ปลัดกระทรวงพาณิชย์เผยน้ำท่วมราคาสินค้าหมวดอาหารเครื่องดื่มแพง ดันเงินเฟ้อ พ.ย.พุ่ง 4.19% เฉลี่ย 11 เดือน เพิ่มขึ้น 3.83% ปรับใหม่เป้าทั้งปีแตะ 3.2-3.8% คาดเงินเฟ้อ ธ.ค. ปรับลดลง ปี 55 แตะ 3.3-3.8%
วันนี้ (1 ธ.ค.) นายยรรยง พวงราช ปลัดกรทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 ว่า อัตราเงินเฟ้อขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากดัชนีราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.21 โดยสินค้าที่มีราคาแพงขึ้นได้แก่ข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์ ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วม ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.83 โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั้งปีเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.2-3.7 เป็นร้อยละ 3.2-3.8
นายยรรยงกล่าวต่อว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปหรืออัตราเงินเฟ้อของประเทศในช่วงเดือนธันวาคม เชื่อว่าจะสามารถปรับตัวลดลงได้ และเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีหน้าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.6 เป็นเพราะปัจจัยราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ไม่ดีนักทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันลดลง และกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ยังคงการผลิตไว้เท่าเดิมและปัญหาน้ำท่วมในประเทศ เริ่มคลี่คลายทำให้อัตราค่าขนส่งและสินค้าต่างๆ เริ่มมีการปรับราคาลดลงรวมทั้งอัตราดอกเบี้ย ที่มีการปรับลดลงร้อยละ 0.25 ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิต ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินเป้าหมายเงินเฟ้อในปีหน้า อยู่ที่ร้อยละ 3.3-3.8
วันนี้ (1 ธ.ค.) นายยรรยง พวงราช ปลัดกรทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 ว่า อัตราเงินเฟ้อขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากดัชนีราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.21 โดยสินค้าที่มีราคาแพงขึ้นได้แก่ข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์ ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วม ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.83 โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั้งปีเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.2-3.7 เป็นร้อยละ 3.2-3.8
นายยรรยงกล่าวต่อว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปหรืออัตราเงินเฟ้อของประเทศในช่วงเดือนธันวาคม เชื่อว่าจะสามารถปรับตัวลดลงได้ และเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีหน้าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.6 เป็นเพราะปัจจัยราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ไม่ดีนักทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันลดลง และกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ยังคงการผลิตไว้เท่าเดิมและปัญหาน้ำท่วมในประเทศ เริ่มคลี่คลายทำให้อัตราค่าขนส่งและสินค้าต่างๆ เริ่มมีการปรับราคาลดลงรวมทั้งอัตราดอกเบี้ย ที่มีการปรับลดลงร้อยละ 0.25 ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิต ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินเป้าหมายเงินเฟ้อในปีหน้า อยู่ที่ร้อยละ 3.3-3.8
