ไชน่าเดลี - ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และปัญหาหนักใจจะรอดหรือจะม้วยของบรรดาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม รัฐบาลจีนก็ได้คลอดแผนระดับชาติฉบับแรกขึ้นมาเพื่อประคับประคองผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อยแล้วเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา
กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเปิดเผยแผนผลักดันการขยายตัวของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ซึ่งปรากฏอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน 5 ปี ฉบับที่ 12 (ปัจจุบัน) ในงานมหกรรม “เอสเอ็มอีสากลของจีน” ในก่วงโจว
จู หงเหริน ประธานฝ่ายวิศวกรรม ของประทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเผยว่า “สิ่งที่จะปรากฎในแผนนี้ก็ได้แก่โครงการปฏิบัติการต่าง ๆ ทั้งโครงการก่อสร้างเครือข่ายบริการสาธารณะและเพิ่มศักยภาพให้วิสาหกิจเอสเอ็มอี”
ในแผนฯ ระบุว่า จำนวนเอสเอ็มจีของจีนจะขยายตัวอย่างรวดเร็วในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งอัตราเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 8
เป้าหมายเบื้องต้นในแผนนี้มี 5 ประการ ประการแรกเพื่อยกระดับศักยภาพการสร้างสรรค์ธุรกิจและการสร้างงาน ประการที่ 2 เพื่อปรับโครงสร้างเอสเอ็มอีให้มีความเหมาะสม ประการที่ 3 เพื่อสนับสนุนการพัฒนาความใหม่ ความโดดเด่น ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ประการที่ 4 เพื่อยกระดับการจัดการให้กับผู้ประกอบการ และประการสุดท้ายเพื่อปรับระบบการให้บริการเอสเอ็มอีให้ดีขึ้น
วิสาหกิจเอสเอ็มอีกินสัดส่วนการผลิตสินค้าในจีนถึงร้อยละ 60 และถือว่าได้สร้างงานให้กับคนในประเทศถึง 80 เปอร์เซ็นต์
ในปีนี้ บรรดาเอสเอ็มอีจะต้องประสบกับความยากลำบากสาหัส และมีความเสี่ยงในการบริหารจัดการหนี้สิน ปัญหาขาดแคลนพลังงาน ทุน และแรงงานจะทำให้ผลประกอบการตกฮวบได้ บวกกับราคาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ซินหวาสัมภาษณ์ธุรกิจขนาดเล็ก 60 แห่ง และกลุ่มสมาคมอุตสาหกรรมอีก 10แห่งเมื่อเดือนก.ค.ในมณฑลเจ้อเจียง ฝูเจี้ยนและก่วงตง 8 ใน 10 บริษัทเผยว่า “พวกเขากำลังทุกข์ใจกับปัญหาที่ประสบนี้ ซึ่งมันหนักหนาสาหัสสุดเท่าที่เคยเจอ”
กำไรน้อยนิดทำให้ผู้ประกอบธุรกิจเองก็ลังเลว่าจะสั่งผลิตสินค้าดีหรือไม่ กอปรกับปัญหาแรงงานขาดแคลน ปัญหาพลังงาน และเงินกู้ ล้วนแล้วแต่ทำให้การผลิตชะงักไปหมด ธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขากำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ขมขื่นที่สุดในประวัติศาสตร์
รัฐบาลจีนพยายามช่วยเหลือวิสาหกิจเหล่านี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้นโยบายคุมเข้มการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อไปพร้อม ๆ กัน
ธนาคารกลางและคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) มีเป้าหมายสกัดเงินเฟ้อและต้องการรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน จึงได้พยายามกระตุ้นให้สถาบันการเงินให้การสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไปพร้อม ๆ กับการควบคุมการปล่อยกู้ในภาพรวม
เป็นที่คาดหวังอย่างยิ่งว่า แผนฯช่วยเหลือเอสเอ็มอีฉบับใหม่นี้จะช่วยให้บรรดาผู้ประกอบการรายย่อยและขนาดกลางพ้นความระทมขมขื่นไปได้ และหวังว่าจะสามารถสร้างระบบการจัดการให้ทันสมัย ตลอดจนการกู้เงินมาลงทุนให้ดีขึ้นด้วย