ถามกันอื้อ หวัง ลี่จวินทำอะไรที่กงสุลมะกัน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ -- รองนายกเทศมนตรีฉงชิ่ง นายหวัง ลี่จวินได้เข้าไปในสถานกงสุลมะกันที่เฉิงตูเมื่อวันจันทร์-อังคารที่แล้วนั้น ไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาพูดอะไรไปบ้าง

นี่เป็นหนึ่งในบรรดาหลายคำถามที่ผุดพรายขึ้นมา หลังจากที่รัฐบาลปักกิ่งยืนยันว่า หวัง ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นมือขวาของปั๋ว ซีไหล ผู้นำพรรคแห่งฉงชิ่งคนนี้ เข้าไปในสถานกงสุลมะกันเป็นวัน ๆ ขณะนี้คนตั้งคำถามกันเนืองแน่นว่า หวังมีแรงจูงใจอะไรจึงทำเช่นนั้น ตลอดจนคำถามเรื่องการออกจากสถานกงสุลของเขาด้วย

แถลงการณ์ภาษาอังกฤษของโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเผย (9 ก.พ.) ชี้ว่า หวังออกจากสถานกงสุลหลังจากที่ใช้เวลาอยู่ในนั้นประมาณ 1 วันเต็ม ๆ ขณะที่ฉบับภาษาจีนเผยว่า หวังออกจากที่นั่นหลังจากติดอยู่ในกงสุลเป็นเวลา 1 วัน

จอห์นนี หลัว นักวิจารณ์ทางการเมืองเผยว่า "ฉบับภาษาอังกฤษก็เพื่อให้ชาวต่างชาติอ่าน ส่วนภาษาจีนก็ให้คนจีนอ่าน รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่พยายามเน้นย้ำว่า หวังถูกบีบให้อยู่ในสถานกงสุล ไม่ใช่ความปรารถนาของเขาเอง"

กระทรวงต่างประเทศมะกันยืนยันวันพฤหัสว่า หวังได้เยือนสถานกงสุลและหลังจากนั้นก็ออกจากกงสุลไปเองไม่มีใครบังคับ และยังบอกด้วยว่า หวังเป็นคนเรียกร้องให้มีการพบปะโดยใช้อำนาจในฐานะรองนายกเทศมนตรีของเขาเองด้วย

ฝ่ายรัฐบาลจีนและสหรัฐฯก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเยือนกงสุลของหวัง

"ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเข้ามาในกงสุลของหวัง" โฆษกหญิงแห่งสถานกงสุลมะกันที่เฉิงตูเผย

อู๋ ซื่อ นักเขียนหนังสือ "กฎซ่อนเร้น" (Hidden Rules) อันมีเนื้อหาเกี่ยวกับเกมการเมืองที่มีเจ้าหน้าที่จีนเป็นตัวแสดง เผยว่า "หากว่าใครบางคนรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอันตราย เขาก็จะต้องปกป้องตัวเอง หลังจากที่พบว่าคนในประเทศไม่สามารถไว้ใจที่จะเล่าความลับให้ฟังได้ เขาก็ต้องหาคนต่างชาติที่มีอำนาจเพื่อบอกเล่าให้ฟัง"

จัง ลี่ฟาน นักประวัติศาสตร์ เผยว่า "มันไม่สำคัญหรอกว่าหวังจะไปเผยความลับสุดยอดหรือข้อมูลอะไรให้กงสุลมะกัน มันสำคัญอยู่ที่ว่า เขาเดินเข้าไปในรั้วกงสุลและออกมา สิ่งที่เขาทำนั้นส่งสัญญาณให้ฝ่ายศัตรูของเขารู้ว่า สิ่งที่หวังกำลังทำทำให้เขาปลอดภัย"

นักวิเคราะห์เผยว่า การที่สหรัฐฯส่งหวังคืนให้กับรัฐบาลจีนถือว่าเป็นผลประโยชน์สูงสุดของสหรัฐฯด้วย

จัง เผยว่า การที่หวังยังคงอยู่ในตำแหน่งเหมือนกับการจุดระเบิดเวลาในวงจรทางการเมืองจีน

หลัวเผยว่า คนหนึ่งคนก็สามารถเล่าเรื่องอัดอั้นมากมายได้ใน 1 วัน "สหรัฐฯก็คงไม่อยากเสียสัมพันธ์ดีกับจีน เพราะก็ได้ข้อมูลที่สำคัญที่ต้องการมากสุดไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงก่อนที่รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะเยือนสหรัฐในสัปดาห์หน้า"

จังย้ำว่า สหรัฐฯก็คงไม่สนใจมดตัวเล็กตัวน้อยอย่างหวัง ก็เหมือนรองเท้าเก่าไร้ค่าดี ๆที่โยนทิ้งไปก็ได้

จังเผยว่า ก่อนที่จะย้ายมาฉงชิ่ง หวังไร้ตัวตนในระบบราชการมาก "เขามาจากสถานที่เล็ก ๆ และทำงานตรากตรำมาก่อน แต่เขาไม่มีพื้นฐานทางการเมืองหรือมีประสบการณ์การเมืองมาก่อนเลย หวังฉลาด แต่ไม่เฉลียวด้านการเมืองแม้แต่น้อย"

หวังเข้าทำงานในโณงพักเล็ก ๆ ของเมืองแห่งหนึ่งในมณฑลเหลียวหนิงกว่า 20 ปี ก่อนปั๋ว ซีไหลจะย้ายเขามาเป็นเจ้ากรมตำรวจฉงชิ่ง

"หวังนั้นมีนายผิด ผิดเวลา ผิดสถานที่" จังย้ำ "หากว่าหวังอยู่ในเหลียวหนิง ก็คงเกษียณอย่างสงบ แต่นี่เขาเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ทำให้ไม่สามารถคุมชะตาชีวิตตัวเองได้อีกต่อไป"

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เผยว่า หวังบินไปปักกิ่งภายใต้การคุมตัวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์จำนวน 8 คนเมื่อวันพุธ