เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เจ้าของธุรกิจในเจ้อเจียงกว่า 200 ราย ได้หลบหนีไปซ่อนตัวตั้งแต่เดือนม.ค.มานี้ หลังจากเงินทุนหมุนเวียนที่ไปกู้หนี้ยืมสิน เกิดไม่เวียนหมุนดังคาด
โอเรียนทัล มอร์นิ่งโพสต์ รายงาน (10 ต.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลเจ้อเจียงว่า “เจ้อเจียงเป็นแหล่งประกอบการทางธุรกิจใหญ่ของจีนก็จริง ทว่า 228 บริษัท ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง หรือที่เราเรียกกันว่า เอสเอ็มอีทั้งหลาย เป็นหนี้เป็นสินไม่ได้จ่ายค่าจ้างแรงงาน 15,000 คน มูลค่าตั้ง 76 ล้านหยวน”
สำนักงานท้องถิ่นไม่เปิดเผยชื่อ เผยว่า โดยเปรียบเทียบแล้ว แรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างเนื่องจากนายจ้างหนีไปนั้นในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ปี 2552 อยู่ที่เพียงจำนวน 5,000 ถึง 6,000 คนเท่านั้น ยังไม่มากสู้ตอนนี้
โจว เต๋อเหวิน ประธานสมาคมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งเวินโจว คาดว่าสถานการณ์จะย่ำแย่อีก
“ก่อนจะถึงวันตรุษจีน จะยังคงมีบริษัทไม่น้อยที่ต้องทนทุกข์จนต้องปิดบริษัทหนีไป ในช่วงสิ้นปีนี้เป็นช่วงเวลาที่บรรดาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะหนีปัญหาการจ่ายค่าจ้างแรงงานเป็นประจำ” โจวย้ำ
รายงานเผยว่า เหตุผลสำหรับการหลบหนีของเจ้านายเหล่านี้ ก็คือการขาดทุนทรัพย์ เนื่องว่ามาตรการตรึงการปล่อยกู้ธนาคารของภาครัฐทำให้ต้องหันไปกู้หนี้จากภาคเอกชนดอกเบี้ยแพงหูฉีก ปัญหาด้านการจัดการและการรับรองหนี้ที่ไร้ประสิทธิภาพฯ เป็นต้น
รายงานอธิบายเพิ่มเติมว่า “ธนาคารกลางจีนได้เรียกร้องให้ธนาคารทั้งหลายคงเงินสดสำรองในคลังเพิ่มขึ้น และอย่างแรกที่ธนาคารเหล่านั้นทำ ก็คือ ปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีน้อยลง พวกเขาก็ต้องหันไปพึ่งหนี้นอกระบบ แต่ดอกเบี้ยก็แพงเกินรับได้ ทำให้มิอาจรับภาระหนี้สินได้ ทำให้ต้องล้มละลายหนีหนี้ไปในที่สุด”
ในจำนวน 288 กรณีที่หนีหนี้ในมณฑลเจ้อเจียงนั้น เกิดขึ้นในเวินโจวถึง 84 ราย เพราะว่าผู้ปล่อยกู้ที่นั่นเคี่ยวเก็บดอกเบี้ยแพงมาก
โจวย้ำว่า “เอสเอ็มอีกำลังเผชิญปัญหากำไรหดหาย เนื่องจากเงินหยวนแข็งค่าขึ้น การสั่งผลิตก็น้อยลง ราคาต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และต้องซื้อหาวัสดุใหม่ที่ลดมลภาวะตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจีนฉบับปัจจุบันอีก”
กระแสหนีหนี้เริ่มเป็นที่สนใจระดับชาติ หลังจาก หู ฟู่หลิน ผู้ประกอบกิจการผลิตแว่นตาขนาดใหญ่ของจีนหลบหนีออกจากเวินโจวไปอเมริกา ทิ้งภาระหนี้ไว้ถึง 1,500 ล้านหยวน และเขาได้รับการเชิญให้กลับจีนแล้วในสัปดาห์นี้
ข่าวลือกระพือขึ้น ว่า รัฐบาลเวินโจวได้เรียกร้องให้รัฐบาลมณฑลฯ ขอเงินช่วยเหลือจากธนาคารกลางเพื่อทำให้ตลาดการเงินท้องถิ่นเสถียรจำนวนถึง 60,000 ล้านหยวน และแนะว่า 89 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนหรือครอบครัวที่อยู่ในเมืองจะมีสิทธิ์ได้รับเงินกู้จำนวนนี้
อย่างไรก็ตามก่วงโจวเดลีลงข่าวว่า “สำนักจัดการด้านกฎหมายการเงินของเวินโจวเผยว่า ไม่เคยได้ยินข่าวลือดังกล่าว ขณะที่ธนาคารกลางสาขาเวินโจวก็ออกมาเผยว่า ตัวเลข 89 เปอร์เซ็นต์ก็คือผลสำรวจจาก 300 ครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนี้นอกระบบในเวินโจวเท่านั้น”
สำนักกรมแรงงานเจ้อเจียงได้ทำการตรวจสอบเรื่องค่าจ้างแรงงานในธุรกิจเอสเอ็มอี ที่นายจ้างหลบหนีแล้ว เพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์เลวร้ายลง
รายงานได้อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดไม่เผยนาม ระบุว่า รัฐบาลมณฑลเจ้อเจียงได้ช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ โดยสนับสนุนเงินกว่า 40 ล้านหยวนให้กับแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย. ส่วนในปีที่ผ่านมา (2553) จำนวนที่จ่ายให้กับแรงงาน อยู่ที่เพียง 10 ล้านหยวนเท่านั้น