เล็งนายใหญ่ซานตง เป็นนายใหม่ฉงชิ่ง

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เจ้าหน้าที่สูงสุดพรรคคอมมิวนิสต์จีนแห่งมณฑลซานตงถูกจัดลำดับอยู่แถวหน้าสุด มีแนวโน้มถูกดันให้นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคฯ แห่งฉงชิ่ง แทนที่รองนายกรัฐมนตรีจัง เต๋อเจียงที่เข้ามารับตำแหน่งเฉพาะกาลแทนปั๋ว ซีไหล หลังจากที่ปั๋วเจอพายุการเมืองและคดีอื้อฉาวสารพัดในช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จนถูกปลด

“นายเจียง อี้คัง จากซานตงจะต้องถูกโยกย้ายไปฉงชิ่งแทนที่จังในอีกไม่ช้า คนที่เสนอชื่อของเขาก็คือรองประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” แหล่งข่าวใกล้ชิดกับคณะกรรมการพรรคฯ มณฑลซานตงเผย แต่ไม่ได้ระบุเวลาการโยกย้ายที่แน่ชัด

แหล่งข่าวอีกแห่งที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลมหานครฉงชิ่ง ยกคำกล่าวของเจ้าหน้าที่อาวุโส 2 คนว่า “เจียงนั้นก่อนหน้านี้เป็นรองเลขาธิการพรรคแห่งฉงชิ่ง และเขาจะกลับมาเป็นเลขาธิการฯ เร็วที่สุดก็ในเดือนมิ.ย.นี้”

เจียง อี้คัง วัย 59 ปี นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคฯ มณฑลซานตง เชื่อกันว่าเขาอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ค้ำชูของอดีตรองประธานาธิบดีเจิง ชิ่งหง หรือที่รู้จักกันในนามหัวหน้ากลุ่มลูกท่านหลานเธอ อันเป็นที่รวมตัวของเหล่านักการเมืองผู้ดีที่โชกโชนผ่านเหตุการณ์ปฏิวัติวัฒนธรรม ทั้งสี จิ้นผิง และปั๋ว ซีไหล ต่างก็เป็นหนึ่งในกลุ่มลูกท่านหลานเธอที่โดดเด่น

หากว่าเจียงได้ตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ฉงชิ่ง หนึ่งในสี่เทศบาลนครของจีน เขาก็จะสามารถมั่นคงในตำแหน่งคณะกรรมการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรอันทรงพลังของพรรคฯ ได้

หลายกลุ่มการเมืองก็จ้องตำแหน่งว่าง หลังจากปั๋ว ซีไหลถูกปลด กันอย่างตาเป็นมัน

นายโจว เฉียง เลขาพรรคฯ แห่งหูหนาน วัย 52 ปี ผู้เป็นพันธมิตรฝ่ายเลขาธิการใหญ่ฯ หู จิ่นเทา เนื่องจากเขามีฐานสนับสนุนจากสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งจีน นายโจวคนนี้ก็มีแนวโน้มได้ดิบได้ดี

นักวิชาการในฉงชิ่งคนหนึ่งยืนยัน (12 พ.ค.) ว่า เขาได้ยินมาว่าขณะนี้ดูคะแนนนิยมนายเจียงจะดีกว่า “หากเทียบโจว กับเจียงแล้ว ดูนายเจียงจะเป็นที่ต้องตาผู้นำระดับบนมากกว่า”

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวในฉังซา เมืองเอกของมณฑลหูหนาน เผยว่า โจวยังคงมีโอกาสดีที่จะได้เข้าฉงชิ่ง แต่การเข้าชิงตำแหน่งสำคัญขนาดนั้นย่อมต้องมีการต่อรองหลายฝ่ายและไม่ใช่เรื่องง่าย

หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีพาดกัวข่าวหน้าแรก (26 เม.ย.) ชื่นชูการทำงานของเจ้าหน้าที่มณฑลซานตงว่ามีความสามารถในการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเลิศ แม้ว่าเฉิน กวงเฉิงเพิ่งจะหลบหนีออกจากบ้านพักที่ถูกกักบริเวณซึ่งก็อยู่ในซานตงเพียงไม่กี่วัน

ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า กระบอกเสียงพรรคฯ ที่ออกมาสนับสนุนซานตงอย่างผิดปกตินี้ จะเกี่ยวกับการสร้างทัศนคติหรือคะแนนนิยมให้กับตัวเจียงหรือไม่

เจียงกลายเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานทั่วไปอันทรงพลังภายใต้คณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2538 ก่อนที่จะถูกโยกย้ายมาฉงชิ่งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคในปี 2545 จากนั้นเขาถูกดันขึ้นไปเป็นตำแหน่งระดับรัฐมนตรี เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนการปกครองแห่งชาติของจีนในปี 2549 กระทั่งต่อมาได้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคแห่งซานตงเมื่อต้นปี 2551