เศรษฐีจีนน่ายกย่อง รวยแล้วไม่ลืมคนจน

ไชน่าเดลี - งานคอนเสิร์ตในมณฑลกุ้ยโจวเมื่อวันอาทิตย์ (25 ก.ย.) คาดว่าจะมีผู้มาชมราว 6 พันคน แต่เอาเข้าจริงแล้ว มีมากกว่า 2 หมื่นคน

นักร้องผู้ทำให้ยอดขายตั๋วพุ่งกระฉูดเป็นชายวัย 43 ปี นามว่า เฉิน กวงเปียว หาใช่ร็อกสตาร์ ทว่าเขาเป็นนักธุรกิจ และเศรษฐีใจบุญชื่อดัง

แฟน ๆ ของเฉินเดินทางมาจากซินเจียง กานซู และมองโกเลียใน

หลังจากคอนเสิร์ตเพลงป๊อบ 2 ชั่วโมงปิดฉากลง เฉินจัดการมอบหมูกว่า 2 พันตัว แกะอีก 1 พันตัว และรถแทร็กเตอร์ 113 คันให้แก่ทางการ เพื่อแจกจ่ายแก่เกษตรกร ที่ขาดแคลน

เฉินคาดว่า ที่ผู้คนแห่กันมาชมคอนเสิร์ตก็เพราะสาเหตุนี้

“ลูกหมูกับลูกแกะทุกตัวประดับดอกไม้สีแดงสีเขียว” เฉินกล่าวอย่างมีความสุข

“ผมหวังว่าชาวบ้านจะมีลูกแกะลูกหมูที่บ้านในอีกไม่ช้า”

เฉินจะตรวจสอบการแจกจ่ายเหล่านี้ในอีก 1 เดือนข้างหน้า

นี่คือปรากฏการณ์ ที่กำลังเกิดขึ้นบนแดนมังกร โดยภายหลังจากเศรษฐกิจจีนเฟื่องฟูมาตลอดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา นักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จหลายคนกำลังหาวิธีการแบ่งปันเงินทอง ที่เหลือกินเหลือใช้ ไปถึงมือของผู้ที่ด้อยโอกาส

เมื่อเดือนมิ.ย. จง ฉิงโหว ซึ่งรวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ในจีนจากการจัดอันดับของฟอร์บส์ไชน่าประกาศจัดตั้งมูลนิธิของตระกูลขึ้นมาด้วยเงินทุนเริ่มแรกจำนวนราว 2 ล้านหยวน (309,000 ดอลลาร์)

มันอาจเป็นเงินขี้ปะติ๋ว หากเปรียบกับทรัพยสิน ที่เขาครอบครองทั้งสิ้น 5,900 ล้านดอลลาร์ แต่จงผู้ก่อตั้งหวาฮาฮากรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทน้ำดื่มยักษ์ใหญ่สุดรายหนึ่งของจีนยังระบุว่า เขาจะกันเงินส่วนหนึ่งจากเงินโบนัสประจำปี ซึ่งเขาได้รับจากบริษัท 150 รายในกลุ่มหวาฮาฮา เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับมูลนิธินี้

การก่อตั้งมูลนิธิของตระกูลถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของเศรษฐีจง วัย 66 ปี โดยทางมูลนิธิจะจัดมอบรางวัล ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เหมือนรางวัลโนเบล เพื่อส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้น ยังให้โอกาสด้านการศึกษาแก่คนยากจนอีกด้วย

มหาเศรษฐีจง ซึ่งเป็นชาวเมืองหังโจว และเจ้าของบริษัทรายใหญ่อีกหลายคนในมณฑลเจ้อเจียงปฏิเสธคำเชิญร่วมงานดินเนอร์การกุศล ที่วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ และบิลล์ เกตส์สองมหาเศรษฐีชาวอเมริกันเดินทางมาจัดบนแดนมังกรเมื่อเดือนก.ย. เมื่อปีที่แล้ว เพื่อชักชวนให้พวกเศรษฐีใหม่ในเมืองจีนหันมาบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือสังคม

แม้ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อแขก แต่จงยอมรับเองว่ามิได้ไปร่วมงาน

จากนั้นมา จงก็เป็นเศรษฐีพันล้านคนแรกในเมืองจีน ที่ทุ่มเทการบริจาคอย่างเต็มที่

ด้วยยอดขายน้ำ ซึ่งทำลายสถิติได้มากถึงนาทีละ 38,000 ขวด จงจะช่วยเหลือสังคมลักษณะเดียวกับธุรกิจเครื่องดื่ม กล่าวคือช่วยดับกระหาย เมื่อจำเป็น ให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเหมือนสายน้ำไหล และทำอย่างเงียบ ๆ ไม่เด่นดัง “เหมือนสายฝนในยามค่ำคืนของฤดูใบไม้ผลิ” เขาอ้างถึงกวีนิพนธ์บทหนึ่งของจีน

วิธีการช่วยเหลือสังคมของจง ซึ่งเริ่มจากการมอบชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีแก่ลูกจ้างกว่า 3 หมื่นคนในบริษัทของเขาก่อน จากนั้น หากเป็นไปได้ จึงค่อยสร้างงานให้แก่ผู้คนมากขึ้นนั้น นายเจิ้ง หมินอี้ว์ ผู้อำนวยการของสำนักงานอุตสากรรมและการค้าแห่งเจ้อเจียงมองว่า เป็นวิธีการ ที่นำไปปฏิบัติใช้ได้ ขณะที่วิธีแจกเงินของเศรษฐีเฉิน กวงเปียวนั้น เป็นเรื่องน่าชื่นชม แต่ไม่ควรถือเป็นมาตรฐานในสังคม ที่คนอื่น ๆ ต้องทำตาม

ด้านแจ๊ก หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba เว็บไซต์สำหรับการจับจ่ายซื้อของที่ใหญ่สุดในโลก เห็นด้วยว่า การทำการกุศลไม่ควรทำตัวเป็นจุดเด่น และเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกส่วนบุคคล หม่าเป็นมหาเศรษฐีนักธุรกิจคนเดียวของมณฑลเจ้อเจียง ที่เข้าร่วมงานดินเน่อร์นั้น

อย่างไรก็ตาม เศรษฐีเฉิน กวงเปียว ยืนยันว่า สิ่งที่เขาทำไม่ว่าจะทำอย่างเงียบ ๆ หรือเด่นดัง แต่มันเป็นสิ่งที่เขาได้ลงมือทำแล้ว โดยการกุศลต้องทำอย่างต่อเนื่อง และลงมือทำจริง ๆ

“เป้าหมายสูงสุดของผมก็คือดึงดูดให้ผู้คนช่วยเหลือคนอื่นมากขึ้น” เฉินกล่าว

“ นักธุรกิจชาวเมืองกุ้ยหยางคนหนึ่งมาหาผมเมื่อเช้า บอกว่า เขาจะขายรถบีเอ็มดับบลิว เพื่อนำเงินมาซื้อรถจักรยานสัก 1,000 คันให้คนในท้องถิ่น” เศรษฐีเฉินเล่า ภายหลังการจัดงานคอนเสิร์ต