เอเยนซี - รัฐบาลท้องถิ่นจีนเผย (8 ก.พ.) หวัง ลี่จวิน รองนายกเทศมนตรีมหานครฉงชิ่ง และสหายของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ฉงชิ่งปั๋ว ซีไหล ได้หลบหนีไปยังเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ท่ามกลางข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองอันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของปั๋ว ซีไหลด้วย อย่างไรก็ตามรัฐบาลจีนเผยสาเหตุว่า หวังทำงานหนักจนเครียด และขณะนี้ยอมพักผ่อนเพื่อรักษาอาการแล้ว
ปั๋วซวิ่นด็อทคอม รายงานข่าวลือแพร่สะพัดในอินเทอร์เน็ตจีน ว่า หวัง ลี่จวิน ได้เดินทางไปยังสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเฉิงตู เพื่อขอลี้ภัยการเมือง ปั๋วซวิ่นอ้างแหล่งข่าวที่รู้เรื่องดีระบุว่า ในวันที่ 6 ก.พ. หวัง ลี่จวิน ได้ไปเป็นประธานกิจกรรมที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง จากนั้น เขาได้ปลอมตัวแล้วหลบหนีไปในคืนวันนั้นเอง เขาได้ไปยังสถานกงสุลสหรัฐฯในเฉิงตูเพื่อขอลี้ภัยการเมือง
หลังจากที่ปั๋ว ซีไหล ทราบเรื่องก็พาผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจฉงชิ่ง หวง ฉีฟาน พร้อมกำลังตำรวจ 70 คันรถ แจ้นไปที่กงสุล ปิดล้อมสถานกงสุล 24 ชั่วโมง
“หวัง ลี่จวินอยู่ในสถานกงสุล 24 ชั่วโมง พูดคุยกับเจ้าหน้าที่อเมริกัน แฉเบื้องหลังของปั๋ว ซีไหล และความลับของชาติ ผบ.หวง ฉีฟาน ต้องการนำตัวหวัง ลี่จวิน กลับไปยังฉงชิ่ง ได้ทะเลาะกับผู้นำหน่วยพิทักษ์สันติราษฎร์แห่งรัฐ จนรัฐบาลกลางเข้ามาไกล่เกลี่ย ในที่สุดหน่วยพิทักษ์สันติราษฎร์ก็นำตัวหวัง ลี่จวินกลับไป” ปั๋วซวิ่นระบุ
ในที่เกิดเหตุ หวัง ลี่จวินได้ตระโกนว่า “ผมเป็นแพะรับบาปของปั๋ว ซีไหล ไม่ผมก็เขาที่จะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ข้อมูลต่างๆ ถูกส่งไปยังต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว”
หวัง ลี่จวินกลายเป็นหัวหอกที่มีชื่อเสียงของฉงชิ่งในการกำราบเหล่าเจ้าพ่อ และพวกอันธพาลในนคร ปั๋ว ซีไหลจึงตั้งเป็นเขามือขวา อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาถูกสั่งย้ายตำแหน่งวุ่นวายไปหมด ท่ามกลางความประหลาดใจของชาวเน็ตจีน หวัง วัย 53 ได้ถูกถอดตำแหน่งจากกรมพิทักษ์สันติราษฎร์ และจะส่งให้ไปกินตำแหน่งในกระทรวงเศรษฐกิจแทน แต่หลังจากนั้นก็มีประกาศใหม่ให้หวังไปดำรงตำแหน่งงานด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษาและเทคโนโลยี และกระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อม พัลวันไปหมด
สำนักประชาสัมพันธ์แห่งมหานครฉงชิ่งระบุว่า “ตามข้อมูลที่ได้รับ เนื่องจากรองนายกเทศมนตรีหวัง ลี่จวิน ทำงานนานและหนักเกินไป จนเกิดภาวะเครียดสูง และสุขภาพย่ำแย่ และขณะนี้เขายอมรับการรักษาโดยการลางานพักผ่อนแล้ว”
ในคืนวันอังคาร (7 ก.พ.) มีการส่งต่อภาพบริเวณหน้ากงสุลสหรัฐฯในเฉิงตูที่เต็มไปด้วยรถตำรวจ เข้ามาปิดล้อมถนนรอบสถานกงสุลในตอนกลางดึก แต่ก็ไม่มีใครตอบยืนยันเรื่องราวภาพถ่าย
เฉิน จื้อหมิง นักวิชาการอิสระผู้ศึกษาการเมืองในระบบพรรคการเมือง ระบุ “เรื่องนี้จัดว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับปั๋ว ซีไหล เพราะว่าหวังเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการต่อต้านกลุ่มอาชญากรรม ดังนั้นหวังจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยผลักให้ปั๋ว เป็นที่ยอมรับในสังคมและในบรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย”
“ขณะนี้ฮีโรที่ใช้ในการรณรงค์ปราบเหล่าร้ายกลายมาเป็นมีเรื่องฉาวเสียเอง ทำให้อย่างน้อยก็กระทบต่อเกียรติภูมิของปั๋วในสายตามหาชน” ชายแซ่เฉิน อดีตนักโทษทางการเมืองผู้อาศัยในกรุงปักกิ่งเผย
การหลบหนีดังกล่าวทำให้เกิดข่าวลือในบล็อกเกอร์ว่า หวังเกรงจะถูกสอบสวนจากรัฐบาลกรณีคอร์รัปชั่น จึงหลบหนี
สถานกงสุลใจเฉิงตู ส่งต่อคำถามไปยังสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงปักกิ่ง ซึ่งโฆษก Richard Buangan ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เขาไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการขอลี้ภัยนี้ได้”
“ผมบอกได้แต่เพียงว่า ที่สถานกงสุลเฉิงตูไม่มีการคุกคามใด ๆ และรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ไม่ได้สั่งคุมเข้มความปลอดภัยแต่อย่างใด”
อย่างไรก็ตาม หวังหลบหนีเพราะเหตุใดยังไม่อาจยืนยันได้
ชมชุดภาพ(ด้านซ้าย) มาดมือปราบเหล็ก หวัง ลี่จวิน ผู้เป็นอดีตมือขวาของผู้นำดาวรุ่งบนเวทีการเมืองจีน นาย ปั๋ว ซีไหล (ภาพ เฟิ่งหวงเน็ต)