xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวต่อไปของปั๋ว ซีไหล หลังถูกปลดตำแหน่งพ่อเมืองฉงชิ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปั๋ว ซีไหลนั่งหาวระหว่างพิธีเปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติประจำปีพ.ศ. 2555 - แฟ้มภาพรอยเตอร์
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - แม้อนาคตทางการเมืองดับวูบ หลังจากถูกปลดฟ้าผ่าจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำสาขาเทศบาลนครฉงชิ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่นักวิเคราะห์คาดว่า นายปั๋ว ซีไหล วัย 62 ปี อดีตนักการเมืองดาวรุ่ง ฉายาท่านอ๋องน้อย น่าจะยังไม่ถูกถอดออกจากกรรมการกรมการเมือง (Politburo Members) และคงไม่ถูกลงโทษรุนแรงเหมือนเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรคคนอื่น ๆ อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

สำหรับเส้นทางสู่ตำแหน่งคณะกรรมการประจำของกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Politburo Standing Committee) หรือคณะโปลิตบูโร ซึ่งเป็นคณะผู้ตัดสินใจสูงสุดของจีนสำหรับนายปั๋วได้จบลงแล้ว หลังจากเขาเคยเป็นตัวเก็งคนสำคัญ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า นายปั๋ว ผู้มีบิดาเป็นนักปฏิวัติร่วมกันมากับท่านประธานเหมา เจ๋อตง คงไม่ตกต่ำมากไปกว่านี้ และอาจรักษาเก้าอี้ในกรรมการกรมการเมืองของพรรคไว้ได้ จนถึงการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 ในฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงบุคคลระดับผู้นำแดนมังกรครั้งใหญ่ และให้ได้ลุ้นกันว่า ใครจะได้รับเลือกเข้าไปในคณะโปลิตบูโร ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 9 คน โดยผู้ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ได้แก่นายวัง หยาง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขามณฑลก่วงตง คู่แข่งสำคัญของนายปั๋ว และนายจาง เต๋อเจียง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งควบตำแหน่ง ที่นายปั๋วถูกปลด
นายปั๋ว ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขานครฉงชิ่งเมื่อปลายปี 2550 ถูกปลดจากตำแหน่ง เพราะเรื่องอื้อฉาวเมื่อเดือนที่แล้วกรณีนายหวัง ลี่จวิน อดีตเจ้ากรมตำรวจนครฉงชิ่ง พยายามขอลี้ภัยในสถานกงสุลสหรัฐฯ โดยนาย หวัง ซึ่งเคยเป็นคนสนิทของนายปั๋ว ได้รับการคัดเลือกมากับมือของนายปั๋วให้กวาดล้างขบวนการมาเฟียในเมืองชนิดลุยสร้างผลงานอย่างเดียวโดยไม่สนใจว่าการกวาดล้างจะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายหรือไม่ แต่ในที่สุดนายหวังก็ต้องหลบหนี เพราะกลัวถูกเก็บ เมื่อเรื่องทุจริตที่เขาและนายปั๋วเคยมีส่วนร่วมในอดีตเริ่มแดงขึ้นมา

การตกสวรรค์ของนายปั๋วยังเป็นการสิ้นสุด “ฉงชิ่งโมเดล” ซึ่งนายปั๋วพยายามปลุกอุดมการณ์แดงสมัยประธานเหมาให้กระหึ่มอีกครั้ง และส่งสัญญาณความเสื่อมถอยครั้งใหญ่ของฝ่ายหัวเก่าภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน

นายปั๋วถูกสั่งปลด หลังจากการประชุมประจำปีสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งดำเนินมานาน 10 วันเสร็จสิ้นลงได้เพียง 1 วัน โดยนายกรัฐมนตรี เวิน จยาเป่า กล่าวปิดการประชุม โดยสวดนายปั๋วอย่างรุนแรง แต่มิได้เอ่ยชื่อนายปั๋วตรง ๆ เพียงแต่กล่าวว่า คณะผู้บริหารเทศบาลนครฉงชิ่งต้องไตร่ตรองให้จงหนักและเรียนรู้บทเรียนจากกรณีของนายหวัง

การตำหนิอย่างรุนแรงจากปากบุคคลระดับนายกรัฐมนตรีต่อหน้าธารกำนัลเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมองกันว่า การสั่งปลดครั้งนี้เป็นมติเอกฉันท์จากเบื้องบนสูงสุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตกตะลึงที่อดีตเจ้ากรมตำรวจฉงชิ่งพยายามแปรพักตร์

อย่างไรก็ตาม นายจัง หมิง นักวิเคราะห์การเมืองแห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมินชี้ว่า แม้อาชีพการเมืองของนายปั๋วจบลงแล้ว แต่เขาไม่น่าจะมีชะตากรรมเหมือนอดีตกรรมการกรมการเมืองคนอื่น ๆ เช่นนายเฉิน เหลียงอี่ว์ อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขานครเซี่ยงไฮ้ และนายเฉิน ซีตง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขากรุงปักกิ่ง บุคคลทั้งสองถูกตัดสินจำคุกโทษฐานคอร์รัปชั่น และเชื่อกันว่าทั้งสองคือเหยื่อของการแย่งชิงอำนาจหลังฉากในการสืบทอดอำนาจผู้นำครั้งที่แล้ว และสำหรับกรณีของนายปั๋วแล้ว บางทีอาจมีการทำข้อตกลงใต้โต๊ะบางอย่างเกี่ยวกับอนาคตของนายปั๋วก็เป็นได้

แม้แต่นายหลี่ หยวนเฉา หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการบุคคลของพรรค และเป็นพันธมิตรสนิทที่สุดคนหนึ่งของประธานาธิบดีหู จิ่นเทาเองยอมรับว่า นายปั๋วสร้างผลงานไว้มากในการพัฒนาความเจริญของเทศบาลนครฉงชิ่ง ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2540

เว้นเสียแต่ว่า นายปั๋วจะพยายามตอบโต้กลับอย่างไม่ฉลาด อาชีพของเขาก็จะพังเหมือนอย่างนายหวัง เล่อกวน ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาซินเจียงเมื่อปี 2553 เนื่องจากดึงดันใช้วิธีการเข้มงวดรุนแรงจัดการกับภูมิภาค ซึ่งมีความไม่สงบแห่งนั้น ปัจจุบันนายหวังกินตำแหน่งในคณะกรรมการฝ่ายกิจการการเมืองและกฎหมายของพรรค และยังคงเป็นกรรมการกรมการเมืองอยู่ต่อไป แต่ก็เป็นตำแหน่งลอย ๆ ไร้อำนาจวาสนาใด ๆทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น