เอเอฟพี - อัตราเงินเฟ้อประจำเดือนม.ค.แดนมังกรพุ่งสูงถึงร้อยละ 4.5 แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยนักวิเคราะห์คาดอัตราเงินเฟ้อของจีนจะกลับสู่ทิศทางขาลงในเดือนก.พ.
จากการประกาศของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเมื่อวันพฤหัสฯ ( 9 ก.พ.) ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.1 ในเดือนธ.ค.ทำให้เงินเฟ้อ ที่ผ่อนคลายมาตลอด 5 เดือนจากมาตรการควบคุมของรัฐบาลในการปล่อยสินเชื่อและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้สิ้นสุดลง โดยเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าประเภทอาหาร ที่พุ่งขึ้นร้อยละ 10.5 จากร้อยละ 9.1 ในเดือนธ.ค.
ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งชี้วัดต้นทุนของสินค้าภาคเกษตรกรรมและโรงงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียงร้อยละ 0.7 จากเทียบกับร้อยละ 1.7 ในเดือนธ.ค.
นายไบรอัน แจ็กสัน นักวิเคราะห์อาวุโสของรอแยลแบงก์ออฟแคนาดาในฮ่องกงกล่าวว่า เป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่อัตราเงินเฟ้อจะได้รับผลกระทบบ้างจากวันหยุดตรุษจีน ซึ่งปีนี้มาเร็วกว่าปีก่อน ซึ่งวันตรุษจีนอยู่ในเดือนก.พ. อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนผลกระทบจะมากกว่าที่คาดการณ์กัน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนเดือนม.ค.จะอยู่ที่ร้อยละ 4.1 จากการสำรวจของดาวโจนส์นิวส์ไวร์ส
อย่างไรก็ตาม นายหลู่ ติงนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารอเมริกา-เมอร์ริล ลินช์ ระบุว่า ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนม.ค.ถูกบิดเบือนอย่างมากจากช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งมีวันหยุดยาวหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้น นักลงทุนไม่ควรให้ความสำคัญมากนัก
นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนน่าจะกลับสู่ทิศทางขาลงอีกครั้งในเดือนก.พ. เนื่องจากเศรษฐกิจแดนมังกรกำลังชะลอการเติบโต อันเป็นผลจากภาคส่งออก ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจจีน ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สิน ที่ยืดเยื้อในยุโรป และสหรัฐฯต้องการสินค้านำเข้าจากจีนลดลง
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ออกมาเตือนในสัปดาห์นี้ว่า ปัญหาการเงินของยุโรปอาจทำให้เศรษฐกิจแดนมังกรลดการเติบโตลงถึงครึ่งหนึ่งในปีนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อรับมือ
