xs
xsm
sm
md
lg

จีนอัดเงิน “กองทุนมั่งคั่ง” อีก $3หมื่นล้าน ลุยซื้อสินทรัพย์ยุโรป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัง เจี้ยนซี รองผู้จัดการทั่วไปและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านบริหารความเสี่ยงของ บริษัทการลงทุนแห่งประเทศจีน หรือ CIC ถูกรุมล้อมโดยนักข่าวที่ศูนย์การประชุมในกรุงปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ (4 มี.ค.) [ภาพจากไชน่าเดลี]
ไชน่าเดลี – ผู้บริหารไชน่า อินเวสต์เมนท์ คอร์ป (ซีไอซี) หรือ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของจีน เผยได้รับเงินอัดฉีดจากรัฐบาลปักกิ่งอีก 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช้อนซื้อสินทรัพย์ในยุโรป ภูมิภาคที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตหนี้อย่างหนัก

วันอาทิตย์ (4 มี.ค.) นายวัง เจี้ยนซี (汪建熙) รองผู้จัดการทั่วไปและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านบริหารความเสี่ยงของ บริษัทการลงทุนแห่งประเทศจีน (ซีไอซี) เปิดเผยกับไชน่าเดลีว่า ในช่วงปลายปี 2554 บริษัทเพิ่งได้รับเงินสนับสนุนจาก สำนักบริหารการปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีน (SAFE) จำนวน 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 9 แสนล้านบาท) เนื่องจากเงินลงทุนของซีไอซีที่มีก่อนหน้านั้นถูกนำไปใช้ในการลงทุนอื่นๆ หมดแล้ว

วัง เจี้ยนซี หนึ่งในคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนชุดที่ 11 ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างสมัยประชุมครั้งที่ 5 เปิดเผยด้วยว่า เงินอัดฉีดก้อนใหม่ที่ได้มานั้นจะถูกนำไปใช้เพื่อการลงทุนซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นของยุโรป

“เงินจะถูกนำไปใช้เพื่อซื้อสินทรัพย์ทางการเงินในตลาดยุโรปที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และมีความเสี่ยงทางการเงินที่ค่อนข้างต่ำ ในระยะสั้นเราจะใช้วิธีการเชิงรุกเพื่อเข้าลงทุนในภูมิภาคดังกล่าว” ผู้บริหารของซีไอซีระบุ

ซีไอซีถูกตั้งขึ้นในปี 2550 จากนโยบายของรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังของจีน ในเวลานั้นมีการออกพันธบัตรมูลค่า 1.55 ล้านล้านหยวน (หรือ 246,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน) และทำสวอปกับสำนักบริหารการปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนเป็นเงินตราต่างประเทศจำนวน 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาซีไอซีระบุว่า ได้ใช้เงินลงทุนดังกล่าวไปเต็มจำนวนแล้ว และต่อรองกับรัฐบาลเพื่อขอเงินสนับสนุนเพิ่มเติม

ขณะที่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าซีไอซีได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติมมากถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท)

“ถ้าหากผลตอบแทนจากโครงการลงทุนของเรายังมีแนวโน้มที่ดีอยู่ เราก็จะเดินหน้าขอเงินอัดฉีดเพิ่มเติมจากทางรัฐบาล” วังกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เงินอัดฉีดดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกระสุนของซีไอซีเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ที่หลายประเทศในยุโรปกำลังประสบกับวิกฤตหนี้สาธารณะจนทำให้มีการประกาศขายสินทรัพย์ทางการเงินจำนวนมาก

“ตอนที่เศรษฐกิจยังดีอยู่ ประเทศเหล่านี้ (ประเทศพัฒนาแล้ว) ก็มักจะมีเงื่อนไขทางการเมืองติดปลายนวมเวลาชักชวนจีนไปลงทุน แต่พอเศรษฐกิจมีปัญหาเงื่อนไขเหล่านี้ก็ลดน้อยลงไป” รองผู้จัดการทั่วไปและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านบริหารความเสี่ยงของซีไอซีกล่าว และว่า “แต่ในระยะยาว หรือในช่วง 5-10 ข้างหน้า เป้าหมายการลงทุนหลักซีไอซีก็จะยังคงอยู่ในตลาดเกิดใหม่ เรามีพันธกิจในการลงทุนระยะยาว มิใช่การเก็งกำไรระยะสั้น”

ด้านนายโหลว จี้เหว่ย ประธานซีไอซี กล่าวว่าบริษัทสนใจการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัยไปแล้วของทางประเทศตะวันตก โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซีไอซีเผยว่าได้ซื้อหุ้นร้อยละ 8.68 ในเทมส์ วอเตอร์ บริษัทสาธารณูปโภคของอังกฤษ โดยเป็นการซื้อต่อมาจากแมคควอรี ธนาคารเพื่อการลงทุนชั้นนำของออสเตรเลีย

อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่าเงินอัดฉีดก้อนดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลจีนระบุว่าจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจของชาติในยุโรปหรือไม่ วังกล่าวว่า ซีไอซีจะไม่นำเงินก้อนดังกล่าวไปช่วยเหลือประเทศในยุโรปผ่านการซื้อพันธบัตรแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนระบุว่าจีนยินดีที่จะช่วยเหลือยุโรปเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ ขณะที่นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีก็เคยร้องขอให้ทางซีไอซี และนักลงทุนระยะยาวต่างช่วยกันซื้อหนี้ของรัฐบาลยุโรป

อย่างไรก็ตาม นายโหลว ประธานซีไอซีก็เคยกล่าวใน การประชุมสุดยอดนักเศรษฐศาสตร์จีน 50 คน (中国经济50人论坛) เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า นักลงทุนระยะยาวอย่างซีไอซีเห็นว่า เป็นเรื่องยากลำบากสำหรับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในยูโรโซน

“โอกาสในการลงทุนที่เรามองอยู่นั้นเป็นโครงการด้านสาธารณูปโภค และอุตสาหกรรม ซึ่งโครงการเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้” โหลวระบุ

กำลังโหลดความคิดเห็น