ธ.กลางจีนเปลี่ยนแนว ยอมให้หยวนอ่อนค่าอีกครั้ง

เดอะวอลล์สตรีเจอร์นัล - ธนาคารกลางจีนเริ่มกำหนดทิศทางให้เงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงอีกครั้ง หลังจากพยายามหนุนให้แข็งค่าอยู่นาน 2 ปี สะท้อนว่ารัฐบาลปักกิ่งกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจแดนมังกร ที่ชะลอตัว

หลังจากธนาคารกลางจีนได้ขยายกรอบความเคลื่อนไหวของเงินหยวนในการซื้อ-ขายเป็น +/- ร้อยละ 1.0 จากค่ากลางอ้างอิงเงินหยวนเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2555 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธ ที่ผ่านมา (25 ก.ค.) พบว่า ธนาคารกลางจีนได้กำหนดค่ากลางอ้างอิงเงินหยวนเทียบดอลลาร์ในระดับต่ำที่สุดในรอบปีนี้ โดยกำหนดทิศทางให้เงินหยวนอ่อนค่าลงต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 แล้ว และเมื่อดูภาพรวมทั้งหมด เงินหยวนอ่อนค่าลงร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ หลังจากแข็งค่าขึ้นร้อยละ 4.7 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจีนมิได้ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ และยังไม่ชัดเจนว่า แนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในช่วง 2-3 วัน หรือในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้าหรือไม่

เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารกลางจีนออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าวก็เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก ซึ่งกำลังประสบปัญหายอดขาย ที่ชะลอลง และช่วยลดโอกาส ที่จะเกิดการปลดคนงานครั้งใหญ่ ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อผลัดเปลี่ยนผู้นำในปีนี้ โดยการประชุม ซึ่งมีความสำคัญและอ่อนไหวนี้จัดขึ้นทุก ๆ 10 ปี

ขณะที่นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนต้องพยายามดำเนินการให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมการจ้างงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นภาระ ที่หนักมาก

ด้านนักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารเครดิตอะกริกอลในฮ่องกงระบุว่า ผลกระทบด้านจิตวิทยาจากเงินหยวนอ่อนค่านี้จะแข็งแกร่ง เนื่องจากทำให้เกิดความรู้สึกว่า รัฐบาลจีนมุ่งลดความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้เศรษฐกิจจีนเติบโต โดยไม่สนใจแรงกดดันจากสหรัฐฯ

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปฏิเสธให้ความเห็นในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของเงินหยวนจะกลายเป็นประเด็นถกเถียงในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างแน่นอน โดยนายมิตต์ รอมนีย์ ผู้ลงแข่งขันจากพรรครีพับลิกันประกาศจะตราหน้าจีนว่า เป็นผู้ล่วงละเมิดสกุลเงิน