xs
xsm
sm
md
lg

“จีน” หารือเพื่อซื้อพันธบัตร “อิตาลี” แต่ตลาดยังไม่เชื่อมั่น-“ยูโร” ตกวูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการ - กระทรวงการคลังอิตาลี ยืนยันวานนี้ (13) รัฐมนตรี จูลิโอ เตรมอนตี ได้พบหารือกับคณะเจ้าหน้าที่จีนในสัปดาห์ที่แล้วจริงๆ โดยที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานก่อนหน้านี้ ว่า โรมได้ขอให้ปักกิ่งช่วยซื้อตราสารหนี้ของตนในปริมาณที่ “สำคัญ” อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ไม่ช่วยให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจในฐานะของแดนสปาเก็ตตี้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของยูโรโซน เพราะการประมูลขายพันธบัตรรัฐบาลที่กระทำในวันเดียวกันนี้ ปรากฏว่า อิตาลียังคงต้องจ่ายอัตราผลตอบแทนสูงที่สุดนับแต่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ในช่วงเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา อิตาลีตกอยู่ในสภาพที่ต้องพึ่งพิงธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ให้ช่วยเหลือรับซื้อตราสารหนี้ภาครัฐของตน จึงยังคงสามารถประคับประคองไม่ให้อัตราผลตอบแทน (ยีลด์) ที่แดนสปาเก็ตตี้ต้องจ่ายแก่ผู้ที่มาซื้อตราสารหนี้ พุ่งขึ้นสูงโด่ง ทว่าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ปรากฏว่าอัตราผลตอบแทนนี้พุ่งขึ้นไปแรง ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นว่า อารมณ์ความรู้สึกของตลาดการเงินได้หันกลับรู้สึกในทางลบต่อโรมเสียแล้ว

แนวโน้มนี้เห็นชัดเจนในการประมูลขายพันธบัตรของกระทรวงการคลังอิตาลีคราวนี้ กล่าวคือ แม้สามารถขายออกไปได้เป็นมูลค่าหน้าตั๋วทั้งสิ้น 6,485 ล้านยูโร ต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุด 7,000 ล้านยูโร ที่ตั้งเอาไว้เพียงเล็กน้อย ทว่ากระทรวงการคลังอิตาลีก็ถูกบังคับให้ต้องจ่ายอัตราผลตอบแทนสูงเป็นประวัติการณ์ คือ 5.60% สำหรับพันธบัตรส่วนที่มีอายุ 5 ปีมูลค่ารวมกันร่วมๆ 4,000 ล้านยูโร

ทางด้านค่าเงินยูโรก็อ่อนวูบลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ภายหลังการประกาศผลการประมูลคราวนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่ามันยังคงซ้ำเติมความหวั่นวิตกที่ว่า วิกฤตหนี้สินภาครัฐของยูโรโซนยังคงแผ่ลามลงลึกยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แถมยังอาจกระตุ้นให้เกิดวิกฤตภาคการธนาคารขึ้นมาอีกด้วย

“ตลาดต้องการเห็นการปฏิบัติการอย่างเด็ดขาด พวกเขาต้องการเห็นใครสักคนเข้าไปควบคุมสถานการณ์” มาร์ก ออสต์วอลด์ นักวิเคราะห์ในลอนดอนของ โมนูเมนต์ ซีเคียวริตีส์ แสดงความเห็นซึ่งสะท้อนความรู้สึกของผู้คนในตลาด

“ทว่า สิ่งที่เราพบเห็นกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นระดับภายในประเทศในอิตาลีเอง, ในระดับทั่วทั้งยูโรโซนโดยรวม, หรือที่สำคัญยิ่งกว่าใครอื่นเลยก็คือท่าทีของเยอรมนี มันล้วนแต่บ่งชี้ให้เห็นว่าไม่มีใครเลยสักฝ่ายที่กำลังเข้ากุมบังเหียนและเสนอนโยบายของยูโรโซนอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”

แม้กระทั่ง เฟียต ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมการผลิตรายใหญ่ที่สุดในอิตาลี ก็ต้องออกมาแถลงอย่างร้อนอกร้อนใจ ว่า สถานการณ์ในปัจจุบันมีความเสี่ยงที่จะแผ่ขยายไปจนกระทั่งควบคุมเอาไว้ไม่อยู่

“ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ โดยเฉพาะถ้าหากมีการดำเนินขั้นตอนที่ผิดๆ ซึ่งจะทำให้ระบบพุ่งถลาออกนอกรางไปเลย” แซร์จิโอ มากีโอนเน ซีอีโอของเฟียตบอกกับผู้สื่อข่าวในงานแสดงรถยนต์ที่แฟรงก์เฟิร์ต

**ความช่วยเหลือจากจีน?**

ก่อนหน้านี้ ในวันเดียวกัน โฆษกกระทรวงการคลังอิตาลีได้แถลงยืนยันว่า ขุนคลังเตรมอนตี ได้พบปะหารือกับคณะเจ้าหน้าที่จีนชุดหนึ่งในสัปดาห์ที่แล้ว

โฆษกผู้นี้ไม่ให้ความเห็นว่ามีการหารือเรื่องอะไรบ้างในระหว่างการพบปะ ซึ่งมีรายงานว่าในหมู่เจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนนั้น คนหนึ่งคือ โหลว จี้เหว่ย ประธานของ ไชน่า อินเวสต์เมนต์ คอร์ป (ซีไอซี) ที่เป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของแดนมังกร นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านการลงทุนและตราสารหนี้อีกหลายคน คณะผู้แทนจีนชุดนี้ยังได้ไปพบหารือกับทาง คัสซา เดโปชีตี เอ เปรสตีตี องค์การการลงทุนภาครัฐของแดนสปาเก็ตตี้

ทั้งนี้ ไฟแนนเชียลไทมส์ เสนอข่าวในเว็บไซต์ของตนตั้งแต่วันจันทร์(12)ว่า โรมได้ขอร้องให้จีนช่วยซื้อตราสารหนี้ของตนในปริมาณอัน “สำคัญ” ขณะที่วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า อิตาลีกำลังหวังว่าจีนจะซื้อตราสารหนี้ “ก้อนใหญ่”

ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานด้วยว่า 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ คณะเจ้าหน้าที่ของอิตาลีได้เดินทางไปปักกิ่งเพื่อพบหารือกับทาง ซีไอซี และสำนักงานแห่งรัฐเพื่อการกำกับดูแลอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (SAFE) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของแดนมังกร

ปรากฏว่า ข่าวนี้ช่วยให้ตลาดการเงินของอิตาลีคึกคักสดใสขึ้นเพียงระยะสั้นๆ ในตอนต้นตลาดเมื่อวานนี้ จากนั้นก็กลับย่ำแย่ลงไป โดยที่พวกนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นว่า ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานทำนองเดียวกันว่าจีนกำลังเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหา แต่แล้วก็ไม่ได้บังเกิดผลอะไรอันชัดเจน

“ไม่ใช่เป็นครั้งแรกหรอกที่ตลาดเกิดความหวังว่า จีนจะขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยเหลือให้พ้นภัย” เจอเรมี แบตสโตน-คาร์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนแห่ง ชาร์ลส์ สแตนลีย์ ให้ความเห็น “ทว่าจีนไม่ใช่เป็นผู้ที่มีผลงานในอดีตอันยอดเยี่ยมอะไรหรอกนะ พวกเขาเคยเข้าร่วมซื้อพันธบัตรโปรตุเกสในปีนี้ แล้วปรากฏว่าพวกเขาขาดทุน”
กำลังโหลดความคิดเห็น