หนุ่มลมกรดจีน "หลิว เสียง" เจ็บ โชว์สปิริตเขย่งเข้าเส้นชัย ปิดฉากฮีโร่ อลป.

เอเยนซี - หลิว เสียง ลมกรดหนุ่มความหวังของจีน ไปไม่ถึงฝันในลอนดอนเกมส์ สะดุดล้มข้อเท้าเจ็บ ขณะลงแข่งขันวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชาย จนต้องออกจากการแข่งขันไปกลางคัน ก่อนที่จะกลับเข้ามาแสดงสปิริต เขย่งด้วยขาข้างเดียวจนไปถึงเส้นชัย ราวกับจะเป็นการบอกลาอนาคตบนเส้นทางโอลิมปิกของตัวเอง ท่ามกลางความสะเทือนใจของแฟนๆ ทั้งสนาม

หลังจากคว้าเหรียญทองในการแข่งขันวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชายในโอลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ เมื่อปี 2004 และยังเป็นเจ้าของเหรียญทองชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2007 ที่ โอซากา ประเทศญี่ปุ่น ส่งให้ หลิว เสียง กลายเป็นความภูมิใจของของชาวจีนทั้งประเทศ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อเจ้าของสถิติโอลิมปิก ที่เวลา 12.91 วินาที ผู้นี้ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชายชนิดช็อกแฟนชาวจีนทั้งประเทศไปเมื่อครั้งมหกรรมโอลิมปิกปี 2008 ที่กรุงปังกิ่งประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ส้นเท้า ในครั้งนั้นเขาให้สัญญากับแฟนๆ ว่า หากหายดีแล้ว จะกลับมาทำลายสถิติโอลิมปิกอีกครั้งด้วยความเร็วยิ่งกว่าเดิม

ทว่าความฝันของเขาไม่เคยมาถึง เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2012 หลิว เสียง สะดุดล้มระหว่างลงแข่งรอบคัดเลือกฮีตที่ 6 จนทำให้อาการบาดเจ็บที่เท้ากำเริบ ต้องออกจากการแข่งขันกลางคัน หมดสิทธิ์เข้าไปชิงเหรียญโอลิมปิกในรอบต่อไป

อย่างไรก็ตามหลังการแข่งขัน หลิว เสียง กลับเข้าไปที่สนาม อาศัยขาข้างเดียวเขย่งไปจนถึงเส้นชัย อีกทั้งยังจุมพิตลงบนรั้ววิ่ง ราวกับเป็นการบอกลาอนาคตบนเส้นทางโอลิมปิกของตัวเอง ก่อนที่จะนั่งรถเข็นออกจากสนามแข่งขัน ท่ามกลางความสะเทือนใจของแฟนๆ โดยเฉพาะกองเชียร์ชาวจีน ตง รื่อน่า นักข่าวภาคสนามของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีจีนที่ติดตามรายงานข่าวของนักกีฬาหนุ่มผู้นี้มาตลอดหลายปีถึงกับหลั่งน้ำตาให้กับฉากสะเทือนใจนี้ ไปพร้อมๆ กับการรายงานข่าวหน้ากล้อง ขณะที่ หยัง เจี้ยนเกิง ผู้บรรยายกีฬาชาวจีนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "ขอบคุณ หลิว เสียงที่เคยสร้างเกียรติยศให้กับพวกเรา เราจะจดจำช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์นั้นไว้ตลอดไป ลาก่อน หลิว เสียง!"

 
ประวัติย่อ หลิว เสียง

หลิวเสียง เกิดที่เซี่ยงไฮ้ วันที่ 13 กรกฎาคมปี ค.ศ.1983 เขาเป็นเด็กซุกซนชอบวิ่งกระโดดโลดเต้นปีนป่ายไปทั่ว คุณพ่อเห็นแววจึงส่งเข้าโรงเรียนกีฬายุวชนของนครเซี่ยงไฮ้ โดยเน้นไปทางด้านการกระโดดสูง จนเมื่อหลิวอายุได้ 13 ขวบ (ปี 1996) ได้พบกับซุนไห่ผิง โค้ชกรีฑาจีนซึ่งเห็นหน่วยก้านที่สามารถเอาดีทางวิ่งข้ามรั้วได้ จึงรับตัวเป็นศิษย์เพื่อฝึกฝนวิ่งข้ามรั้วโดยเฉพาะ

จากนั้นหลิวเสียงมีโอกาสได้เข้าแข่งขันในนัดสำคัญและเริ่มสะสมชื่อเสียงมาตลอด ในปี 2000 ได้ครองอันดับที่ 4 วิ่งข้ามรั้วชาย 110 เมตรจากการแข่งขันกรีฑาชิงชนะเลิศเยาวชนระดับโลก ในปี 2002 เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันนี้อีกครั้ง และทำลายสถิติวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชายเยาวชนโลกที่นักกีฬาอเมริกาสามารถครองตำแหน่งนี้มานานถึง 24 ปี ในปีเดียวกันคว้าเหรียญทองจากกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 14 และปี 2003 เขาได้เหรียญทองแดงการวิ่งข้ามรั้วชาย 60 เมตรจากการแข่งขันชิงชนะเลิศกรีฑาในร่มโลก

และที่สร้างชื่อให้หลิวเสียงอย่างมากคือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 28 ที่กรุงเอเธนส์เมื่อปี 2004 โดยการคว้าเหรียญทองวิ่งข้ามรั้วชาย 110 เมตร ด้วยสถิติ 12.91 วินาที ซึ่งเป็นการทำลายสถิติโอลิมปิก 12.95 วินาทีโดยอลัน จอห์นสัน นักวิ่งอเมริกัน และเทียบเท่าสถิติโลกที่คอลลิน แจ็กสัน นักวิ่งผิวหมึกชาวอังกฤษทำไว้เมื่อปี ค.ศ.1993 ปี 2007 หลิว เสียง ยังได้ครองแชมป์ในการแข่งขันกรีฑาโลกที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เขากลายเป็นเจ้าหนูลมกรด ฮีโร่ในดวงใจของชาวจีนหลายล้านคน ติดอันดับคนดังแดนมังกรที่มีรายได้สูงที่สุดในนิตยสารฟอร์บ ฉบับภาษาจีน ปี 2008

อย่างไรก็ตาม ปี 2008 ซึ่งประเทศจีนเป็นเจ้าภาพการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก หลิว เสียง ผู้เป็นความหวังของชาวจีนได้รับบาดเจ็บที่ส้นเท้าขวาจนต้องขอถอนตัวจากการแข่งขันครั้งสำคัญที่สุดที่แฟนๆ ของเขาตั้งตารอ โดยในครั้งนั้นเขาให้สัญญากับชาวจีนว่าเมื่อร่างกายกลับสู่สภาพปกติจะกลับมาสร้างสถิติใหม่ในโอลิมปิกอีกครั้ง ซึ่งหลังจากฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2010 หลิว เสียง เริ่มกลับเข้าสู่สนามแข่งขันด้วยผลงานที่ดีขึ้นเรื่อย จนกระทั่งมาพลาดในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นจุดสิ้นสุดเส้นทางนักกีฬาโอลิมปิกของหนุ่มลมกรดผู้นี้ก็เป็นได้
หลิว เสียง กับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ ที่โอลิมปิก กรุงเอเธนส์ ปี 2004