ขณะที่ชาวโลกกำลังถกในประเด็นร้อนที่ว่าใครจะเป็นได้อย่าง "สตีฟ จ็อบส์" คนต่อไป สื่อจีนรายงานว่าที่เมืองหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ได้เปิดโครงการฝึกอบรมผู้นำนวัตกรรมและพัฒนาอัจริยภาพบุคคลากรกว่า 1400 คน หวังสร้าง "สตีฟ จ็อบส์" รุ่นใหม่ made in China
หนิงปัว เปิดโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรครั้งใหญ่อีกครั้งในรอบ 13 ปี โดยผู้จัดโครงการออกตัวว่า แม้ว่า สตีฟ จอบส์ จะถือว่าเป็นผู้มีพรสรรค์อย่างยากที่ใครจะสามารถเลียนแบบได้ แต่ทว่าภายใต้ระบบและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยย่อมเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ผู้มีความสามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้เช่นกัน
สื่อจีนรายงานว่า โครงการดังกล่าวจะใช้เวลานับตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป ในการฝึกอบรม "ทายาท" สตีฟ จอบส์ ใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี และแบ่งระดับการฝึกอบรมออกเป็น 3 ระดับ โดยตั้งเป้ารับผู้เข้าอบรมทั้งสิ้นตลอดโครงการจำนวน 1400 คน ซึ่งในขณะนี้อยู่ในช่วงดำเนินการคัดเลือกผู้ที่จะเข้าอบรมรุ่นแรก
ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรมนุษย์และสวัสดิการสังคมเมืองหนิงปัวได้เปิดเผยเกี่ยวกับโครงการฝึกอบรมผู้นำนวัตกรรมและบุคคลากรที่มีความสามารถโดดเด่นครั้งนี้ว่า ทางเมืองหนิงปัวจะให้การสนับสนุนคนกลุ่มนี้อย่างเต็มกำลัง โดยครั้งนี้ถือว่าเป็นโครงการพัฒนาอัจริยภาพครั้งใหญ่อีกครั้ง หลังจากหนิงโปเคยจัด "โครงการพัฒนาอัจริยภาพ 4321(4321人才工程 : 4321 Telent Project)" ในปี พ.ศ.2541 มาแล้ว
ทุ่ม 50 ล้านหยวนอัดฉีดโครงการ
โดยมีรายงานว่า สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์เข้ารับการฝึกอบรมนั้น จะคัดเลือกจากคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงจากหน่วยงานวิสาหกิจและหน่วยงานสังกัดกระทรวงต่างๆ ในเมืองหนิงปัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมดาวรุ่งเชิงกลยุทธ์ อุตสาหกรรมดั้งเดิมที่มีความโดดเด่น หรือผู้ชำนาญเทคนิคเฉพาะทางในสายงานที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ภายใน 5 ปี เมืองหนิงปัวจะฝึกอบรมผู้นำนวัตกรรมและบุคคลากรอัจริยะได้ 1400 คน และประมาณการณ์ไว้ว่า ตัวเลขนี้จะเพิ่มไปเป็น 2800 คนในปี พ.ศ.2563 "ในระหว่างพ.ศ.2554-พ.ศ.2563 เราจะสามารถฝึกอบรมและผลิตบุคลากรในวงการการวิทยาศาสตร์และวงการวิศวกรรมระดับชาติ, นักวิชาการที่สร้างผลงานโดดเด่นให้กับประเทศ, ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของมณฑลเจ้อเจียง, ผู้เชี่ยวชาญหนุ่มสาวที่มีผลงานโดดเด่นของมณฑล รวมทั้งบุคลากรคุณภาพแถวหน้าของเมืองหนิงปัว" จิน จวิ้นเจี๋ย หัวหน้างานทรัพยากรมนุษย์และสวัสดิการสังคมเมืองหนิงปัว กล่าว
นอกจากนี้ สำนักงานทรัพยากรมนุษย์และสวัสดิการสังคมเมืองหนิงปัว ยังเปิดเผยว่าได้เพิ่มงบประมาณสำหรับการเฟ้นหาคนคุณภาพ โดยในเบื้องต้นประมาณการณ์ไว้ว่าจะใช้งบประมาณตลอดทั้งโครงการ(5ปี) เป็นจำนวนเงินมากกว่า 50 ล้านหยวน(ราว 235 ล้านบาท)
ดึงนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับชาติมาเป็นครูฝึก
นอกจากความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมด้านเทคโนโลยี และเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนทั้งในและต่างประเทศแล้ว วิทยากรผู้ฝึกอบรมอัจริยภาพบุคลากรก็ถือว่าเป็นไฮไลท์หนึ่งของโครงการนี้ "เราได้ทำการติดต่อนักวิชาการระดับชาติที่เป็นชาวหนิงปัว และนักวิชาการชั้นนำที่ทำงานอยู่ในเมืองหนิงปัว โดยจะเน้นนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับประเทศเป็นหลัก เพื่อมาทำหน้าที่เป็นวิทยากรฝึกอบรมบุคลากรในระดับที่ 1 โดยจะให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว " ผู้รับผิดชอบโครงการรายหนึ่งชี้แจง
ขณะนี้ โครงการได้เริ่มเปิดรับสมัครเพื่อคัดเลือกผู้เข้าร่วมฝึกอบรมรุ่นแรกแล้ว โดยรุ่นนี้จะคัดเลือกผู้เข้าอบรมราว 700 คน แบ่งเป็นระดับที่หนึ่ง 50 คน ระดับที่สอง 150 คน และระดับที่ สาม 500 คน โดยรับสมัครถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ โครงการฝึกอบรมดังกล่าวได้จัดคุณสมบัติของผู้เข้าอบรมออกเป็น 3 ระดับ ตามเงื่อนไขดังนี้คือ
ระดับที่ 1 ผู้เข้ารับการอบรมต้องมีอายุไม่เกิน 50 ปี คุณสมบัติมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับสูง เท่าทันความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ เป็นผู้นำทั้งในด้านศาสตร์พื้นฐานและการต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมการผลิต มีความสามารถติดอันดับโครงการพัฒนาอัจริยภาพระดับชาติ(百千万人才工程 : Hundred, Thousand and Ten Thousand Talent Project)และโครงการระดับมณฑล(151人才工程 : 151 talent program)
ระดับที่ 2 ผู้เข้ารับการอบรมต้องมีอายุไม่เกิน 45 ปี คุณสมบัติมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับสูง สามารถต่อยอดความรู้เพื่อพัฒนาภาคการผลิต สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ได้
ระดับที่ 3 ผู้เข้ารับการอบรมต้องมีอายุไม่เกิน 40 ปี เป็นผู้มีศักยภาพในการพัฒนาตัวเองไปเป็นบุคลากรที่มีความโดดเด่นในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลักต่อไปได้