xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกจีนเดือนต.ค. ต่ำสุดรอบ 8 เดือน แต่มูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นเกินคาด!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แรงงานท่าขนสิ่งสินค้า ในเซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้การส่งออกสินค้าจีนในเดือนต.ค. ลดต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ยังความกังวลเรื่องการขยายตัวเศรษฐกิจทั้งปีของจีน (ภาพรอยเตอร์)
รอยเตอร์/เอเอฟพี - การส่งออกของจีนในเดือน ต.ค.เข้าสู่จุดที่ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าอาจก่อให้เกิดการดึงรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ ฝ่ายการนำเข้านั้นกลับกระโดดขึ้นมากว่าที่คาดหมาย

ตัวเลขจากศุลกากรจีนเผยว่า การส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 15.9 เปอร์เซ็นต์ในเดือนต.ค. ปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 157,490 ล้านเหรียญฯ ซึ่งตกลงมาจากเดือนก.ย. ซึ่งมีมูลค่า 169,700 ล้านเหรียญฯ

ครั้งนี้ถือว่าตกต่ำมากสุดนับแต่เดือนก.พ. ที่การส่งออกลดตกต่ำลง 2.4 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากเศรษฐกิจขาลงของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสินค้าใหญ่สุดของจีน

ตัวเลขการขนส่งสินค้าลงเรือไปขายยังสหภาพยุโรปตกลงมาอยู่ที่มูลค่า 28,740 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนต.ค. จาก 31,610 ล้านเหรียญในเดือนก.ย.

ส่วนตัวเลขการส่งออกไปยังสหรัฐก็ลดลงมาอยู่ที่ 28,600 ล้านเหรียญในเดือนต.ค. เทียบกับเดือนก.ย. ก่อนหน้าอยู่ที่ 30,110 ล้านเหรียญ

ส่วนการนำเข้าในเดือนต.ค. อยู่ที่ 28.7 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 140,46 ล้านเหรียญฯ น้อยเดือนก่อนหน้าที่มีมูลค่า 155,200 ล้านเหรียญ แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่าการคาดการณ์ที่บอกว่าจะอยู่ที่เพียง 23.0 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

สำหรับมูลค่าได้เปรียบดุลการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองนั้น จีนยังคงได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯและสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. 17,000 ล้านเหรียญ จาก14,510 ล้านเหรียญในเดือนก.ย.

อย่างไรก็ตาม อัตราได้เปรียบดุลการค้าของจีนในเดือนต.ค.นั้นถือว่าน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีมูลค่า 24,900 ล้านเหรียญ

ทั้งนี้จีนยังคงกังวลเกี่ยวกับปัญหาการควบคุมเงินเฟ้อ รัฐบาลจีนจึงได้ระดมสารพัดมาตรการคุมราคาสินค้าและราคาอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา โดยสั่งให้ธนาคารสำรองเงินสดไว้ และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อดึงดูดให้คนนำเงินมาฝากมากขึ้น

มาตรการค่อนข้างได้ผลเมื่อเงินเฟ้อชะชอตัวช้าลงในเดือนต.ค. จากเดือนก่อนหน้า ราคาขายอสังหาริมทรัพย์ก็ลดต่ำลงทั่วแผ่นดินจีน ซึ่งส่งผลให้การผลิตในโรงงานห้างร้านต่าง ๆ ชะลอตัวตามไปด้วย

นายกรัฐมนตรีจีน นายเวิน จยาเป่า เมื่อเดือนที่ผ่านมาเผยว่า การควบคุมราคาสินค้าเป็นหัวใจสำคัญ แต่ก็บอกว่ารัฐบาลจะเลือกนโยบายเศรษฐกิจมาใช้ให้เหมาะสมกับช่วงเวลา ซึ่งนำมาซึ่งความคาดหวังว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการกู้ยืม ซึ่งจะช่วยอำนวยให้บรรดาผู้ประกอบการมีแหล่งทุนหมุนเวียนและไม่ประสบปัญหาภาระหนี้นอกระบบ
กำลังโหลดความคิดเห็น