เอเยนซี - จีนได้ส่งเรือตรวจการณ์ลำใหญ่สุดสู่ทะเลจีนตะวันออก เพื่อคุ้มกันบริเวณน่านน้ำ พร้อมประกาศสิทธิของจีน อย่างไรก็ตามปฏิบัติการครั้งนี้อาจก่อความตึงเครียดเกี่ยวกับปัญหาพิพาทน่านน้ำทางทะเลให้เพิ่มขึ้นก็เป็นได้
สื่อจีนรายงาน (14 ธ.ค.) จีนได้แสดงท่าตอบทีโต้เพื่อนบ้านอันได้แก่ญี่ปุ่นและไต้หวันอีกครั้ง เกี่ยวกับกรณีปัญหาพิพาทหมู่เกาะและน่านน้ำทางทะเลที่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าเป็นของใคร ซึ่งก็คือเกาะเซนกากุในภาษาญี่ปุ่นหรือเตี้ยวอี๋ว์ในภาษาจีน ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นพื้นที่น่านน้ำในอาณาบริเวณของตน
ญี่ปุ่นและไต้หวันอ้างอธิปไตยเหนือบริเวณดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งรุ่มรวยทรัพยากรธรรมชาติจำพวกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
สำนักข่าวโกลบอลไทมส์อ้างอิงแหล่งข่าวจากสำนักงานใหญ่บังคับใช้กฎหมายทางทะเล สาขาทะเลจีนตะวันออก รายงานว่า เรือไห่เจียน 50 ระวาง 3,000 ตันเริ่มต้นล่องสมุทรเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.)
หลิว เจินต้ง ผู้อำนวยการกองเรือเพื่อการสำรวจทางทะเลแห่งทะเลจีนตะวันออก เผยว่า เรือดังกล่าวจะล่องไปยังโขดหินรื่อเซี่ยง โขดหินซูเหยียน และบริเวณแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติชุนเสี่ยวและผิงหู ซึ่งเป็นแหล่งที่จีนและญี่ปุ่นร่วมกันพัฒนาอยู่ในขณะนี้
รายงานระบุว่า เรือตรวจการณ์ของจีนลำนี้ติดตั้งอุปกรณ์ก้าวหน้าที่สุดด้วยเทคโนโลยีทางทะเลของจีน และสามารถให้เฮลิคอปเตอร์ของจีน Z9A ลงจอดได้
นอกจากนี้ ไห่เจียนลำนี้จะมีปฏิบัติการร่วมกับไห่เจียน 66 ระวาง 1,350 ตัน ซึ่งจีนได้ระดมออกมาในเดือนมี.ค.
ขณะนี้ข้อพิพาทเกี่ยวพับพื้นที่ทางทะเล ทั้งทะเลจีนตะวันออกและจีนใต้กำลังเข้มข้น เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีนเรียกร้องให้ทัพเรือจีนเตรียมพร้อมรบ ขณะที่สหรัฐฯก็ลั่นว่าจะเข้ามาเป็นใหญ่ในแปซิฟิก
หลายประเทศในอาเซียนต่างอ้างตนเป็นเจ้าของพื้นที่บางส่วนของทะเลจีนใต้ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ ขณะที่จีนนั้นอ้างว่าเป็นของจีนทั้งหมด
ขณะนี้ความขัดแย้งระหว่างจีนกับเกาหลีใต้ก็ปะทุขึ้นมาอีกในน่านน้ำทะเลเหลือง ซึ่งยามฝั่งของเกาหลีใต้ถูกประมงจีนแทงเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการประท้วงหน้าสถานทูตจีนกรุงโซลอย่างหนัก.