“วายแอลจี” แนะนำให้รอจังหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน “เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” SPOT GOLD: แกว่งออกข้างรอฟื้นตัว
วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ ระบุแนวโน้มราคาทองคำ 24 ก.ค. ว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป ยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่ากลุ่มยูโรโซนจะสามารถควบคุมการลุกลามของวิกฤตหนี้หรือไม่ แม้มีรายงานว่า รัฐมนตรีคลังจาก 17 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ได้ให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายต่อข้อตกลงช่วยเหลือสเปน เพื่อนำไปเพิ่มทุน หรือปรับโครงสร้างทางการเงินให้แก่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศการอนุมัติเป็นการเปิดทางให้มีการเบิกจ่ายเงินก้อนแรกจำนวน 3 หมื่นล้านยูโร จากวงเงินกู้ 1 แสนล้านยูโร ที่ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่าเมืองวาเลนเซียของสเปนระบุว่า จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง และรัฐบาลสเปนมีการปรับลคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ และปีหน้าลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากความวิตกที่รุนแรงขึ้นเกี่ยวกับฐานะการเงินของเมืองต่างๆ ของสเปน ซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปน พุ่งแตะ 7.45% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า สเปนอาจถูกบีบให้ขอความช่วยเหลือทางการเงินจากยูโรโซน ประกอบกับที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนคาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 7.4% ในไตรมาส 3 พร้อมกับเตือนว่า ราคาผู้ผลิต และเงินเฟ้ออาจจะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุนของบริษัทที่ทำธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม และส่งผลกระทบต่อความต้องการในการขยายกิจการ ยังคงสร้างแรงกดดันในตลาดทองคำ
เบื้องต้น วายแอลจีแนะนำให้รอจัวหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้รอขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้านต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รอซื้อทองคำแนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับต่างๆ เหมือนเช่นเคย ซึ่งการซื้อทองคำเมื่อราคาย่อตัวลงมาไม่ควรหลุดแนวรับ 1,560 หรือ 1,555 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้าน 1,592 หรือ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว ให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยดูบริเวณแนวรับสำคัญถัดไปที่ 1,546 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และนอกจากจะหาจังหวะการเข้าลงทุนระยะสั้นแล้ว นักลงทุนยังจำเป็นต้องประเมินขนาดการลงทุนในแต่ละรอบเพื่อที่จะสามารถคำนวณความเสี่ยงในการลงทุนในแต่ละครั้งให้อยู่ในขนาดที่พอร์ตการลงทุนสามารถแบกรับได้
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,560 (23,450 บาท) 1,555 (23,380 บาท) 1,546 (23,240 บาท) แนวต้าน 1,592 (23,930 บาท) 1,600 (24,050 บาท) 1,609 (24,190 บาท) GOLD FUTURES (GFQ12) แนวรับ 1,560 (23,660 บาท) 1,555 (23,590 บาท) 1,546 (23,450 บาท) แนวต้าน 1,592 (24,150 บาท) 1,600 (24,270 บาท) 1,609 (24,400 บาท) SILVER FUTURES (SVQ12) แนวรับ 26.55 (839 บาท) 26.30 (831 บาท) 26.05 (823 บาท) แนวต้าน 27.60 (872 บาท) 28.00 (885 บาท) 28.40 (898 บาท)
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินทิศทางราคาทองคำว่า SPOT GOLD: แกว่งออกข้างรอฟื้นตัว โดยแนวรับ 1,565, 1,550 ดอลลาร์ // แนวต้าน 1,595-1,600 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์มีจุดระวังที่จะกลับมาอ่อนค่า หลังไม่ผ่าน 84 จุด และ Bearish Divergence ของ RSI เตือนทิศทางลบ แต่ยังไม่ยืนระดับกลับมาอ่อนค่าเร็วนัก เนื่องจากเป็นการเกิดที่ระดับต่ำกว่า 70% ประคองทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไม่น่าจะมีการปรับฐานแรง คาดว่าราคาทองคำจะไม่ต่ำกว่า 1,555 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำของเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา คาดทิศทางราคาในคืนนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,595 ดอลลาร์
ส่วน GFNQ12: แกว่งออกข้างช่วง 23,700-24,000 บาท แนวรับ 23,800, 23,700 บาท // แนวต้าน 23,950, 24,000 บาท โดยพอร์ตเปิด Long ที่ทนต่อการแกว่งของภาพรายวันได้ ถือต่อเพื่อรอการดีดเข้าหาแนวต้านหลัก 24,000 บาท หรือ 24,150 บาท ทำกำไรปิดความเสี่ยง จุด Stop loss เลื่อนลงต่ำมาอยู่ที่ 23,700 บาท และพอร์ตว่าง หากจะเข้าเปิด Short เรายังให้น้ำหนักขาลงมี Downside ต่ำมาก อาจต้องระวังว่ารูปแบบราคา ณ ปัจจุบัน จะเป็นการแกว่งออกข้างทำฐาน เพื่อรอการปรับขึ้น