เอเยนซี - สำนักข่าวซินหวารายงาน (15 มี.ค.) พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีคำสั่งปลดนักการเมืองดาวรุ่ง นายปั๋ว ซีไหลจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งนครฉงชิ่ง และให้รองนายกรัฐมนตรีจัง เต๋อเจียงขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน ตลอดจนตำแหน่งคณะกรรมาธิการบริหารเทศบาลนครฉงชิ่งด้วย
นายหลี่ หยวนเฉา ประธานฝ่ายการจัดการแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนประกาศปลดปั๋ว ซีไหลในการประชุมเจ้าหน้าที่ในนครฉงชิ่ง เมื่อวันพฤหัส (15 มี.ค.) โดยนายหลี่เผยว่า คณะกรรมการกลางฯ ได้ตัดสินใจหลังจากพิจารณาอย่างสุขุมรอบคอบ และตั้งอยู่บนพื้นฐานของสถานการณ์ในปัจจุบัน
จากนั้นนายจัง เต๋อเจียงผู้เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสค์คนใหม่ของฉงชิ่งก็ได้กล่าวสุนทรพจน์ ในระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ฉงชิ่งด้วย ทั้งนี้นายจัง เกิดเมื่อเดือนพ.ย. พ.ศ.2489 เป็นชาวเทียนอัน มณฑลเหลียวหนิง เขาเข้าดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ เมื่อปี 2545 เริ่มดำรงตำแหน่งรองนายกฯ นับแต่ปี 2551 เป็นต้นมา
ปั๋ว ซีไหลเป็นนักการเมืองที่โดดเด่นและเป็นผู้มีแนวโน้มได้เข้าชิงตำแหน่งผู้นำระดับสูงของจีน แต่เขาต้องถูกไต่สวนอย่างหนัก หลังจากเกิดเหตุ เจ้ากรมตำรวจฉงชิ่งมือขวาของปั๋ว นายหวัง ลี่จวิน ซึ่งเป็นรองนายกเทศมนตรีนครฉงชิ่งด้วยนั้น หลบหนีไปลี้ภัยยังสถานกงสุลสหรัฐฯ ที่เฉิงตู เมื่อเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งเขาได้รับการเกลี้ยกล่อมและมอบตัวกับรัฐบาลกลาง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการไต่สวน
เหตุการณ์ดังกล่าวตลอดจนข่าวลือหนาหู ว่าหวัง ลี่จวินผิดใจกับปั๋ว ซีไหล และพยายามหลบหนี ทำให้ปั๋วมีจุดด่างพร้อยไม่สามารถปีนขึ้นสู่ความฝันในการเป็นผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ได้
นอกจากนี้พรรคคอมมิวนิสต์ยังได้สั่งปลดนายหวัง ลี่จวิน จากรองนายกเทศมนตรีนครฉงชิ่ง และได้โยกย้ายนายเหอ ถิง รองผู้ว่ามณฑลชิงไห่ และผู้บัญชาการหน่วยพิทักษ์สันติราษฎร์ มาเป็นรองนายกเทศมนตรีฉงชิ่งแทน
นาย เหอ ถิง วัย 50 ปี เคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมของหน่วยพิทักษ์สันติราษฎร์และดำรงตำแหน่งอธิบดีฯลฯ จนในปี 2009 ได้มากินตำแหน่งรองผู้ว่ามณฑลชิงไห่ ผู้บัญชาการหน่วยพิทักษ์สันติราษฎร์ และเลขาธิการพรรคฯ
การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 18 นี้ จะเห็นการเปลี่ยนถ่ายอำนาจผู้นำใหญ่สุดของจีนในรอบ 10 ปี ซึ่งได้ถูกสั่นคลอนด้วยเหตุการณ์อื้อฉาวของปั๋ว ซีไหลและหวัง ลี่จวินไปเสียแล้ว
นายเฉิน จื้อหมิง นักวิชาการอิสระแห่งกรุงปักกิ่งผู้ติดตามการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ เผยว่า การปลดปั๋ว ซีไหลออกจากตำแหน่งแบบเฉียบพลันเช่นนี้ ก็พออนุมานได้ว่า “แม้ว่าปั๋วจะยังคงมีตำแหน่งคณะกรรมการกรมการเมือง หรือโปลิตบูโรอยู่ ไปจนกระทั่งการเปลี่ยนถ่ายอำนาจผู้นำในปลายปีนี้ก็ตาม แต่โอกาสที่เขาจะได้เลื่อนตำแหน่งมันจบสิ้นลงแล้ว”
“ตอนนี้ก็พอจะเดาออกที่นายกเวิน จยาเป่าแถลงวานนี้ (14 มี.ค.) เกี่ยวกับภาพรวมของความเป็นผู้นำจีนว่า ปั๋วจำเป็นต้องไป” เฉินกล่าว “เพราะการที่ปั๋วอยู่ ย่อมกระทบต่อภาพลักษณ์การเมืองและผู้นำสำหรับการประชุมพรรคฯ ครั้งที่ 18 การช่วงชิงต่อสู้ขึ้นสู่อำนาจนั้นมีความไม่แน่นอนสูง”
นายกเวินยังกล่าวเสริมด้วยว่า เมฆหมอกรอบตัวปั๋ว ซีไหล ในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลฉงชิ่งแปดเปื้อนไปด้วยเรื่องอื้อฉาว และนับว่าเป็นครั้งแรกที่สาธารณชนตั้งคำถามแบบนี้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีตำแหน่งเป็นถึงโปลิตบูโร
แหล่งข่าว 3 แหล่งที่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลฉงชิ่ง เผยว่า มีการประกาศว่าจะปลดปั๋วออกจากตำแหน่งในการประชุมในฉงชิ่งด้วย
“ความจริงที่ซินหวาประกาศนั้นไม่ได้ทำให้ปั๋วรู้สึกเคร่งเครียด เพราะปั๋วก็ยังพอมีโอกาสจะย้ายไปนั่งในตำแหน่งอื่น หรือไม่ก็อาจจะถูกนำไปสอบสวน ขณะนี้อนาคตของปั๋วยังไม่มีความแน่นอนใด ๆ จนกว่าจะสิ้นสุดการไต่สวนคดีให้กระจ่าง” แหล่งข่าวแหล่งหนึ่งซึ่งนักข่าวติดต่อใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเผย
จุดน่าสนใจประการหนึ่งระหว่างที่ปั๋วแถลงข่าวด้านข้างการประชุมสภาผู้แทนฯ เกี่ยวกับฉงชิ่ง สื่อต่างชาติพากันรุมถามปั๋วกันยกใหญ่ ทำให้เห็นว่า ปั๋วได้กวนคลื่นความไม่มั่นคงให้แก่การถ่ายโอนอำนาจผู้นำของจีนในปลายปีนี้เสียแล้ว
รัฐบาลมหานครฉงชิ่งเผยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า นายหวัง ลี่จวินลาพักงานเพื่อการเยียวยาอาการเครียด หลังจากที่หวังหลบหนีไปขอลี้ภัยในสถานกงสุลสหรัฐฯ ในนครเฉิงตู
นายหวังเป็นเครื่องมือสำคัญของปั๋วในการกวาดล้างอันธพาลและมาเฟียในนครฉงชิ่ง นอกจากนั้นปั๋วพยายามผลักดันสร้างวัฒนธรรมแบบสังคมนิยมให้แก่ฉงชิ่ง โดยอิงกับนโยบายของผู้นำเหมา เจ๋อตง ในการสร้าง “โมเดลฉงชิ่ง” ตลอดจนปรับการเติบโตทางเศรษฐกิจให้มีการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม
ขณะนี้สำนักข่าวซินหวายังไม่ได้แถลงว่า ปั๋วพ้นตำแหน่งโปลิตบูโรด้วยหรือไม่ ต้องรอให้คณะกรรมการโปลิตบูโรเป็นผู้ตัดสิน