เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานเรียกร้องรัฐบาลแดนมังกร เปิดศึกในทะเลจีนใต้ สั่งสอนเวียดนามและฟิลิปปินส์ให้เข็ดหลาบ และเป็นการเตือนชาติอื่น ๆ ที่เป็นคู่กรณี
หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ ซึ่งอยู่ในเครือของหนังสือพิมพ์พีเพิ่ลส์เดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉบับวันอังคาร (27 ก.ย.) ตีพิมพ์บทวิจารณ์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งระบุว่า ทะเลจีนใต้เป็น “ยุทธภูมิ ที่สมบูรณ์แบบ” สำหรับจีนในการทำสงครามย่อย ๆ กับผู้อ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่แถบนี้
บทความชิ้นดังกล่าวมีชื่อว่า “ เวลาของการใช้กำลังได้มาถึงแล้วในทะเลจีนใต้” (The Time to Use Force Has Arrived in the South China Sea) ผู้เขียนคือนายหลง เถา นักวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการกองทุนพลังงานแห่งจีน (China Energy Fund Committee) ซึ่งเป็นสถาบันศึกษาวิจัยนอกภาครัฐ
นายหลงแจกแจงเหตุผลต่าง ๆ สนับสนุนข้อเสนอของเขา โดยระบุว่า การเข้าสู่สงครามครั้งนี้ จีนจะไม่สูญเสียใด ๆ เลย
“สำหรับจีนแล้ว (สงครามในทะเลจีนใต้) เป็นสนามรบในอุดมคติ ผมเห็นว่าในการรบที่ทะเลจีนใต้ เราควรลดพื้นที่โจมตี และกักขังพวกที่ออกมาเคลื่อนไหวแสดงออกมากที่สุดในตอนนี้ คือฟิลิปปินส์และเวียดนาม” นายหลงระบุ
“เราไม่จำเป็นต้องเลียนแบบการทำสงครามของสหรัฐฯ ในอิรัก อัฟกานิสถาน และลิเบีย นี่เป็นสงครามที่เราจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน เราควรต่อสู้อย่างมีศิลปะ และมีความเป็นไปได้อย่างมากด้วยว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นการสั่งสอนด้านจริยธรรม เอาชนะพวกนั้น (ชาติอื่น ๆ) ด้วยชั้นเชิงกระบวนยุทธ์” เขาเสนอ
นายหลงยังโต้แย้งความเห็นของนักวิชาการจีนบางคน ที่มองว่าจีนควรหลีกเลี่ยงการใช้กำลังทหารในน่านน้ำแห่งนี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ ที่พี่เบิ้มสหรัฐฯ จะเข้าแทรกแซง โดยนายหลงเห็นว่า สหรัฐฯ ยังไม่หลุดออกจากการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ขณะที่ปัญหาในตะวันออกกลางยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้น สหรัฐฯ จึงไม่อาจเปิดแนวรบด้านที่สองในทะเลจีนใต้ ส่วนท่าที่มั่นคงแข็งแรง ที่สหรัฐฯ แสดงให้เห็นล้วนแต่เป็นเรื่องตบตา
ชาวเน็ตนำบทความของนายหลงเผยแพร่ต่อในทันที และมีการส่งความเห็นเข้ามาสนับสนุนเกือบ 2,000 ราย นอกจากนั้น ยังเผยแพร่บทความชิ้นนี้ในภาคภาษาอังกฤษลงใน “China Iron and Blood” เว็บไซต์ด้านการทหาร ที่รวบรวมบทความ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบจากเวทีอภิปรายต่าง ๆ
ต่อมาเมื่อวันพฤหัสฯ (29 ก.ย.) โกลบอลไทมส์ก็ได้ลงบทความ ซึ่งไม่เห็นด้วยกับความเห็นของนายหลง เขียนโดยนายซุ่น เป่ยสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาเหลียนหยุนกัง ซึ่งรัฐบาลสนับสนุน ตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซู
นายซุ่นระบุว่า ความเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นการกระทำที่เสี่ยงใด ๆ ของจีนในกรณีพิพาทการอ้างสิทธิ์เหนือทะเลแห่งนี้อาจถูกสหรัฐฯ โหมกระพือสถานการณ์จนเกินความจริง เพื่อยับยั้งอิทธิพลอำนาจของจีน ที่กำลังผงาดในโลกก็เป็นได้
ปรากฏว่า ชาวเน็ตกว่า 1,000 คน เมื่ออ่านข้อโต้แย้งของนายซุ่นก็ถึงกับควันออกหู ตราหน้าเขาว่า “คนทรยศ”
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารหลายคน ซึ่งเกี่ยวข้องกับกองทัพจีนมีอาการรี ๆ รอ ๆ ยังไม่ปริปากใด ๆเรื่องบทความลั่นกลองรบของนายหลง เพราะเป็นประเด็นอ่อนไหว และสวนทางกับแนวนโยบายการพัฒนาอย่างสันติของจีน
นักวิเคราะห์ด้านการทหารของจีนผู้หนึ่งชี้ว่า บทความของนายหลงเป็นตัวแทนความคิดเห็นของชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่จำนวนหนึ่ง และผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารทุกคนทราบว่าจีนสามารถทำสงครามเช่นที่ว่านั้นได้ แต่บรรดาผู้นำจีนยังขาดความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
ขณะที่นายพันเอกนอกราชการคนหนึ่งของจีนเห็นว่า นโยบายอดทนใจกว้างของรัฐบาลจีนต่อความขัดแย้งในทะเลจีนใต้เป็นผลมาจากการไร้ความสามารถของรัฐบาลจีนเองในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในบริเวณนั้นและนำมาใช้
“แต่สงครามย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าฟิลิปปินส์และเวียดนามต้อนจีนให้จนมุม” เขาให้ความเห็นทิ้งท้าย