งอันอาจจะมีขึ้นในภายหน้าขณะที่กองทัพสหรัฐฯ ก็กำลังเพิ่มความสนใจกับภูมิภาคนี้มากขึ้นทุกที ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดความระแวงต่อกันทั้งจีนและสหรัฐฯ โดยนายพาเน็ตตา กล่าวในแถลงการณ์ย้ำว่า สหรัฐฯ กำลังให้ความสนใจกับทวีปเอเชีย ในฐานะของพันธมิตรและไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับจีน

ก่อนที่จะเข้าพบกับรองประธานาธิบดีจีน นายพาเน็ตตา ยังได้รับการต้อนรับจาก เหลียงกวงเลี่ย รัฐมนตรีกลาโหมจีน โดยพาเน็ตตา ได้กล่าวขอให้ทั้งนายเหลียง และผู้นำกลาโหมของญี่ปุ่น หาทางแก้ปัญหากรณีพิพาทเกาะเตี้ยวอี่ว์ อย่างสงบและใช้วิธีการทูต ซึ่งนายเหลียงก็ตอบในการแถลงข่าวว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องชัดเจนก่อนจีนก็ต้องการที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยการเจรจา และหวังว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะแก้ไขการกระทำในเรื่องที่ผิด เพื่อที่จะได้เริ่มพูดคุยกันได้

ซินหวารายงานว่า ระหว่างการพูดคุยส่วนตัวของผู้นำกลาโหมฯ ทั้งสอง นายเหลียงได้กล่าวกับพาเน็ตตาว่า จีนไม่ยอมรับในสนธิสัญญาที่สหรัฐฯ ทำกับญี่ปุ่น ในปีพ.ศ. 2494 ซึ่ง สหรัฐฯ ช่วยญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และจีนหวังว่าสหรัฐฯ จะวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างจีน-ญี่ปุ่น

ด้านนายพาเน็ตตา ได้กล่าวระหว่างการแถลงข่าวภายหลังการหารือเมื่อเช้าวันอังคาร ว่า มีความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งมองความร่วมมือในระยะยาวที่ยั่งยืน ซึ่งยังจะมีกิจกรรมที่จะร่วมมือกันอีกมากมายในอนาคต พร้อมกันนี้ พาเน็ตตา ก็แถลงยืนยันความร่วมมือว่าสหรัฐฯ จะเชิญจีนส่งกองกำลังทหารเรือเข้าร่วมฝึกซ้อมรบในปี พ.ศ. 2557

ก่อนหน้านี้ สื่อต่างประเทศรายงานคำกล่าวของนายพาเน็ตตา ระหว่างการประชุมในสิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายนว่า สหรัฐฯ มีแผนการขยายแสนยานุภาพเข้าสู่ย่านเอเชียแปซิฟิกในช่วง 8 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงแผนการส่งเรือรบรุ่นใหม่ที่ “ใช้เทคโนโลยีระดับสูงสุด” เข้าสู่ภูมิภาคนี้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย โดยแผนการดังกล่าว จะเริ่มต้นด้วยการเคลื่อนย้ายกำลังทางเรือเข้าสู่เอเชีย คิดเป็นสัดส่วน 60 ต่อ 40 กับทางด้านยุโรป อันเป็นสัดส่วนที่ตรงข้ามกับในปัจจุบัน ซึ่งเน้นคงกองกำลังในย่านตะวันออกกลาง กับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งไม่กี่ปีข้างหน้า สหรัฐฯ จะมีกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีประจำในย่านเอเชียถึง 6 กอง ประกอบด้วย เรือบรรทุกเรื่องบิน 6 ลำ เรือลาดตระเวน เรือพิฆาต เรือฟรีเกต เรือคอร์แว็ต เรือดำน้ำ เรือโจมตียกพลขึ้นบก กับเรือสนับสนุนอื่นๆ รวมแล้วนับร้อยลำ ขณะเดียวกัน กองทัพเรือสหรัฐฯ ก็ประกาศจะส่งเรือฟรีดอม (Freedom) LCS-1 ซึ่งเป็นเรือจู่โจมชายฝั่ง (Littoral Combat Ship) รุ่นใหม่ล่าสุดเข้าประจำการในสิงคโปร์ต้นปีหน้า เพื่อดูแลช่องแคบมะละกา กับภารกิจรักษา “เส้นทางเดินเรือเสรีทะเลจีนใต้” ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เรือ LCS ของสหรัฐฯ เข้าสู่พื้นที่นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น