เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าของจีนเผยว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเป็นไปตามเป้าหมายในปีนี้ แต่ก็เตือนด้วยว่า อาจเผชิญภาวะยากลำบากในบางครั้ง และยังคงมีปัจจัยอันตรายเกี่ยวกับการค้าที่น่าหวาดกลัวอยู่
สำนักข่าวซินหวาเผยว่า ในระหว่างการเยือนมณฑลเจ้อเจียงเมื่อวันพุธ (15 ส.ค.) นายกเวินฯ ได้อ้างถึงการขยับตัวขึ้นเล็กน้อยของภาคผลิตทางอุตสาหกรรม พร้อมชี้ว่า อัตราการจ้างงานยังคงมีเสถียรภาพ
รายงานข่าวไม่ได้ชี้ชัดโดยตรง ว่ารัฐบาลปักกิ่งจะพิจารณาตัดลดอัตราดอกเบี้ยลง หรือมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตกต่ำในรอบ 3 ปี ซึ่งอยู่ที่ 7.6 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาส 2 นี้หรือไม่ หากว่าเปรียบเทียบกับสหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่นแล้วเศรษฐกิจจีนถือว่ายังดีอยู่ แต่กระนั้นก็ส่งผลกระทบต่อบริษัทบนแผ่นดินใหญ่ที่อิงอาศัยการส่งออกสินค้าให้ระทมไปตาม ๆ กัน
“พวกเรามีปัจจัยและความสามารถ พอจะเติมเต็มให้เศรษฐกิจในปีนี้ไปถึงเป้าหมายให้จงได้ ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาสังคมด้วย” เวินกล่าว
อย่างไรก็ตาม เวินยังคงเตือนว่า รากฐานของความมั่นคงทางเศรษฐกิจขณะนี้ยังถือว่ามีเสถียรภาพ แต่ก็อาจประสบกับภาวะยากลำบากทางเศรษฐกิจได้ในบางครั้ง
รัฐบาลได้ตัดลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง นับแต่ต้นเดือนมิ.ย.เป็นต้นมา และกำลังพยายามให้อัดฉีดเงินให้ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเอื้อให้เกิดการลงทุนของบริษัทภาครัฐบาลฯ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะต้องมีมาตรการรับรือที่ดุเด็ดกว่านี้มากระตุ้นภาวะเศรษฐกิจซบเซาที่เป็นมานับแต่ปี 2551 ที่เกิดภาวะวิกฤติเงินเฟ้อและส่งผลให้การก่อสร้างต่าง ๆ ง่อยชะงัก
เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสำหรับปี 2555 นี้อยู่ที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นักวิเคราะห์ภาคเอกชนคาดว่าน่าจะโตได้อยู่ที่ 8 เปอร์เซ็นต์
การชะลอตัวก่อให้เกิดความเสี่ยงปัญหาตกงาน และปัญหาความไม่สงบในสังคม ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังจะเปลี่ยนถ่ายอำนาจให้แก่ผู้นำรุ่นใหม่ในปีนี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะสามารถฟื้นฟูขึ้นมากลบเฉลี่ยความซบเซาในช่วงต้นปีได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า จะได้รับผลกระทบร้ายแรงจากเศรษฐกิจฝั่งยุโรปและสหรัฐฯที่กำลังย่ำแย่ มากน้อยเพียงใด
อัตราการส่งออกขยายตัวลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ในเดือนก.ค. ถือว่าน้อยกว่าคาดการณ์ที่บอกว่าจะลดลงถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมและการใช้จ่ายผู้บริโภคก็อ่อนลง แม้ว่ารัฐบาลรัวหมัดมาตรการกระตุ้นสักปานใดก็ตาม
การขยายตัวลดลงทางเศรษฐกิจเป็นผลจากส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลจีนในช่วงปี 2553-54 ที่ผ่านมา ที่ต้องการดับร้อนภาวะเงินเฟ้อด้วยการจำกัดการกู้ยืมและการลงทุน ทว่าเมื่อปีที่ผ่านมาผู้นำจีนได้คลายมาตรการเหล่านี้ลงบ้าง หลังจากอุปสงค์สินค้าของโลกตกฮวบ แต่ก็ยังคงควบคุมเรื่องการซื้อขายภาคอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนการลงทุนด้านการสร้างที่อยู่อาศัยและราคาเคหะสถานไว้
นายกเวิน จยาเป่าเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นทำงานให้สอดคล้องกับเงื่อนไขและความเป็นจริงของท้องถิ่นตน สำนักข่าวซินหวารายงาน โดยนายกเวินเผยว่า การผลิตในก่วงตง เจ้อเจียง และเจียงซู เพิ่มขึ้น 1.4 1.9 และ0.7 จุด ตามลำดับ ในเดือนก.ค. หากเทียบกับการผลิตในครึ่งแรกของปี ดังนั้นการพัฒนาจำต้องดูในระดับท้องถิ่นตามความเป็นจริง
นายกเวินเผยว่า เศรษฐกิจของจีนได้สร้างงานใหม่ในเขตเมือง 8.12 ล้านตำแหน่ง ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นถึง 390,000 ตำแหน่งจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เวินเตือนผู้จัดการบริษัททั้งหลายว่า พวกเขาควรเตรียมรับมือกับภาวะย่ำแย่ของการค้ากับต่างประเทศด้วย โดยรัฐบาลตั้งเป้าการขยายตัวทางการค้าของปีนี้ไว้ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลในครึ่งปีแรกออกมาที่ 9.2 เปอร์เซ็นต์ นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลในเต็มปีนั้น ดูเหมือนว่าจะยากที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย