xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเวินโจวแห่ช้อปบ้านในสิงคโปร์เหมือนซื้อผักกาดขาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หนึ่งในห้องชุดเล่นระดับออกแบบสุดหรูชั้นบนสุดของRitz-Carlton ในสิงคโปร์ ถูกชาวแผ่นดินใหญ่ซื้อไปในราคา 200 ล้านหยวน (ภาพ เอเจนซี)
ในช่วงกว่าปีมานี้ ชาวเวินโจวแห่งมณฑลเจ้อเจียง ได้สร้างสถิติในตลาดการซื้อขายบ้านที่สิงคโปร์ โดยเฉพาะบ้านหรือห้องชุดหรู ถึงขนาดนายหน้าขายบ้านผู้หนึ่งในแดนลอดช่อง บอกว่า “ชาวเวินโจวแห่ซื้อบ้านในสิงคโปร์กันง่ายๆ ราวกับซื้อผักกาดขาว”

จากตัวเลขของสำนักงานสถิติสิงคโปร์ ระบุว่าในปี 2554 นี้ กลุ่มชาวจีนได้กลายเป็นนักลงทุนในตลาดบ้านสิงคโปร์อันดับหนึ่ง แซงหน้ากลุ่มนักลงทุนจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยกลุ่มลูกค้าชาวจีนส่วนใหญ่มาจากเวินโจว เมืองศูนย์กลางการผลิตแห่งชายฝั่งตะวันออกอันมั่งคั่งของประเทศจีน

กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ KOP Properties นาย เย่ ตัน กล่าวถึงปัจจัยที่ดึงดูดชาวจีนมาซื้อบ้านสิงคโปร์ ได้แก่ นโยบายจำกัดการซื้อบ้านในประเทศจีน สิงคโปร์เป็นสังคมคนจีนจึงไม่มีอุปสรรคด้านภาษา นโยบายสินเชื่อและนโยบายการโยกย้ายถิ่นที่อยู่ที่ผ่อนปรนของรัฐบาลสิงคโปร์

KOP Properties ผู้พัฒนาโครงการของแมนชั่นหรูของ Ritz-Carlton ในสิงคโปร์ เผยว่าตั้งแต่เปิดโครงการฯในปี 2551 สามารถขายห้องชุดไปได้ 40 เปอร์เซนต์ ผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยมาจากแผ่นดินใหญ่ และหนึ่งในห้องชุดที่ออกแบบเล่นระดับตกแต่งสุดหรูบนชั้นบนสุด ก็ถูกชาวจีนซื้อไป ในราคา 200 ล้านหยวน

การซื้อบ้านในสิงคโปร์ของกลุ่มชาวจีน ก็ได้กลายเป็นกระแสร้อนที่โจษจันอยู่ในเวลานี้

เอมี่ ชาวจีนผู้อพยพมาตั้งรกรากในสิงคโปร์ บ้านเกิดของเธออยู่ที่รุ่ยอัน เมืองเวินโจว เข้ามาทำธุรกิจการค้าในแดนลอดช่องเกือบ 10 ปี แต่แล้วจับพลัดจับผลูเธอก็ได้กลายเป็นนายหน้าซื้อขายบ้านมือสมัครเล่น “กลุ่มเพื่อนและคนที่รู้จักมักคุ้นกัน ที่มาซื้อบ้านในสิงคโปร์ขณะนี้ ทำให้ฉันนึกถึงกระแสแห่ซื้อบ้านในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2543”

เอมี่ กล่าวว่ากระแสที่ชาวเวินโจวซื้อบ้านในสิงคโปร์เริ่มอุ่นเครื่องจากครึ่งปีหลังของปี 2553 กระแสฯดังกล่าวพุ่งทะยานขึ้นในปี 2554

เอมี่ เล่าว่าเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาสาวเวินโจว 3 คน เดินทางมายังสิงคโปร์ 5 วัน ก็ตัดสินใจซื้อห้องชุด 3 ห้อง ของโครงการ Horizon Residences มูลค่าการซื้อขาย มากกว่า 30 ล้านหยวน และมูลค่าเงินดาวน์ที่พวกเธอจ่าย เท่ากับ 7 ล้านหยวน

“ตอนที่ไปดูห้อง เจ้าหน้าที่โครงการเห็นผู้ซื้อเป็นสาววัยเยาว์เช่นนั้น ก็เป็นกังวล จึงแนะนำให้หาผู้ซื้อร่วม แต่พวกเธอได้แสดงถึงกำลังซื้อให้เห็นจะจะ จนเจ้าหน้าที่หน้าแตกไป”

เถ้าแก่เนี้ยยังสาวทั้งสามคนนี้ เป็นเจ้าของบริษัทการค้าในเวินโจว เมื่อปลายปีที่แล้วพวกเธอได้ยินเสียงโจษจันเกี่ยวกับการซื้อบ้านในสิงคโปร์จากเพื่อนๆ ก็ไม่รู้สึกสนใจเท่าใดนัก เพียงคิดมาเดินๆดูเท่านั้น ต่อเมื่อมาถึงสิงคโปร์ ได้เห็นบ้านหรือห้องชุดเข้าเท่านั้นเอง ก็ตัดสินซื้อในทันที

“เขตพื้นที่เล็กๆ มีสระว่ายน้ำถึง 13 แห่ง มีสวนร่มรื่น ทั้งราคาและดอกเบี้ยเงินกู้ตลอดจนปัจจัยอื่นๆดึงดูดใจมาก ราคาขายต่อตารางเมตร เท่ากับ 50,000 หยวน จ่ายเงินดาวน์แค่ 20 เปอร์เซนต์ ดอกเบี้ยเงินกู้ต่อปีไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์...”

ชาวเวินโจวจำนวนมากยังฉกฉวยโอกาสขณะที่มาท่องเที่ยวสิงคโปร์กับคณะนักท่องเที่ยว แอบวิ่งออกมาซื้อบ้าน

เอมี่ ยังเล่าต่อว่า ตั้งแต่ปีนี้มาเกิดปรากฏการณ์ใหม่ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มากับคณะทัวร์ แอบวิ่งออกมาซื้อบ้าน “ขนาดบอกว่าช่วงสองปีมานี้ ราคาบ้านในสิงคโปร์สูงขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่อาจลดทอนกระแสแห่ซื้อบ้านที่นั่น พวกเขากลับหัวเราะหาว่าฉันตกข้อมูลไปเสียแล้ว”

เมื่อเดือนเม.ย. เพื่อนชาวเวินโจวของเอมี่ แซ่ ไต้ มาท่องเที่ยวสิงคโปร์กับคณะทัวร์ ระหว่างเดินทางเขาได้ฟังเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ จึงได้เปลี่ยนแผนเดินทางท่องเที่ยวโดยในวันสุดท้ายขอมา “ดูบ้าน” แทน และก็ได้ซื้อบ้าน 1 หลัง ติดมือกลับบ้าน

นายไต้เปิดกิจการขนาดเล็กในรุ่ยอัน เขาเล่าถึงการลงทุนซื้อบ้านในต่างประเทศ “ผมมักได้ยินเรื่องราวที่ชาวเวินโจวไปซื้อบ้านในเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อเมริกา และที่อื่นๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องของพวกเถ้าแก่ใหญ่ ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่อยู่ในความคิดของผม แต่เมื่อได้มายืนหน้าโครงการฯในสิงคโปร์ ก็เชื่อมั่นในทันทีว่า ผมก็สามารถซื้อบ้านในต่างประเทศได้เช่นกัน”

นายไต้ เล่าถึงการตัดสินใจของเขา ว่า “ตอนนั้น ผมคิดคำนวณ หากซื้อบ้านในเขตที่เจริญๆของสิงคโปร์ อย่างศูนย์กลางการเงิน ในราคา 10 ล้านหยวน อาจมีรายได้จากค่าเช่าต่อปี สูงถึง 4 แสน ถึง 5 แสนหยวน กำไร 4 เปอร์เซนต์ ถึง 5 เปอร์เซนต์”

กรณีของนายไต้ เป็นกลุ่มผู้ซื้อที่ “ไม่คิดซื้อ” มาก่อน เอมี่ได้คิดหาเหตุผล อะไรทำให้พวกเขาซื้อสินค้าบ้านในสิงคโปร์กันง่ายๆ ราวกับซื้อผักกาดเช่นนี้?” และเธอก็ได้คำตอบแก่ตัวเอง ว่าเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่ดี อัตราผลตอบแทนที่สูง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำ ก็คุ้มค่าในการลงทุนแล้ว

และขณะนี้ เอมี่กังวลว่า “บ้านในสิงคโปร์จะถูกกว้านซื้อจนหมด อย่างไรก็ตาม ปีนี้รัฐบาลสงคโปร์ก็ได้เข้มงวดขยายเงื่อนไขการมาเรียนของชาวต่างชาติ และการโยกย้ายที่อยู่ และสิงคโปร์ก็เป็นประเทศเล็ก กระแสฯที่ร้อนแรงที่เป็นอยู่นี้ ฉันคาดว่าคงเป็นอยู่ไม่นาน...” เอมี่กล่าว

แปลเรียบเรียงจากเป่ยจิงนิวส์ /หยังจื่อ นิวส์
กำลังโหลดความคิดเห็น