เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งมหานครฉงชิ่ง นายปั๋ว ซีไหล ได้ยกประเด็น “โมเดลฉงชิ่ง” หรือแบบการพัฒนามหานครฉงชิ่งขึ้นมาพูดคุยในกลุ่มอภิปรายระหว่างการประชุมประจำปีสภาผู้แทนประชาชนจีนในวันจันทร์ (5 มี.ค.) ก่อนหน้านี้ปั๋วถูกพายุทางการเมืองซัดสาด กรณีที่เจ้ากรมตำรวจมือขวาของเขาหนีไปลี้ภัยสถานกงสุลมะกัน แฉความลับของปั๋ว
การประชุมใหญ่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับการจัดประชุมระดับมหานคร 2 ครั้งก่อนหน้า ซึ่งปั๋วไม่ได้ยกฉงชิ่งขึ้นมาอ้างอะไร เพียงแต่กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลปักกิ่งเท่านั้น แต่ทว่าการประชุมใหญ่ฯ ครั้งนี้ปั๋วสาธายายความสำเร็จทางเศรษฐกิจของฉงชิ่งนับแต่ปี 2550 ที่เขาขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำฯ
ในประเด็นตัวเลขทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นของมหานครฉงชิ่งนับแต่ปี 2550-2554 ปั๋วกล่าวว่า “ฉงชิ่งมีแนวโน้มการกระจายความมั่งคั่งที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ มีประสิทธิภาพและเติบโตอย่างรวดเร็วไปพร้อม ๆ กัน และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเส้นทางที่ฉงชิ่งได้ก้าวเดินมาในช่วงหลายปีนี้”
ปั๋วเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของฉงชิ่ง อาทิ รายได้ของชาวนาฯ ได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วง 5 ปี ขณะที่การลงทุนจากต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นกว่าเดิมเกือบ 10 เท่า ส่วนการออกไปลงทุนต่างประเทศนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่า
ปั๋วเผยว่า ตัวเลขเหล่านี้ก็สะท้อนให้เห็นความมั่งคั่งโดยรวมที่ฉงชิ่งได้รับ “ขณะที่พวกเรากระตุ้นให้เกิดการแข่งขันเพื่อลดช่องว่างทางรายได้ให้กับประชาชนแล้ว พวกเราก็ยังเพิ่มความสำคัญในเรื่องความเท่าเทียมทางสังคมและใส่ใจกับกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยด้วย” ปั๋วย้ำ
ปั๋วชี้ว่าประเด็นใหญ่ก็คือการปฏิรูปนโยบายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่จีนปฏิรูปและเปิดประเทศประมาณ 30 ปีเป็นต้นมา จำต้องเดินหน้าปฏิรูปต่อไป
การแถลงของปั๋ว (6 มี.ค.) นั้นก็คล้าย ๆ กับที่หวง ฉีฟาน นายกเทศมนตรีฉงชิ่งให้สัมภาษณ์กับซีซีทีวีของจีน ความว่า เมื่อปีที่ผ่านมา ฉงชิ่งติดอันดับแรกในการจัดลำดับเศรษฐกิจ 18 ประเภท รวมทั้งตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มากถึง 16.4 เปอร์เซ็นต์
หวงชี้ว่า ฉงชิ่งมีความสุขในการก้าวเดิน 3 ประการ อย่างแรกบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนเพิ่มจำนวนขึ้นถึง 23 เปอร์เซ็นต์ ประการต่อมาคือ การเพิ่มการนำเข้าและส่งออกมากขึ้นถึง 2 เท่า และประการสุดท้ายคือ ค่าสัมประสิทธิ์จีนี (Gini coefficient) ที่ลดลง ซึ่งบ่งชี้ความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้ของฉงชิ่งมีแนวโน้มดีขึ้นมาก
ค่าสัมประสิทธิ์จีนีของฉงชิ่งลดลงจาก 0.438 ในปี 2553 เหลือ 0.42 เมื่อปีที่ผ่านมา หวงเผยว่าค่าที่ลดลงนี้หมายความว่า หากฉงชิ่งเดินหน้าต่อไปก็จะช่วยทำให้ลดช่องว่างทางเศรษฐกิจของคนในสังคมได้อย่างรวดเร็ว กอปรกับทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
ขณะนี้ปั๋วได้พิสูจน์ให้เห็นความภักดีในการเดินตามนโยบายของรัฐบาลกลาง ในขณะที่นักสังเกตการณ์ทางการเมืองหลายคนมองว่า คดีของหวัง ลี่จวิน มือขวาของปั๋วที่ถูกกักตัวอยู่ในขณะนี้ หลังจากเขาหลบหนีไปสถานกงสุลมะกันที่เฉิงตู กรณีปัญหาการไต่สวนคดีคอร์รัปชั่น และแฉเรื่องอื้อฉาวของปั๋วเมื่อวันที่ 6 ก.พ. อาจจะทำให้อนาคตของปั๋วไม่อาจขึ้นมากุมบังเหียนประเทศในตำแหน่งคณะกรรมการประจำกรมการเมืองได้
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ปั๋วได้จัดการประชุมพรรคฯในระดับมหานครโดยเน้นไปที่ประเด็นการพัฒนาวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า อันเป็นนโยบายของหู จิ่นเทา สองสัปดาห์ต่อมาปั๋วได้จัดประชุมอีก แต่เน้นไปที่ยุทธศาสตร์การพัฒนาฉงชิ่งที่หูเคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2550
การประชุม 2 ครั้งดังกล่าวเป็นที่จับตาของสื่อท้องถิ่น ทั้งนี้ปั๋วไม่ได้พูดถึงผลงานการกวาดล้างมาเฟีย หรือการฟื้นฟูวัฒนธรรมแดง การร้องเพลงชาตินิยมฯ อันเป็น “โมเดลฉงชิ่ง” ที่ปั๋วสร้างมากับมือและประสบความสำเร็จ
ศาสตราจารย์จัง หมิง นักวิเคราะห์การเมืองจีนประจำมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ในกรุงปักกิ่งเผยว่า ขณะนี้ปั๋วมีความมั่นใจว่า รัฐบาลกลางจะไม่ลงโทษเขา เพราะผู้นำในรัฐบาลกลางดูเหมือนว่าไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ประเด็นอื้อฉาวของหวัง ลี่จวินเลย
“อย่างไรเสีย ปั๋วยังมีผู้สนับสนุนอยู่” จังกล่าวทิ้งท้าย.