ในที่สุด คนที่ปักกิ่งดันก็พิชิตเก้าอี้ผู้นำฮ่องกง

รอยเตอร์ - คณะกรรมการการเลือกตั้งฮ่องกงอันประกอบไปด้วยบุคคลมีชื่อเสียง 1,200 คน ได้เลือกให้นายเหลียง เจิ้นอิง ผู้ที่รัฐบาลจีนสนับสนุนขึ้นเป็นผู้นำฮ่องกงคนต่อไปในวันอาทิตย์ (25 มี.ค.) ขณะที่ก่อนหน้านี้การรณรงค์หาเสียงเต็มไปด้วยปัญหากดดันจีนให้รักษาคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า จะให้ฮ่องกงสามารถเลือกตั้งผู้นำทางตรงได้ในปี 2560

ฮ่องกงเป็นดินแดนภายใต้อาณัติของอังกฤษ 100 ปี ได้กลับคืนสู่อ้อมอกจีนในปี 2540 ฮ่องกงเป็นเมืองศูนย์กลางทุนนิยมเสรี มีบุคลิกรักอิสระ ทว่าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ยังคงฝืนทานแรงกดดัน ไม่ปล่อยให้ฮ่องกงได้ประชาธิปไตยแบบเต็มใบ

ฮ่องกงมีประชากรราว 7 ล้านคน ไม่มีสิทธิที่จะได้ใช้เสียงเลือกตั้งผู้นำของตนเอง กระบวนการคัดเลือกนั้นถูกกำหนดโดยบางสิ่งบางอย่างที่มีอำนาจเหนือกว่า และไม่เป็นที่รับรู้ของสาธารณะ ซึ่งหลายคนอนุมานได้ว่ามาจากการแทรกแซงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ผู้ประท้วงหลายสิบคนรวมตัวในคูหาเลือกตั้ง เปล่งวาจาเย้ยหยันลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ประกาศว่า “พวกเราต้องการการเลือกตั้งทางตรงเดี๋ยวนี้”

บริเวณด้านนอกคูหายังมีผู้ประท้วงอีกราว 2,000 คน นอนค้างแรม และมีกิจกรรมกู่ก้องร้องตะโกน สะบัดป้ายผ้าเพื่อบอกให้รู้ถึงความโกรธเกรี้ยวที่ผู้นำไม่ยอมฟังเสียง พลางตะโกนลั่น “เหลียง เจิ้นอิงลาออกไป เหลียง เจิ้นอิงลาออกไป ๆๆๆ” หลายคนขว้างแผ่นเสียงหลากสีสันขึ้นไปบนอากาศเพื่อสะท้อนนัยยะว่า ต้องการหลุดพ้นจากวงโคจรการเลือกตั้งที่แสนจะแคบ ไม่เปิดกว้าง

หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแล้ว นายเหลียง เจิ้นอิงผู้นำที่จะขึ้นมาแทนที่นายโดนัล จัง ก็ได้กล่าวให้คำมั่นว่า จะทำงานเพื่อให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่คณะกรรมการการเลือกตั้งผู้นำฮ่องกงจะทำหน้านี้ “ผมจะทำงานกับชาวฮ่องกงไปอีก 5 ปี เพื่อให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่า ในปี 2560 ทุกคนจะได้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้นำฮ่องกงทางตรง”

นายเหลียงเผยว่า เขาประสบปัญหาที่น่าวิตกหลายประการ พร้อมย้ำว่าต้องการลดความตึงเครียด สร้างหลักนิติธรรม สิทธิมนุษยชนตลอดจนเสรีภาพให้เกิดขึ้นบนเกาะฮ่องกง “ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ร้อนแรง ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับความอารมณ์รุนแรงของแต่ละฝ่าย” เหลียงกล่าวด้วยหน้าตาที่ไม่อาจรู้ได้ว่าเขารู้สึกอย่างไรหลังได้รับชัยชนะ

“ขณะนี้การแข่งขันสิ้นสุดลงแล้ว และถึงเวลาที่เราต้องรวมตัวเพื่อเอกภาพ พวกเราต้องพร้อมเพรียง เพื่อสร้างพลังงานด้านบวกให้กับชุมชนของเราอีกครั้ง” เหลียงแถลงกับนักข่าว ในขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงยังตะโกนร้องให้เขาลาออก

หากเทียบกับการเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกงก่อนหน้าที่ผ่านมา คนที่ปักกิ่งสนับสนุนมักจะได้นั่งเก้าอี้ผู้นำเสมอ และครั้งนี้ก็ถือเป็นการตอกย้ำความอื้อฉาวเรื่องการแทรกแซงของจีนอีกครั้ง หลายคนมองทะลุว่า ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ยังคงมีอำนาจเหนือการเมืองในฮ่องกงไม่เปลี่ยนแปลง

นายเฮนรี่ ถัง นักธุรกิจอุตสาหกรรมที่มั่งคั่งและเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมาธิการพลเรือนมาก่อน ช่วงแรกก็ได้รับการสนับสนุนจากปักกิ่งดิบดี แต่เมื่อต่อมา ถังมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในเรื่องชู้สาวและห้องชุดใต้ดินหรู จนเป็นที่ครหาไปทั่ว เหตุผลเหล่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้จีนเลิกสนับสนุนเขา โดยหันมาดันนายเหลียงแทน และทำการล็อบบี้คณะกรรมการการเลือกตั้งในการออกเสียงลงคะแนน

เหลียง วัย 57 ปี ถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แต่เขาปฏิเสธ เขาเคยทำงานเป็นผู้ตรวจสอบการถือกำเนิดบนเกาะฮ่องกง และเขามีสัมพันธ์กับจีนอย่างลึกซึ้ง

คณะกรรมการการเลือกตั้งในครั้งนี้ประกอบไปด้วยนักธุรกิจชั้นนำ มหาเศรษฐี และผู้ภักดีต่อรัฐบาลจีน ทำการลงคะแนนเลือกนายเหลียงจำนวน 689 เสียง จากการลงคะแนนทั้งหมด 1,132 เสียง ส่วนเฮนรี ถัง ได้ไป 285 เสียงเท่านั้น