รอยเตอร์ - หม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋ง คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในสมัยที่สอง หลังจากเจ้าหน้าที่ฯ เผยผลนับคะแนนการเลือกตั้งคืนวันเสาร์ (14 ม.ค.) หม่ามีคะแนนนำ ไช่ อิงเหวินผู้นำฝ่ายค้านพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าแบบไม่ห่างกันมากนัก
ผลการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นเครื่องย้ำว่าจีนและไต้หวันจะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายความตึงเครียดทางการเมืองต่อไป และยังทำให้ทั้งจีนและอเมริกาสองมหาอำนาจใหญ่วางใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านผู้นำของไต้หวัน
การเลือกตั้งในครั้งนี้มีการคาดการณ์กันว่าคะแนนเสียงจะห่างกันไม่มาก คณะกรรมการกลางการเลือกตั้งของไต้หวันเผยผลการนับคะแนนว่า พรรคก๊กมินตั๋งของหม่า อิงจิ่วผู้มีนโยบายสานสัมพันธ์ดีกับจีนแผ่นดินใหญ่ได้คะแนนคิดเป็น 51.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพีของนางสาวไช่ อิงเหวินได้สัดส่วน 45.7 เปอร์เซ็นต์
"พวกเราชนะแล้ว"
หม่า วัย 61 กู่ก้องร้องตะโกนท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุน ณ สำนักงานใหญ่ของพรรคท่ามกลางหยาดฝนที่โปรยปรายกระทบเสียงปรบมือและโห่ร้องด้วยความยินดี
"ในอีก 4 ปีข้างหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวันจะสงบสันติมากขึ้น มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น และโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งกับจีนจะลดลงเรื่อย ๆ"
ไช่ ยอมรับความพ่ายแพ้พร้อมเผยว่ากำลังจะลาออกจากการเป็นผู้นำพรรคดีพีพี
อย่างไรก็ตาม พรรคก๊กมินตั๋งจะต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติเพื่อทำให้หม่า อิงจิ่วสามารถผลักดันนโยบายของตนครองเสียงข้างมากต่อไปได้ สถานีโทรทัศน์ไต้หวันเผยว่า พรรคของหม่าจะได้ที่นั่งในสภาฯ ประมาณ 65 ที่ จากจำนวนทั้งหมด 113 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าน้อยกว่าสภาเดิมที่พรรคของหม่าเคยครองเก้าอี้ถึง 81 ที่นั่ง
"พวกเราจะยังคงมุ่งมั่นสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อความรุ่งเรือง สร้างสันติและมิตรภาพระหว่างช่องแคบไต้หวันเพื่อให้บรรลุผลเป็นรูปธรรมในความร่วมมือในด้านต่างๆ กับจีน" อดีตรองประธานาธิบดีเหลียน จั้น แห่งพรรคก๊กมินตั๋งเผย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติลดลง "พวกเราต้องอภิปรายกันเกี่ยวกับเรื่องการยกมือลงคะแนนเสียงเลือกผู้นำให้กับหม่า อิงจิ่วเพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อไป" เหลียนย้ำ
ตั้งแต่เช้าวันนี้ หม่า อิงจิ่วก็รู้สึกมั่นอกมั่นใจว่าตนเองจะได้รับชัยชนะ
"ผมเห็นแสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องมา" หม่าเผยกับนักข่าวในขณะที่เขากำลังลงคะแนนเสียง ณ หน่วยเลือกตั้งในโบสถ์แห่งหนึ่งของกรุงไทเป หลังจากฝนที่ตกพรำ ๆ กำลังซาเม็ด
ฝ่ายนางสาวไช่ อิงเหวินแห่งฝ่ายค้านฯ ก็ดูมีความมั่นใจ แต่ทว่าเธอสูญเสียฐานผู้สนับสนุนให้กับหม่า หลังจากเธอชูประเด็นแข็งขันในการรณรงค์หาเสียง ทำให้หลายคนคิดว่า ไช่ไม่มีแนวโน้มที่จะผูกสัมพันธ์บูรณาการทางเศรษฐกิจกับจีนเลย
พื้นเพเดิมของพรรคดีพีพีคือต้องการให้ไต้หวันยืนหยัดมีอิสรภาพจากจีน ดังนั้นนโยบายต่อจีนจึงมีแต่ความโกรธเกรี้ยว ฝ่ายจีนก็มองว่าไต้หวันเป็นเพียงมณฑลหนึ่งของจีนเท่านั้น และมองว่าการที่สหรัฐฯขายอาวุธทางการทหารให้กับไต้หวันนั้นถือเป็นการฉีกหน้าจีนและทำให้สัมพันธ์จีน-สหรัฐฯต้องมัวหม่นไปด้วย
ภายใต้การบริหารงานจีนคณะชาติพรรคก๊กมินตั๋งของหม่า ที่มีนโยบายผ่อนคลายความตึงเครียดกับจีน ทำให้สองฝ่ายมีข้อตกลงทางเศรษฐกิจใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยไต้หวันลั่นสัญญาว่าจะไม่ประกาศเอกราช แต่ก็ไม่มีการรวมชาติด้วย
ชัยชนะของหม่าถือว่าทำให้สัมพันธ์ไต้หวัน-สหรัฐฯเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งสหรัฐฯเองก็จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้เช่นกัน
การเลือกตั้งราบรื่น
สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้งวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่เหมือนกับเมื่อปี 2539 ที่จีนนำขีปนาวุธเข้าสู่น่านน้ำห่างจากเกาะไต้หวันไม่มาก ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีทางตรงครั้งแรกของไต้หวัน ครั้งนั้นทำให้จีนได้เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างปฏิปักษ์อันจะส่งผลให้ฐานเสียงของพรรคดีพีพีเข้มแข็งขึ้น
สื่อท้องถิ่นไต้หวันเผยว่า ประชาชนไต้หวันเกือบ 200,000 คนเดินทางจากต่างประเทศกลับภูมิลำเนาเพื่อการเลือกตั้ง ส่งผลให้บรรยากาศการเลือกตั้งเต็มไปด้วยผู้คนแออัดยัดเยียด และเพื่อช่วยให้หม่า อิงจิ่วได้รับชัยชนะต่อไปบรรดาผู้ประกอบการไต้หวันเดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่มาลงคะแนน เพื่อให้นโยบายสัมพันธ์สองฝ่ายคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งหม่า และไช่เป็นอดีตนักวิชาการด้านกฎหมาย และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากฮาร์วาร์ด และแอลเอสอี ไช่เป็นสตรีคนแรกที่ลงแข่งเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน เธอชูประเด็นมาตรฐานการครองชีพ และเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่หม่า เน้นนโยบายญาติดีกับจีน
"ครั้งนี้หม่าสูญเสียฐานเสียงไปมากก็จริง แต่คนที่ไม่พอใจหม่าก็ยังมีจำนวนไม่มากพอที่จะทำให้เขาตกเก้าอี้" หลัว เหวินจยา อดีตวุฒิสมาชิกพรรคดีพีพีเผย
ฝ่ายผู้ชิงเก้าอี้อีกคน นายซ่ง ฉู่อี้ว์ หรือเจมส์ ซ่งได้คะแนนรั้งท้ายกินสัดส่วนอยู่ที่เพียง 2.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นักวิเคราะห์เชื่อว่าชัยชนะของหม่าจะช่วยฟื้นตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์ของไต้หวันขึ้นมาในระยะสั้น ๆ หลังจากเปิดตลาดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า การสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนจะทำให้ไต้หวันต้องพึ่งพาการส่งออกสินค้ามากขึ้น และนั่นจะทำให้ไต้หวันตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงขาลง
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวข้องการเลือกตั้งไต้หวัน 2555
ผู้นำสหรัฐฯเชียร์ใคร เป็นประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่
นักธุรกิจไต้หวันในจีนแห่กลับบ้าน เลือกตั้งประมุขเกาะคนใหม่
สามผู้ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีไต้หวัน 2555"
ไช่ อิงเหวิน" นารีขี่ม้าชิงเก้าอี้ผู้นำไต้หวันคนแรก
อดีตปธน.ไต้หวัน “หลี่ เติงฮุย” หนุนฝ่ายค้านดีพีพีในการเลือกตั้งปธน.
ศึกชิงเก้าอี้ปธน.ไต้หวัน ชี้ ปัจจัยชนะเป็นเรื่องศก. ไม่ใช่ “จีน”