เอเจนซี/ASTVผู้จัดการ – บีวายดีเปิดจำหน่ายรถยนต์รุ่น e6 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 300 กม. ให้กับชาวจีนเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในเซินเจิ้น รัฐบาลจีนทุ่มเงินอุดหนุนกว่า 6 แสนบาทต่อคันหวังจูงใจให้ประชาชนหันมาซื้อ ส่งผลช่วยลดมลพิษและการนำเข้าน้ำมัน
วันที่ 26 ต.ค. บริษัทรถยนต์บีวายดี (BYD) ซึ่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันถือหุ้นอยู่ส่วนหนึ่งได้ประกาศวางจำหน่าย บีวายดี อี 6 (e6) รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบขนาด 5 ที่นั่ง ซึ่งสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 300 กิโลเมตร (ราว 186 ไมล์) ให้กับผู้บริโภคชาวจีน โดยเฉพาะชาวเมืองเซินเจิ้นที่จะได้รับเงินอุดหนุนพิเศษจากรัฐมากถึง 120,000 หยวน หรือราว 6 แสนบาท
บีวายดีเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า อี 6 หลายปีมาแล้ว โดยครั้งแรกกำหนดวางจำหน่ายในประเทศจีนในปี 2552 อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าวกลับล่าช้ามา 2 ปี จนกระทั่งเพิ่งสามารถเปิดขายให้กับประชาชนอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านั้นรถยนต์รุ่นนี้ได้ถูกนำมาใช้ทดลองวิ่งโดยเป็นรถแท็กซี่ในเมืองเซินเจิ้นมาก่อนหน้านี้เป็นเวลา 18 เดือนแล้ว โดยบีวายดีระบุว่า รถอี 6 ที่ถูกนำมาทดลองวิ่งเป็นแท็กซี่นั้นบางคันวิ่งไปแล้วกว่า 160,000 กิโลเมตร
สำหรับแบตเตอรี่ที่บรรจุอยู่ในรถยนต์บีวายดี อี 6 นั้นเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ฟอสเฟต (Lithium Iron Phosphate) หรือ FE ที่ทางบีวายดีพัฒนาขึ้นเอง โดยมีศักยภาพในการขับเคลื่อนรถยนต์ได้เป็นระยะทางไกลถึง 300 กิโลเมตรต่อการประจุไฟหนึ่งครั้ง นอกจากนี้รถยนต์ดังกล่าวยังสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าคู่แข่งนั้นเป็นรถยนต์ขนาด 4 ที่นั่ง
ในส่วนของระบบเครือข่ายการประจุไฟบีวายดีได้จับมือกับรัฐวิสาหกิจไชน่า เซาธ์เทิร์น พาวเวอร์ กริด (中国南方电网) เพื่อให้บริการการประจุไฟทั้งในพื้นที่สาธารณะที่มีการจัดเตรียมไว้ให้ในเมืองเซินเจิ้น และการประจุไฟ ณ ที่พักอาศัย
สำหรับราคาจำหน่ายของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบบีวายดี อี 6 อยู่ที่ 369,800 หยวน (ราว 1.85 ล้านบาท) อย่างไรก็ตามผู้บริโภคในเซินเจิ้นจะได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลคันละ 120,000 หยวน หรือ 6 แสนบาท ทำให้ราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่ายจริงลดเหลือเพียง 249,800 หยวน (ราว 1.25 ล้านบาท) เท่านั้น
ด้านนักวิเคราะห์ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ระบุว่า ความสำเร็จของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบของบีวายดีขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญคือ โครงสร้างพื้นฐานในการประจุไฟตามสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงการวิจัยและพัฒนาเพื่อลดน้ำหนักของแบตเตอรี่ลง โดยราคาหุ้นของบีวายดีในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ตกลงกว่าร้อยละ 62 หลังยอดขายรถยนต์ของบีวายดีตกลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจากความนิยมของรถยนต์ขนาดเล็กบีวายดีรุ่น เอฟ 3 ลดลง
ขณะเดียวกันในฐานะที่จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ก่อมลพิษมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน ทำให้รัฐบาลจีนหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนายานพาหนะที่ใช้พลังงานทางเลือก โดยหวังว่าจะช่วยลดการปล่อยมลพิษและลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันลง ซึ่งภายใน 4 ปีข้างหน้า หรือในปี 2558 รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะต้องมีรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าวิ่งอยู่ในประเทศจีนราว 1 ล้านคัน
