ยัน หวัง ลี่จวินไปกงสุลมะกันฯ จริง กระพือพายุการเมืองให้ปั๋ว ซีไหล

รอยเตอร์ - ปั๋ว ซีไหล ผู้นำทะเยอทะยานสูงแห่งมหานครฉงชิ่ง กำลังอยู่ในห้วงพายุทางการเมือง (8 ก.พ.) หลังจากรองนายกเทศมนตรีและมือขวาของเขาเอง “นายหวัง ลี่จวิน” พยายามหลบหนีไปยังสถานกงสุลมะกันในเฉิงตู กระพือข่าวลือว่าในระหว่างนั้นมีการต่อสู้ฉุดกระชากกันเกิดขึ้น และหวังพยายามจะขอความคุ้มครองจากสถานทูตสหรัฐฯ ด้วย

หน่วยการปกครองในท้องถิ่นเผยว่า รองนายกเทศมนตรีหวัง ลี่จวินมีอาการเครียดเกินไปจากการทำงานเป็นเวลานาน จึงหลบหนีไปหลังจากที่เขาช่วยงานปั๋วมาหลายปี ทำให้เกิดการกระพือข่าวลือว่า หวังมีปัญหาในการตรวจสอบกรณีการคอร์รัปชั่น จนต้องพยายามหนีไปหลบภัยในสถานกงสุลมะกันในเฉิงตู ซึ่งหากขับรถจากฉงชิ่งก็ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง

“การไต่สวนเกี่ยวหวัง ลี่จวินว่าต้องการหนีไปให้มะกันคุ้มครองนั้น ขณะนี้ยังไม่รับรองได้ว่าจริงเท็จเพียงใด” โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน นายหลิว เว่ยหมินให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า “เขาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้”

สหรัฐฯยัน หวังไปกงสุลฯ ในเฉิงตูจริง แต่ไม่ได้ขอลี้ภัย

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า หวังได้เดินทางไปยังสถานกงสุลในเฉิงตู มณฑลเสฉวนจริงในช่วงต้นสัปดาห์ ที่ผ่านมา

นางสาววิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า “การพบปะนั้นมีกำหนดการไว้แล้ว ซึ่งเป็นการพบปะแบบธรรมดา หวังได้เดินทางมายังสถานกงสุลและหลังจากนั้นเขาก็ออกจากสถานกงสุลไปเอง”

“หวังเดินออกไปเอง เขาเลือกที่จะทำเช่นนั้นเอง” นูแลนด์ย้ำ พร้อมเสริมว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็ไม่ได้ติดต่อกับหวังอีกเลยหลังจากนั้น

นูแลนด์เผยว่าเธอไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสาระในการพบปะกับหวัง (หรือต่อให้มี) นโยบายของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ นั้นไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานะผู้ลี้ลัยหรือผู้ขอลี้ลัยต่อสาธารณะอยู่แล้ว

แม้ว่าข่าวลือเรื่องการพยายามขอลี้ภัยนี้เป็นเรื่องไม่จริง แต่ความพยายามหลบหนีโดยใคร่ครวญของหวังในครั้งนี้ก็ส่งผลกระทบต่อปั๋ว ซีไหลอย่างจัง ปั๋วเองเป็นจุดเด่นในบรรดาตัวเก็งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ที่จะได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในระดับสูงในช่วงปลายปี 2555 นี้ ผู้นำที่หน้าตาเฉยเมยเยี่ยงปั๋วนั้นดูเหมือนว่าจะต้องการเก็บเรื่องอื้อฉาวให้เงียบกริบ พับใส่ห้องปิดประตูลงกลอนอย่าให้ใครรู้ได้

จีนย้ำ กรณีหวัง ไม่กระทบการเยือนสหรัฐฯ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน นายชุย เทียนไข่ เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้จะไม่กระทบต่อแผนการเยือนสหรัฐฯ ของรองประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยชี้ว่า เป็นประเด็นที่ต้องแยกแยะออกจากกัน

รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะเยือนสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า ซึ่งนั้นก็เป็นการตอกย้ำด้วยว่า สีจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากหู จิ่นเทาในปลายปีนี้เช่นกัน

ทำเนียบขาวเผยว่า รองประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และสี พูดคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อวันอังคาร (7 ก.พ.) เพื่อคุยเรื่องกำหนดการเดินทาง

เฉิน จื้อหมิง นักวิชาการอิสระผู้ศึกษาการเมืองในระบบพรรคการเมือง ระบุ “การหลบหนีของหวังจัดว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับปั๋ว ซีไหล เพราะว่าหวังเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการต่อต้านกลุ่มอาชญากรรม ดังนั้นหวังจึงเป็นเครื่องมือที่
ช่วยผลักให้ปั๋ว เป็นที่ยอมรับในสังคมและแวดวงเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย”

“ขณะนี้ฮีโรที่ใช้ในการรณรงค์ปราบเหล่าร้ายกลับมามีเรื่องฉาวเสียเอง ทำให้อย่างน้อยก็ต้องกระทบต่อเกียรติภูมิของปั๋วในสายตามหาชน” เฉิน อดีตนักโทษทางการเมืองผู้อาศัยในกรุงปักกิ่ง เผย

หวังกลายเป็นอาวุธทางกฎหมายที่อยู่ในกฎระเบียบของปั๋ว ซีไหล นักการเมืองโดดเด่นผู้อยากจะใช้วัฒนธรรมสังคมนิยมสมัยเหมา เจ๋อตงมาเปลี่ยนฉงชิ่ง ให้มีคววามเท่าเทียมในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

หวัง ลี่จวิน กับ “โรคเครียด”

หวัง ลี่จวิน วัย 52 ปี ถูกสั่งย้ายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไปประจำยังตำแหน่งอื่น อาทิ ด้านดูแลความมั่นคงสาธารณะ การศึกษา พิทักษ์สิ่งแวดล้อมและอื่น ๆ อีกสารพัด

ข้อมูลของกรมประชาสัมพันธ์ฉงชิ่งเผยทางไมโครบล็อกว่า “เป็นที่เข้าใจได้ว่าท่านรองนายกเทศมนตรีหวัง ลี่จวินทุกข์ใจกับงานที่มากเกินไปจนมีอาการตึงเครียดทางประสาทเป็นเวลานาน ทำให้ส่งผลให้ร่างกายป่วยตามไปด้วย และขณะนี้เขากำลังอยู่ในช่วงการลาพักฟื้น”

ขณะที่ชาวเน็ตจีนหลายคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับแถลงของกรมประชาสัมพันธ์ว่า หวังน่าจะมีปัญหาเรื่องถูกสอบสวนกรณีคอร์รัปชั่น หรือเรื่องความรู้สึกที่มีต่อปั๋ว ซีไหลเปลี่ยนไปมากกว่า บางข้อสงสัยระบุว่า หวังพยายามให้ได้รับการคุ้มครองจากสถานกงสุลสหรัฐฯในเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทำให้ตำรวจต้องแจ้นไปปิดล้อมกงสุลเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา บ้างก็ว่า หวังนำความลับของชาติไปเผยให้กงสุลมะกันฟัง ฯลฯ

นายหลิว เว่ยหมิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนชี้ว่า เขาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยรอบสถานกงสุลฯ

สถานกงสุลใจเฉิงตูได้ส่งต่อคำถามไปยังสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง ซึ่งโฆษก Richard Buangan ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เขาไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการขอลี้ภัยนี้ได้”

“ผมบอกได้แต่เพียงว่า ที่สถานกงสุลเฉิงตูไม่มีการคุกคามใด ๆ และรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ไม่ได้สั่งคุมเข้มความปลอดภัยเพิ่มเติมแต่อย่างใด”

ในช่วงสายวันพุธที่ผ่านมา บริเวณถนนรอบสถานกงสุลฯ เงียบเชียบและดูเหมือนการรักษาความปลอดภัยน้อยกว่าปกติ

สำหรับในเวทีแสดงความเห็นไมโครบล็อกเวยปั๋วของจีน การค้นคำ “หวัง ลี่จวิน” และ “สถานกงสุลเฉิงตู” ยังสามารถใช้ได้ ซึ่งโดยปกติแล้วหากเกิดเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้ รัฐบาลจีนจะต้องรีบปิดประเด็นทันที อย่างน้อยก็บล็อกคำค้น เนื่องจากหวั่นว่าจะเป็นความอ่อนไหวทางการเมือง

คำค้นเดียวที่ใช้ไม่ได้คือ “ปั๋ว ซีไหล” นอกนั้นชื่อผู้นำระดับสูงคนอื่น ๆ ยังค้นได้ตามปกติ

ปั๋ว ซีไหล นักการเมืองดาวรุ่งบนเวทีการเมืองจีนวัย 62 ปี เป็นที่รับรู้กันว่าเขากระเหี้ยนกระหือรือที่จะต่อแถวขึ้นสู่อำนาจในพรรคคอมมิวนิสต์จีนเต็มแก่ในปลายปีนี้ และในสภาของฝ่ายบริหารในปีหน้า