พญามังกรกลายเป็นตัวตลก เมื่อบริจาครถรับส่งนักเรียนให้มาซีโดเนีย

ASTVผู้จัดการออนไลน์--“จีนบริจาครถรับส่งนักเรียนแก่รัฐบาลเมซีโดเนีย” เป็นข่าวระหว่างประเทศชิ้นเล็กๆที่ดูไม่น่าสนใจนัก แต่กลับกลายเป็นข่าวฮือฮาในสังคมออนไลน์แดนมังกร ชาวเน็ตจีนพากันระเบิดเสียงหัวเราะเย้ยหยันสนั่นทั่วประเทศ

เอกอัครราชทูตจีนประจำมาซีโดเนียได้ทำพิธีส่งมอบรถรับส่งนักเรียนคันโตดูดีน่านั่ง จำนวน 23 คัน เป็นของขวัญให้แก่มาซีโดเนีย ชาติเล็กๆที่ยากจนในยุโรปตะวันออกเมื่อวันศุกร์(25 พ.ย.) รัฐบาลมาซีโดเนียยังได้แถลงในเว็บไซต์ ว่า “รถรับส่งนักเรียนที่รัฐบาลจีนบริจาคให้ แต่ละคันมีขนาด 35 ที่นั่ง แบบรถบรรลุมาตรฐานความลปอดภัยทุกประการ รถฯเหล่านี้จะถูกส่งมอบให้แก่โรงเรียนประถมศึกษาตามเขตชนบทที่ห่างไกล...”

แต่ข่าวชิ้นนี้กลับได้เสียดแทงจิตใจของชาวเน็ตจีน ที่กำลังฮึดฮัดต่อเรื่องความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียน นับจากเกิดโศกนาฏกรรมกับเด็กตัวน้อยๆจากกรณีที่รถรับส่งนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเสี่ยวปั๋ว ในอำเภอเจิงหนิง เมืองชิ่งหยัง มณฑลกันซู่ ชนกับรถบรรทุกใหญ่ในเช้าวันที่ 16 พ.ย. ผู้โดยสาร 21 คน ต้องสังเวยชีวิตไปอย่างอนาถ โดยเป็นเด็กอนุบาล 19 คน ผู้ใหญ่สองคน และอีก 43 คน ได้รับบาดเจ็บ

ที่น่าอนาถยิ่งกว่าก็คือ รถรับส่งเด็กนักเรียนคันนี้ เป็นรถโดยสารขนาดเล็ก ที่ควรบรรทุกผู้โดยสาร 9 คน ที่ถูกดัดแปลงมาเป็นรถรับส่งนักเรียน แต่ปรากฎว่ามีผู้โดยสารถึง 64 คน! บนรถเจ้ากรรมคันนี้ตอนประสานกับรถบรรทุก จากการไต่สวนสาเหตุขั้นต้นระบุว่า รถโรงเรียนได้บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กำหนด ในตอนเกิดเหตุฯตอนเช้าวันที่ 16 พ.ย. สภาพอากาศมีหมอกลงหนา รถเกิดขัดข้องถอยหลังอย่างรวดเร็วมาก และไปชนกับรถบรรทุกคันใหญ่

ชาวเน็ตจีนสะเทือนใจกับภาพอุบัติเหตุที่ถูกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ และคลื่นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาความปลอดภัยของเด็กนักเรียนตัวน้อยๆในจีนที่หมกหมมหมกเม็ดมานานปีแล้ว ก็โถมซัดรัฐบาลกลาง ทั้งปัญหารถโรงเรียนที่บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กำหนด การดัดแปลงรถต่างๆมาเป็นรถรับส่งนักเรียนอย่างผิดกฎหมาย ปัญหาความไม่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการจัดการด้านความปลอดภัยของรถโรงเรียน ฯลฯ

กระแสข่าวฯนี้ยังไม่ทันสางซา สื่อจีนก็รายงานอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนที่บรรทุกผู้โดยสาร 39 คน ในตำบลเป่าซัน เมืองเฟิ่งเฉิง มณฑลเหลียวหนิง เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำเช้าวันที่ 26 พ.ย. อุบัติเหตุฯดังกล่าวทำให้เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ 35 คน โดยมีเด็กหญิงวัย 7 ขวบ จำนวนสองคน ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างสาหัส สำนักข่าวซินหวา รายงานการตรวจสอบสาเหตุอุบัติเหตุชั้นต้น ระบุเป็นเพราะสภาพอากาศ และถนนลื่น

เมื่อวันอาทิตย์(27 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่า เข้าร่วมการประชุมระดับชาติว่าการสวัสดิภาพผู้หญิงของเด็ก จึงได้ถือโอกาสโต้ตอบกระแสโจมตีเรื่องความปลอดภัยของเด็กนักเรียน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการรับผิดชอบกิจการด้านกฎหมาย สังกัดคณะมุขมนตรีจีน ยกเครื่องมาตรการความปลอดภัยรถโรงเรียนโดยร่างกฎข้อบังคับใหม่ กำหนดเส้นตายภายใน 1 เดือนนี้! รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจะแบ่งกันรับผิดชอบราคาในการปรับปรุงรถโรงเรียนให้ได้มาตรฐาน

สยง ปิงฉี รองผู้อำนวยการสถาบันการวิจัยด้านการศึกษาแห่งศตวรรษที่ 21 (Century Education Research Institute) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ติดตามด้านการศึกษาในแผ่นดินใหญ่ ชี้ว่ากฎข้อบังคับใหม่ที่นายกฯเวินจะผลักดันออกมานั้น จะยิ่งเพิ่มภาระแก่รัฐบาลท้องถิ่นในการจัดการปัญหารถโรงเรียน

“รัฐบาลต้องช่วยเหลือเขตต่างๆในภาคตะวันตกที่ยากไร้ โดยอาจจัดตั้งกองทุนพิเศษสำหรับรถโรงเรียน”

สองวันต่อมา ก็มีรายงานข่าวรถมินิแวนของโรงเรียนอนุบาลในอำเภอผูหยัง มณฑลเหอหนัน ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นนักเรียน 15 คน และครู 1 คน ได้ประสานงากับรถบรรทุกในบ่ายวันที่ 29 พ.ย. อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก 4 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 6 คน

เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงในผูหยังบอกกับผู้สื่อข่าวจีนว่า “รถโรงเรียนเจ้ากรรมคันนี้ บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมากเกิน โดยควรมีผู้โดยสารนั่ง 9 คน แต่รถคันนี้ กลับมีผู้โดยสารอัดแน่นกว่า 10 คน ในแต่ละวัน ดูน่ากลัวมาก”

รัฐบาลจีนกลายเป็นตัวตลกแห่งยุคอินเทอร์เน็ต
แถลงการณ์การบริจาครถโรงเรียนแก่มาซีโดเนียยังปรากฎบนเว็บไซต์ของสถาทูตจีนประจำมาซีโดเนียในวันจันทร์(29 พ.ย.) แต่แถลงการณ์ฉบับเดียวกันนี้ได้ถูกลบจากเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศจีนแล้ว

ในขณะที่ข่าวการบริจาคฯดังกล่าวได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขรม ในวันจันทร์(28 พ.ย.) มีข้อเขียนแสดงความคิดเห็น 500,000 ชิ้น โพสต์บนซีน่าเวยปั๋ว ซึ่งเวยปั๋วของบริษัทซีน่า คอร์ปนี้เป็นบริการคล้ายทวิตเตอร์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในจีน โดยชาวเน็ตหลายคนดูจะพร้อมใจกันประสานเสียงถามดังๆว่า รัฐบาลจีนยังสามารถบริจาคให้แก่ต่างชาติได้อีกหรือ ขณะที่โรงเรียนในจีนเต็มไปด้วยปัญหาการสัญจร?

นอกจากนี้ ข้อความแสดงความเห็นยอดฮิต ที่ชาวเน็ตหลายพันคนพากันโพสต์ต่อ “แม้เราจะยากจน ก็จะไม่ยอมให้เด็กๆมาซีโดเนียขาดการศึกษา แม้เราจะทุกข์ยากลำบาก ก็จะไม่ยอมให้เด็กๆมาซีโดเนียทุกข์ยากลำบาก” นี่คือการล้อเลียนคำขวัญทางการเมืองของรัฐบาลจีนมักกล่าวอ้างอยู่เสมอ คือ “แม้เราจะยากจน ก็จะไม่ยอมให้เด็กๆของเราขาดการศึกษา แม้เราจะทุกข์ยากลำบาก ก็จะไม่ยอมให้เด็กๆของเราทุกข์ยากลำบาก”

โฆษกระทรวงต่างประเทศจีน นาย หง เล่ย มิได้พูดโต้กระแสโกรธเกรี้ยวของขาวเน็ต เพียงแต่กล่าวว่าการส่งมอบรถรับส่งนักเรียนครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงเมื่อปี 2553 และได้กล่าวว่ารัฐบาลจีนได้รับความช่วยเหลือมากมายจากต่างชาติ รวมทั้งจากมาซีโดเนียด้วยในช่วงวิกฤตแผ่นดิยไหวใหญ่ในมณฑลซื่อชวน (หรือเสฉวน)เมื่อปี 2551

แต่จัง หมิง อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยประชาชน เห็นว่าการบริจาคฯนี้เท่ากับเป็นการทรยศต่อประชาชนจีนมากกว่า

เสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้สะท้อนรัฐบาลที่ครองอำนาจเบ็ดเสร็จอย่างจีนมักทำเรื่องสวนกระแสเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน หากเป็นเมื่อ 20 -30 ปีที่ผ่านมา ก็อาจไม่เป็นเรื่องโจษจันเช่นนี้ แต่สำหรับเวลานี้ รัฐบาลจีนต้องมากลายเป็นตัวตลกแห่งยุคอินเทอร์เน็ต .