เดอะไชน่าโพสต์ - ตลาดอสังหาริมทรัพย์แดนมังกรเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง นักวิเคราะห์เตือนอาจส่งผลกระทบต่อตลาดค้าโภคภัณฑ์โลก
ตลาดซื้อขายบ้านและที่ดินในจีนซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากมาตรการผ่อนคลายความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่รัฐบาลปักกิ่งประกาศในช่วงที่ผ่านมาไม่นานส่งผลให้ความต้องการซื้อบ้านลดลงทั่วประเทศ มาตรการเหล่านี้ได้แก่การห้ามซื้อบ้านหลังที่สองในเมืองต่าง ๆรวมทั้งกรุงปักกิ่ง การเพิ่มจำนวนเงินวางมัดจำขั้นต่ำสุด และทดลองจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ในบางเมือง
นอกจากนั้น รัฐบาลจีนยังขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจำกัดควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ เพื่อควบคุมภาวะเงินเพ้อ ที่พุ่งขึ้น และฉุดราคาบ้าน ที่แพงลิ่ว ให้ลดลงมาตามราคา ที่เป็นจริง นโยบายดังกล่าวทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาขาดแหล่งเงินทุน
ด้านหนังสือพิมพ์ปักกิ่งนิวส์เดลีของทางการจีนรายงาน โดยอ้างตัวเลขของทางการเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) ระบุ ขณะนี้มีบ้านกว่า 120,000 หลังในตลาดกรุงปักกิ่งยังขายไม่ออก นับเป็นจำนวนสูงที่สุดในรอบ 29 เดือน ที่ผ่านมา
มิหนำซ้ำถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังดับความหวัง ที่ว่าอาจมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยนายเวินระบุว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ และราคาที่อาศัยควรกลับสู่ "ระดับที่สมเหตุผล"ได้แล้ว
นายเหยา เว่ย นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารโซซิเอเต้ เจเนอราลในฮ่องกงระบุว่า เมื่อดูเศรษฐกิจระดับโลก ผลกระทบหนักที่สุดจะตกอยู่ที่ภาคสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากยอดการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้าง เช่น ซีเมนต์ เหล็กกล้า แท่งคอนกรีต อะลูมิเนียมจะกระทบกระเทือนอย่างแน่นอน
จากรายงาน ที่พิมพ์เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อนของโฮมลิงก์ไชน่า (Home Link China) ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนดำเนินการธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของจีนระบุว่า บริษัทตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ 177 รายในกรุงปักกิ่งต้องปิดกิจการไปเมื่อเดือนต.ค. หลังจากยอดขายดิ่งลง
ส่วนที่นครเซี่ยงไฮ้ เกิดกรณีผู้ซื้อบ้านหลายร้อยคนยกขบวนประท้วงหลายระลอกมาตั้งแต่เดือนต.ค. เนื่องจากไม่พอใจที่โครงการใหม่บางโครงการ เจ้าของโครงการได้หั่นราคาบ้านลงถูกกว่าที่พวกตนเคยซื้ออย่างมาก
นักพัฒนาโครงการและบริษัทตัวแทนจำหน่ายยิ่งขายที่อยู่อาศัยได้ลำบากขึ้น เมื่อภาวะขาลงทำให้ผู้มีแผนจะซื้อบ้านพากันชะลอควักเงินในกระเป๋า เพื่อรอให้ราคาถูกลงมาอีก บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งในเมืองเยว์ชิง ทางภาคตะวันออกของจีนถึงขนาดเสนอให้รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิวคันใหม่ ซึ่งราคาตกราว 3 แสนหยวนเป็นของแถมสำหรับผู้ซื้อห้องชุด 150 รายแรกในโครงการที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ ส่วนเจ้าของโครงการรายอื่นก็เสนอสิ่งจูงใจอื่น ๆ เช่น ให้เครื่องปรับอาการ และบริการโรงจอดรถฟรี
นายจาง จื้อเหว่ย นักวิเคราะห์ของโนมูระซีเคียวริตี้ส์ในฮ่องกงคาดว่า ผลกระทบในเชิงลบจะดำเนินต่อไปอีกนานหลายเดือน และการลดลงของราคาบ้านเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส บริษัทจัดอันดับชั้นนำของโลกคาดการณ์เมื่อเดือนต.ค.ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีนจะลดลงร้อยละ 10 ทั่วประเทศในช่วงปีหน้า แต่นายเหยามองว่า น่าจะตกลงร้อยละ 15 และภาวะขาลงของตลาดจะลากยาวนานกว่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี2551-2552 เนื่องจากขณะนี้ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (635,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) คอยโอบอุ้มเหมือนครั้งนั้น
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินโลก ประกอบกับนโยบายให้ธนาคารปล่อยสินเชื่ออย่างไม่อั้นของรัฐบาลมีส่วนหนุนให้ราคาที่อยู่อาศัยพุ่งขึ้นในช่วงปี 2552-2553
นักวิเคราะห์ระบุว่า หากภาวะขาลงในตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการยืนยันในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ย่อมจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และภาคการก่อสร้างอันมหึมาของจีน ตลอดจนอีกหลายอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่นสินค้าบริโภค เครื่องประดับตกแต่ง และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังมองในแง่ดีว่า ความต้องการจับจ่ายซื้อของที่แข็งแกร่งในประเทศ ซึ่งมีการขยายเมือง และการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว คาดว่าน่าจะช่วยผ่อนคลายผลกระทบไปได้บ้าง