เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - หวัง ลี่จวิน รองนายกเทศมนตรีมหานครฉงชิ่ง และสหายของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ฉงชิ่งปั๋ว ซีไหล ถูกโยกย้ายตำแหน่งงานจากเจ้ากรมตำรวจไปทำงานตำแหน่งอื่น ตั้งแต่ด้านการศึกษา ไปยันสิ่งแวดล้อม พัลวันไปหมด
คำสั่งย้ายนี้ได้จุดประกายคำถามเกี่ยวกับอนาคตของท่านมือปราบเหล็ก ตลอดจนอนาคตของปั๋วซีไหลด้วย
สำนักงานข้อมูลข่าวสารรัฐบาลมหานาครฉงชิ่ง เผยทางไมโครบล็อกเมื่อเวลา 13.30 น. (2 ก.พ.) ว่า คณะกรรมการพรรคฯ แห่งฉงชิ่งได้ถอดตำแหน่งของหวัง ลี่จวิน วัย 53 ปีจากกรมพิทักษ์สันติราษฎร์ และจะส่งให้ไปกินตำแหน่งในกระทรวงเศรษฐกิจแทน
แต่ต่อมาไม่กี่ชั่วโมง ก็เผยใหม่ว่า หวังจะเข้าดำรงตำแหน่งในกระทรวงศึกษา กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การจัดการอุตสาหกรรมและพาณิชย์ กีฬาฯ กรมการตรวจสอบความปลอดภัยและคุณภาพสินค้า วุ่นวายไปหมด
เวิน เทียนผิง รองหัวหน้าสำนักข้อมูลข่าวสารฯ ให้สัมภาษณ์กับเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า หวังมีแนวโน้มเข้าไปดำรงตำแหน่งงานด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษาและเทคโนโลยี และกระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมเสริมว่า “คุณจะมาบอกว่าหวังทำงานด้านเศรษฐกิจไม่เป็นไม่ได้ เพราะว่าเขามีส่วนรับผิดชอบงานด้านการจัดการอุตสาหกรรมและพาณิชย์อยู่แล้ว”
จากข้อมูลข่าวของพีเพิลเดลี หวังเริ่มต้นอาชีพสายบังคับใช้กฎหมายในปี 2527 หลังจากเข้าทำงานในกรมป่าไม้ การทหาร และกรมการพาณิชย์ของประเทศมาแล้ว
ข่าวการโยกย้ายนี้กลายมาเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ มีผู้คนให้ความสนใจและแสดงความคิดเห็นกว่า 100,000 ข้อความ ทางไมโครบล็อกซิน่า เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในกรุงปักกิ่งเผยว่า คณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ถูกส่งไปตรวจสอบเรื่องนี้ที่ฉงชิ่งแล้ว
หลายคนชี้ว่า ตำแหน่งใหม่ของหวังจะทำให้เขาได้ฝึกฝนจนมีประสบการณ์อันเป็นประโยชน์ในอนาคตของเขาเอง
ศาสตราจารย์เจิ้ง อี่ว์ซั่ว ด้านรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยซิตี้ของฮ่องกงเผยว่า “ครั้งนี้อาจจะเป็นแผนการสั่งย้ายของปั๋วเอง เพราะช่วงนี้มีการรณรงค์พุ่งเป้าโจมตีมายังหวัง เกี่ยวกับเรื่องการทำงาน”
แหล่งข่าวจากตำรวจฉงชิ่งแห่งหนึ่งเผยว่า เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งตำหนิรูปแบบการจัดการของหวัง
ในฐานะมือขวาของปั๋ว หวังมีชื่อเสียงในระดับชาติที่โค่นล้มอำนาจอดีตมาเฟียและผบ.ตำรวจ เหวิน เฉียง ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในความผิดหลายกระทง ตั้งแต่ รับสินบน ปกป้องการกระทำผิดกฎหมาย ให้การคุ้มครองเครือข่ายอาชญากรรมหรือโลกมืด ครอบครองทรัพย์สินมหาศาลโดยไม่รู้ที่มาที่ชัดเจน ข่มขืน ฯ
หวังถูกปั๋วดึงตัวขึ้นมานั่งตำแหน่งในปี 2551 เนื่องจากมีผลงานด้านการปราบปรามโลกมาเฟียในฉงชิ่ง
สำหรับหวังแล้ว เขามีความอดทนเป็นศูนย์ เขาจัดการปัญหาอาชญากรรมด้วยวิธีที่ได้ผลแบบพุ่งเข้าใส่ เขาได้รับเกียรติให้เป็นฮีโร่ในการต่อสู้กับโลกมืด
แต่นักวิจารณ์บางคนก็กล่าวว่า หวังและปั๋วใช้อำนาจทางกฎหมายของตนปูทางไปสู่ประเด็นซ่อนเร้นทางการเมือง เช่นเดียวกับที่พวกเขาเคยใช้อำนาจทรมานข่มขู่นักโทษให้สารภาพผิด จนสามารถถล่มแก๊งต่าง ๆ ได้จำนวนมาก
ปั๋ว ซีไหล เป็นคู่แข่งคนสำคัญในการชิงเก้าอี้ผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ อันได้แก่ตำแหน่งคณะกรรมการประจำกรมการเมืองของพรรคฯ ในช่วงที่จะมีการถ่ายเปลี่ยนอำนาจผู้นำในปีนี้